tu คณะศิลปศาสตร์ ความเชื่อ ตำนาน ผี มธ เรื่องลี้ลับ

ตำนานลิฟต์แดง แห่งรั้วธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ – เรื่องเล่าของชาว TU

Home / เรื่องเล่ามหาวิทยาลัย / ตำนานลิฟต์แดง แห่งรั้วธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ – เรื่องเล่าของชาว TU

เมื่อพูดถึงตำนาน หรือเรื่องเล่าสยองขวัญของ ม.ธรรมศาสตร์ แล้วล่ะก็ เรื่องแรกที่เรามักจะนึกถึงกันนั้นก็คือเรื่อง “ลิฟต์แดง” ตำนานความลึกลับที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด และยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่องมหาลัยสยองขวัญอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ที่กลุ่มผู้ปราบปราม บุกเข้ามาในม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อกวาดล้างขบวนการนักศึกษา…..

ตำนานลิฟต์แดง แห่งรั้วธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

โศกนาฏกรรมที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ไทย ตามตำนานที่เล่าว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (วันฆ่านกพิราบ) ขณะที่กลุ่มนักศึกษากำลังชุมนุม เพื่อยื่นข้อเรียกร้องทางการเมือง ทันใดนั้นก็มีเหล่าทหาร-ตำรวจ (กลุ่มผู้ปราบปราม) จำนวนมาก บุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อกวาดล้างพวกนักศึกษา อย่างโหดเหี้ยม

โดยมีเรื่องเล่าต่อกันว่า ..

มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ในลิฟต์ภายในมหาวิทยาลัย หวังเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่า ทว่าก็ไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้ เพราะทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาก็ถูกกระหน่ำยิงอย่างทารุณจนเสียชีวิตทั้งหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟต์

ต่อมาทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ลิฟต์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไง คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟต์ให้เป็นสีแดง และถูกเรียกว่า “ลิฟต์แดง” เป็นต้นมา แล้วทางมหาลัยก็ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ

จากนั้นก็เริ่มมีเสียงเล่าลือ…

ถึงความสยองขวัญของลิฟต์ตัวนั้น ทั้งนักศึกษา และอาจารย์ต่างเคยสัมผัสเหตุชวนขนลุกกันมาแล้ว เช่น บางคนเข้าไปในลิฟต์คนเดียว จากนั้นไม่นานก็มองเห็นคนอยู่ในลิฟต์เต็มไปหมด หรือจู่ๆ ขณะกำลังขึ้นลิฟต์ก็มีนักศึกษาเดินเข้ามา พร้อมรอยเลือดที่ไหลมาตามทาง ไม่เว้นแม้แต่เสียงโหยหวน และรอยคราบเลือดสีแดง ที่หลายคนอ้างว่าเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว!

ปัจจุบันลิฟต์แดงถูกถอดออกไปแล้ว เพราะมีสภาพผุพัง และได้นำลิฟต์ตัวใหม่มาแทนที่ อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัย ยังคงเก็บ “ประตูลิฟต์แดง” ของจริงเอาไว้ โดยนำไปตั้งอยู่ที่หลังบันไดจากชั้น 4 ขึ้นไปชั้น 5 ของคณะศิลปศาสตร์ มาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงถึงความสูญเสียของเหล่านักศึกษาผู้บริสุทธิ์ ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงสืบต่อไป

ข้อมูลจาก : painaidii.com, www.thaicinema.org

บทความแนะนำ