7 เรื่องเล่าชวนขนหัวลุก ในสวนกุหลาบวิทยาลัย

เรื่องเล่าหลอนๆ ในครั้งนี้ที่เราเอาฝากเพื่อนๆ กัน เป็นเรื่องที่ทุกคนอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมากันบ้างแล้ว สำหรับเรื่องราวอาถรรพ์ต่างๆ ในสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งจากรุ่นพี่หลายๆ รุ่น ตลอดจนเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันก็มี บางเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา หรือบางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง ก็ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเป็นจริงหมดหรือเปล่า?

เราไม่อยากให้เพื่อนๆ ที่อ่านใส่ใจมากนัก ขอให้มองเสียว่าเรื่องเล่าเหล่านี้เป็นประหนึ่ง “น้ำจิ้ม” แล้วเมื่อเพื่อนๆ อ่านมัน เพื่อนๆ จะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความหลอน น่ากลัว เพราะในแต่ละเรื่องอาจจะมีความเกี่ยวพันกับตัวเพื่อนๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ (สำหรับศิษฐ์เก่าเด็กสวนก็ต้องเคยได้ยินมามั้ง และคงเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง) แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ยินแล้วล่ะก็ ระวัง!! อย่าอ่านคนเดียวนะ….  กับ 7 เรื่องเล่าอาถรรพ์!! อันน่าขนลุกในสวนกุหลาบวิทยาลัย

เรื่องเล่าชวนขนหัวลุก สวนกุหลาบวิทยาลัย

1. เด็กผมจุกบริเวณหน้าห้องประชาสัมพันธ์เก่า

ในช่วงที่ชุมชุมเชียร์ถ่ายโค้ดกันอยู่ตอนดึก มักมีเด็กผมจุกวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในห้องเสมอ แต่จะไม่เห็นชัดๆ จะเห็นเป็นเงาแวบๆของเด็กน้อยอยู่ที่หางตาเสมอ บางทีก็มีเสียงเด็กวิ่งอยู่ห้องข้างหัวเราะคิกตักเหมือนจะเล่นด้วย เรื่องนี้คนที่มาช่วยถ่ายโค้ด หรือนั่งอยู่หน้าห้องประชาสัมพันธ์เก่าก็มักจะเจอเด็กคนนี้เหมือนกัน หลังจากตึกยาวบูรณะ ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กผมจุกอีกเลย

2. นางสไบเขียวในห้องเชียร์

ห้องชุมนุมเชียร์เก่าจะมี 3 ห้อง ห้องที่เกิดเหตุคือห้องที่เก็บเพลท มีคนเห็นผู้หญิงห่มสไบเขียวนั่งอยู่บน TOWER เก็บเพลต ซึ่งจะอยู่สูงมากอันเป็นการอุตริที่จะปีนขึ้นไปนั่งบนนั้น แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องเผ่นคือเธอไม่มีขา! และอีกเรื่องเกี่ยวกับเธอก็คือในวันที่ต้องค้างคืนทำงานเชียร์มีรุ่นพี่ไปลบหลู่เธอ ว่าแน่จริงให้ปรากฏออกมาในคืนนั้น เธอออกมาปรากฏตัวให้เห็นอีกในสภาพไม่มีขา! ลอยผ่านหน้าห้องไปมา จนรุ่นพี่คนนั้นนอนไม่หลับทั้งคืน

3. ปัสสาวะรดหลุมทรายเจอดี

มีการท้าพิสูจน์ตอนเที่ยงคืนจากกลุ่มรุ่นพี่ที่ค้างโรงเรียนทำงานกลุ่มหนึ่งว่า ถ้ามีจริงๆขอให้ได้ยินเสียงออด (ที่เราได้ยินตอนเปลี่ยนคาบทุกวันนั่นแหละ) ในตอนเที่ยงคืนพอดี ว่าแล้วก็ปัสสาวะลงหลุมทรายโดยมีเจตนาลบหลู่ ทันใดนั้นเองเสียงออดก็ดังขึ้น ติ้ง…ต่อง…ต่อง…ต่อง…ต่อง…ตอง…ต๊อง…ตอง ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ กลุ่มรุ่นพี่รีบหนีทั้งที่ยังปัสสาวะกันไม่เสร็จ ปัดโธ่! ตอนเที่ยงคืนใครจะบ้ามากดออดสัญญาณกันเล่า!

4. ห้องดุริยางค์ 1201!

มีเด็กดุริยางค์ลืมของทิ้งไว้หน้าห้องดุริยางค์เก่าอยู่บนตึกยาว ทันทีที่ขึ้นบันไดก็รู้สึกแปลกๆ ที่รู้สึกว่าแปลกก็คือดูตึกยาวจะใหม่ขึ้น พอถึงหน้าห้องดุริยางค์ก็เอาของถือกลับมา ตอนกำลังจะลงมีอะไรดลใจให้เหลียวไปมองเลขตึก ปรากฏว่าเป็นเลข 1201 ทันใดนั้นเขาก็วิ่งกลับบ้านอย่างไม่คิดชีวิต ทำไมน่ะเหรอ ห้อง 1201 ถึง 1205 ถูกระเบิดพังไปแล้วตั้งแต่สมัยสงครามโลก เพราะฉะนั้น ตึกยาวจะเริ่มที่ห้อง 1206 แล้วห้อง 1201 ที่เขาพบล่ะ!

