สสย. เข็มพร วิรุณราพันธ์ เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม

เปิดตัวโครงการดีๆ “เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม”

Home / กิจกรรม / เปิดตัวโครงการดีๆ “เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม”

แถลงข่าวเปิดตัวโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ณ โรงแรม TK.PALACE HOTEL CONVENTION แจ้งวัฒนะ เวลา 9.00 น.-12.00 น. สำหรับโครงการ “เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม” โครงการดีๆ ที่สร้างสรรค์สังคม

โดยเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้มีเวทีและพื้นที่สำหรับการส่งเสียงความคิด ความเห็น ความต้องการ ความสามารถ เพื่อเดินหน้าและให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ออกมาจากของพวกเขาเอง โดยมีคุณเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมเพื่อเด็กและเยาวชน สถาบันเด็กและเยาวชน (สสย.) และ คุณเนตรดาว ยั่งยุบล หัวหน้าโครงการเด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม เข้าร่วมงานแถลงข่าวและกล่าวเปิดตัวโครงการ ร่วมด้วย ตัวแทนเด็กและเยาวชนจาก 5 ภาคของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการ

คุณเนตรดาว ยั่งยุบล หัวหน้าโครงการเด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม
คุณเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมเพื่อเด็กและเยาวชน สถาบันเด็กและเยาวชน (สสย.)

นางสาวเข็มพร วิรุณราพันธ์กล่าวว่า “สื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ มีพื้นที่ มีการสื่อสารถึงเรื่องราวของตัวเขาเอง ผ่านอัตลักษณ์ของเขาเอง โดยที่ผ่านมาส่วนใหญ่เวลาพูดถึงปัญหาเด็กและเยาวชน มักจะเป็นผู้ใหญ่ที่ออกมาบอกว่าเด็กๆ มีปัญหาอะไรบ้าง ต้องการอะไรบ้าง แต่เรามักจะไม่ค่อยได้ยินว่าแท้จริงแล้วเด็กและเยาวชนเขาคิดอย่างไร โครงการนี้จึงเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมโดยเฉพาะในยุคไทยแลนด์ 4.0 ยุคดิจิทัลที่มีเครื่องมือการเข้าถึงสื่อและใช้สื่ออย่างกว้างขวาง เราจึงต้องเชื่อมั่นว่า เด็กและเยาวชนเขามีพลัง สามารถที่จะส่งเสียงถึงความเป็นตัวเขาออกมาได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ และสามารถที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเองได้ สามารถที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคมได้”

นายเป้ย-ฤทธิ์พันธ์ วิจิตรพร อดีตหัวหน้าแก๊งเอราวัณ แก๊งมอเตอร์ไซด์ที่มีสมาชิกกว่า 200 คัน จากจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ให้สัมภาษณ์ว่า

“ความผิดพลาดของชีวิตในอดีตเนื่องจากความรู้สึกกดดันจากครอบครัวที่ตั้งความหวังกับผมไว้สูง อยากให้เรียนตามที่ครอบครัวคิดว่าดีสำหรับเรา ก็คือเป็นหมอ แต่ผมไม่ได้ชอบไปทางด้านนั้น เลยต่อต้านด้วยการไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ ช่วงมอ.ปลายผมเลยต้องย้ายโรงเรียนถึง 7 ที่ และเข้าไปอยู่ร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่รู้สึกว่าทำให้ตัวเองสบายใจ ต้องพัวพันเรื่องปัญหายาเสพติดและการทะเลาะวิวาทอยู่เสมอ ก็ใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นประมาณ 6 ปี วันหนึ่งก็คิดได้ว่าถ้าเกิดเราใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ ต้องได้ขอทานเขากินแน่ๆ และต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นนไม่ดีแบบนี้ไปตลอด เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง และลองไปนั่งขอทานได้เงินมา 25 บาท เป็นข้าวมื้อที่อร่อยที่สุดในโลก ก็ได้อ่านหนังสือธรรมะ และได้ชักชวนให้เพื่อนๆ ที่เดินทางผิดอยู่มากลับตัวเป็นคนดี” ซึ่งนายฤทธิ์พันธ์ได้รับรางวัล ‘คนดีศรีเชียงใหม่’ รางวัลเยาวชนดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ และเป็น ‘ทูตความดีแห่งประเทศไทย’ จากสมเด็จพระเทพฯ