mju ความเชื่อ ตำนาน มหาวิทยาลัย เรื่องเล่า

จิตแข็งพอที่จะอ่านมั้ย ? รวมตำนานหลอน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

Home / เรื่องเล่ามหาวิทยาลัย / จิตแข็งพอที่จะอ่านมั้ย ? รวมตำนานหลอน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

หลังจากที่เราได้เคยนำเสนอบทความ “เรื่องน่ารู้ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้” กันไปแล้ว ครั้งนี้เราก็มีเรื่องเล่าหลอนๆ ความเชื่อต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับน้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำของที่นี้ และยังรวมถึงตำนานสยองที่เคยเกิดขึ้นที่นี้อีกด้วย (ตำนานอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่ถูกแต่งแต้มขึ้นมาหรือไม่นั้น เราก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้น้า) จะรอช้าอยู่ทำไม? ถ้ากล้าพอก็มาอ่านกันได้เลยค่ะ

รวมตำนานหลอน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ความเชื่อ

1. ลูกแม่โจ้ทุกคน ยึดถือคำกล่าวที่ว่า “เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณ๊ สามัคคี อาวุโส”

2. นักศึกษาปีสุดท้ายแทบทุกคนต้องเคยมาบน “ศาลเจ้าแม่โจ้” เพื่อขอให้จบการศึกษาทันเพื่อน

3. มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ประจำมหาวิทยาลัย 3 แห่ง คือ “ศาลเจ้าแม่โจ้” “ศาลเจ้าพ่อโจ้” และ “องค์พระพิรุณ” นอกนั้นจะเป็นอนุเสาวรีย์บุคคลสำคัญของแม่โจ้ในอดีต

4. ลูกแม่โจ้ ไม่ข้ามรั้วมหาวิทยาลัย เดี๋ยวจะเรียนไม่จบกัน

5. เวลาเข้าโดมห้ามเงยหน้า ไม่งั้นจะเห็นอะไรๆ ที่ไม่ควรเห็น

6. ช่วงหลังสอบมิดเทอม 1 สัปดาห์ จะเป็น “เทศกาลดอกซากุระ” หรือช่วงดรอปวิชาที่เรียนแล้วคิดว่าไม่รอด (ใบดรอปมีสีชมพู) ที่ให้ดรอปเป็นสัปดาห์สุดท้าย

7. ใบดรอปจะไม่มีการแตะต้องของกัน หรือส่งต่อให้กัน (ฝากเอาก็ไม่รับฝาก) เพราะมีความเชื่อว่าแตะแล้วจะต้องได้ใช้เอง

เรื่องลึกลับ

ว่ากันว่า มีนักศึกษาเคยเห็นอนุสาวรีย์ “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” ที่เป็นรูปคนลากเกวียน ออกมาเดินผ่านหน้าหอในเวลากลางคืน แล้วหายไปต่อหน้าต่อตา

พิธีกรรมรับน้องในวันสุดท้าย ทำให้ทุกคนต้องขนลุก แม้แต่คนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับยังต้องเชื่อ… ในทุกๆ รุ่นจะมีลูกโจ้หลายสาขา (เช่น ตลาด บัญชี ฯ) ที่เล่นของ มีองค์ ตลอดจน ร่างทรง ยกครู ของขึ้นในพิธีสำคัญทุกปี

ในวันหยุดช่วงเข้าพรรษา น้องๆ กลับบ้านกันเกือบหมด หอ 2 ชั้น 3 เคยได้ยินเสียงคนลากโต๊ะในห้อง 327 ทั้งๆ ที่หออยู่กันแค่พี่ชั้น 2-3 คน กับน้องๆ ที่วิ่งลงมาใต้หออีก 5-6 คน เสียงก็ยังไม่หยุด จนต้องเรียกประชุมพี่ชั้นทุกหอ (ปี 2549)

ในวันหยุดช่วงเข้าพรรษา (อีกเหมือนกัน) หอ 2 ชั้น 3 (อีกแล้ว) เคยมีรุ่นพี่อยู่ห้องคนเดียว แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงดนตรีไทยบรรเลงสด ดังขึ้นในห้อง

ในวันหยุดช่วงเข้าพรรษา (อีกแล้ว) หอ 2 ชั้น 2 เคยมีรุ่นพี่อยู่ห้องคนเดียวแล้วมีคนมาเคาะประตู แต่เปิดออกไปดูไม่มีใคร มีแต่เงาดำๆ วูบผ่านหน้าทะลุไปทางหน้าต่างฝั่งบ่อบำบัดน้ำเสีย

ในห้องอาบน้ำหอพักชาย 2 ถ้าใครอาบน้ำตอนกลางดึก จะมี “ผีเด็ก” มาร้องไห้หาพ่อ

เวลาอาบน้ำในหอใน (ชาย) อย่าปืนขึ้นไปมองห้องข้างๆ ที่อาบน้ำอยู่ (เพราะคิดว่าเป็นเพื่อน ซึ่งชวนกันไปอาบน้ำแล้วมันบอกว่าเดี๋ยวตามไป) เพราะท่านจะเจอสิ่งลี้ลับ

วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี ห้ามนอนดึกกว่าเที่ยงคืนเด็ดขาด ว่ากันว่าจะมีขบวนแห่งลึกลับผ่านหอใน ถ้าใครแอบดูต้องได้นอนจับไข้หัวโกร๋นกันทุกราย

หัวหน้าภาควิชาภูมิทัศน์และสถาปัตย์เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่ท่านยังเป็น นศ. แม่โจ้ มีรุ่นน้องสติไม่สมประกอบคนนึง ชอบเอาเชือกมาผูกคอตัวเองเล่น… จนกระทั่งวันหนึ่งอาจารย์เดินผ่าน อนม. (องค์กรนักศึกษาแม่โจ้ ตรงข้ามสนามเทนนิส) ในช่วงเวลาตี 3 ก็ได้เห็น… ร่างของรุ่นน้องห้อยโต่งเต่งใต้ต้นไม้ใกล้ อนม. เขาผูกคอตายตัวเอง! สันนิษฐานว่าคงสติไม่ดีเผลอเอาเชือกผูกคอ จนเผลอตกลงมาตาย หลังจากนั้นไม่นาน หากใครทะเล่อทะร้าเดินผ่านบริเวณนั้นตอนดึกดื่น จะเห็นร่างทะมึนลอยอยู่ใต้ต้นไม้ คอยหลอกหลอนเด็กที่ชอบเดินเปลี่ยวจนปัจจุบัน!!!

เคยมีรุ่นพี่ไม่สบายที่ หอหญิง 8 ชั้น 4 เพื่อนๆ ในห้องเลยลากที่นอนลงมานอนรวมเป็นเพื่อนกัน (เตียง 2 ชั้น 2 เตียง, อยู่กัน 4 คน) พี่คนที่ป่วยอยู่ตื่นมากลางดึก เห็นมีคนนอนถัดจากตัวเองไปอีก 4 คน (รวมตัวเองก็เป็น 5 มาจากไหนอีก 1)

ห้องสโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ถ้ามีคนนอนในสโมสรฯ ห้ามหันหัวไปทิศตะวันตก เพราะได้เจอดีกันมาเยอะแล้ว (ปัจจุบันยังเจอกันอยู่)

ลิฟท์ที่ตึก 70 ปี พูดภาษาไทยได้ มีอยู่วันนึงขึ้นลิฟท์ก่อน 8 โมงเช้าคนเดียว เข้าลิฟท์แล้วกดชั้น 4 แล้วกดปิดประตูลิฟท์ ลิฟท์กำลังจะปิด แล้วจู่ๆ ก็เปิดพร้อมพูดว่า “กรุณาอย่าเข้าลิฟท์ขณะที่ลิฟท์กำลังจะปิดค่ะ” (ใครเข้ามาอีกเนี่ย?) พอกดปิดแล้วลิฟท์ขึ้นไปเปิดที่ชั้นสอง (กดแต่ชั้น 4 นะ) แต่ไม่มีคนอยู่ชั้นสองเลยกดปิดใหม่ พอลิฟท์กำลังจะปิด มันก็เปิดใหม่อีก พร้อมพูดว่า “กรุณาอย่าเข้าลิฟท์ขณะที่ลิฟท์กำลังจะปิดค่ะ” (ที่พูดๆ ว่าอย่าเข้ามาเนี่ย ไม่ใช่คนแน่ๆ) ใจเริ่มเสียแล้ว กดปิดลิฟท์ใหม่ แล้วลิฟท์ก็ไปเปิดใหม่ที่ชั้นสาม!? ซึ่งก็ไม่มีคนอยู่อีก พอกันที อีกชั้นเดินขึ้นก็ได้ ไม่สนลิฟท์แล้ว (จาก…ประสบการณ์ตรงเทอม 1 ปี 53)

ที่มา : ไร้สาระนุกรม (อัพเดทเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2558)

บทความแนะนำ