5. หยิบของจากห้องจาริกานุสรณ์เก่า โดนทหารญี่ปุ่นทวงคืนในฝัน

เด็กนักเรียนสองคน พบห่อผ้าประหลาด 2 ห่อในตู้โบราณที่ตั้งอยู่ในห้องจาริกานุสรณ์ เขาทั้งสองจึงเอามันหลับบ้านเป็นที่ระลึกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เด็กคนแรกนอนหลับฝันว่า เขากำลังเดินอยู่บนตึกยาว และได้ยินเสียงระเบิดจากเครื่องบินเป็นระยะ ทันทีที่เขาเดินผ่านห้องจาริกาฯ ก็มีทหารญี่ปุ่นสะพายปืนถลันออกมาจากห้อง ต่อว่าเขาเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เขาไม่เข้าใจ ตื่นเช้ามา เขารีบไปโรงเรียนเอาห่อผ้าไปคืน เจอเพื่อนอีกคนที่เอาห่อผ้าหลับบ้านที่หน้าประตูโรงเรียน จงบอกให้ฟังในเรื่องที่ตนฝันเมื่อคืน ปรากฏว่า ทั้งสองคนฝันแบบเดียวกัน! และเมื่อแกะห่อผ้าดู ทั้งสองคนต่างไม่รอช้าที่จะเอาไปคืนใส่ตู้โดยเร็วที่สุด เพราะสิ่งที่พบในห่อผ้าคือเถ้ากระดูกนั่นเอง!

6. มือลึกลับที่โฟโต้

ในห้องโฟโต้เก่าบนตึกยาว จะมีห้องล้างรูปซึ่งเป็นห้องมืดอยู่ด้วย วันหนึ่งมีการล้างรูป เด็กชุมนุมสองคนจึงต้องช่วยกันล้างรูปให้เสร็จก่อนค่ำ ขณะที่ล้างรูปอยู่ในห้องมืด คนนึงบอกกับเพื่อนว่า “อย่าจับหลังผมซิ” อีกคนบอกว่า “แกนั่นแหละ จับหลังฉัน” ต่างคนต่างบอกเช่นนี้แต่ไม่มีใครจับหลังใคร ว่าแล้วทั้งสองก็ลองไล่สัมผัสปลายมือที่จับหลังตนขึ้นไปเรื่อยๆเพราะต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายแกล้ง ปรากฏพอคลำเลยท่อนแขนล่างมา ท่อนแขนกลับหายไปเฉยๆ ทั้งสองคนจึงพูดพร้อมกันว่า “เฮ้ย แล้วนี่มันมือใครวะ หรือว่า…” พอพูดจบ ทั้งสองก็ปัดมือนั้นทิ้ง รีบเผ่นออกมาจากห้องชุมนุมโดยไม่เหลียวหลังไปมองอีกเลย

7. โจรเจอดี

สมัยที่กองอำนวยการต่างๆยังอยู่บนตึกหลังยาว ในค่ำวันหนึ่ง โจรร้ายได้ลอบปีนขึ้นมาขโมยของบนตึกยาว บังเอิญพอปีนขึ้นมาในห้องเจอลุงแก่ๆคนหนึ่งอยู่ในเงามืดของห้องจึงบอกว่า “ลุงช่วยผมหน่อยซิ ถ้าลุงช่วยผมจะแบ่งให้ลุงอย่างงามเลย ไม่มีใครรู้หรอก” ว่าแล้วโจรก็เดินหยิบของมีค่าในห้องเรื่อยๆ แล้วโยนให้เพื่อนโจรที่รอรับของข้างล่าง พอดีโจรจะหยิบเครื่องพิมพ์ดีดหลังลุงแก่ โจรเลยบอกว่า “ลุงหยิบพิมพ์ดีดหลังลุงให้หน่อย” ลุงแกเลยหมุนคอไปข้างหลังหยิบพิมพ์ดีดแล้วส่งให้โดยไม่ต้องเดิน เพราะลุงอาศัย “ยืดแขน” ส่งมาให้ ทันใดนั้นโจรร้ายก็รู้แล้ว่าพบกับอะไร ไม่ทันที่จะปีนหนี เพื่อนโจรที่อยู่ข้างล่างก็เห็นมือยักษ์ จับตัวเพื่อนปล่อยลงมาจากตึก โดยไม่รอช้า ทั้งสองรีบหนีไม่คิดชีวิตลืมของที่จะขโมย เช้าวันต่อมาทั้งสองเข้ามอบตัว และคืนของมีค่าชิ้นเล็ดชิ้นน้อยที่ติดตัวไว้จนหมดสิ้น

——————————————-

ที่มาจาก : http://mystery.acnestory.com/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง