ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 2 ตำนานหลอน สถาบันการบินพลเรือน

สถาบันการบินพลเรือน การเรียนการสอนที่นี่หลักๆ ก็เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ภายในตัวสถาบันก็ไม่ใหญ่โตมากนัก มีเครื่องบินตั้งโชว์ให้เห็นเป็นระยะๆ (ความรู้สึกคล้ายๆ เดินงานวันเด็กอยู่เหมือนกัน) ที่นี่เค้าจะไม่เรียกเด็กของเค้าว่า นักศึกษานะค่ะ แต่จะเรียกว่า ศูนย์ฝึกฯ นอกจากนี้ที่นี้ยังมีการรับน้องที่น่ารักอีกด้วยนะ นั่นก็คือ น้องๆ ปี 1 จะเดินกลับบ้านเรียงกันเป็นแถว สองข้างทางก็จะมีรุ่นพี่คอยตะโกนบอกให้กลับบ้านดีๆ นะน้อง กลับบ้านปลอดภัยนะน้อง เรียกได้ว่า ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น สถาบันน่ารัก แต่ที่นี้ก็ยังมีเรื่องเล่าผีให้เราได้ขนหัวลุกกันอีกด้วย อย่างเรื่องเล่าต่อไปนี้ที่จะทำให้ทุกคนที่ได้อ่านไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ

ตำนานหลอน สถาบันการบินพลเรือน

1. ห้องเรียนกระจก

ใครอยากมาลองของที่นี่ เค้าจัดไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ ผีทุกตัวรวมกันอยู่ที่ตึก CM ไม่ต้องกลัวจะเหนื่อย เดินเปลี่ยนไปตึกนั้น มาตึกนี้ ชั้น 2 ตึก CM จะมีห้องเรียนอยู่ห้องหนึ่ง จะเป็นห้องที่กระจกเยอะที่สุด พี่บอลรุ่นพี่ศูนย์ฝึกฯ ของที่นี่เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันงานกีฬา ทางพวกผู้ชายแข่งเสร็จก็สบาย เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงไหนก็ได้ แต่ผู้หญิงเค้าก็ต้องหาที่มิดชิดนิดนึง ก็เลยขึ้นมาชั้นสอง กะจะมาเปลี่ยนที่ห้องนี้ พี่บอลเล่าว่าจังหวะที่น้องเค้าเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ออกจากห้องมากำลังจะปิดประตู (ประตูเป็นแบบเปิดเข้าข้างใน) ประตูก็ถูกดึงกลับ เหมือนกับว่ามีคนดึงสวนไปอีกทาง น้องผู้หญิงคนนี้ก็ตกใจ เพราะในห้องไม่มีใครนี่นา แต่พอชะโงกหน้าไปดูกลับตกใจยิ่งกว่าค่ะ เพราะเธอเจอผู้ชายร่างท้วมยืนจังก้ามองเธออยู่ (จำผีผู้ชายร่างท้วมคนนี้ไว้ดีๆ นะ)

2. ล็อกเกอร์

ความเก๋ของตึก CM คือ จะมีตู้ล็อกเกอร์ใว้ให้ศูนย์ฝึกฯ แต่ละคนใช้เก็บของ อารมณ์นี้ใครเคยเรียนโรงเรียนประจำน่าจะพอนึกภาพออก แต่ขณะเดียวกันเรื่องผีที่น่ากลัวที่สุด ทุกคนเคารพที่สุด ก็คือเรื่องของล็อกเกอร์ที่เรากำลังจะเล่านี่ล่ะค่ะ….

ตู้ล็อกเกอร์อันปัจจุบันนี้จะเป็นตู้ใหม่ เป็นตู้สีเหลือง เหตุผลที่นำมาใช้แทนตู้เก่าไม่มีใครทราบแน่ชัด และตู้เก่าก็ไม่ได้ย้ายไปไหนไกลเลยค่ะ อยู่ข้างหลังตู้ใหม่นี่เอง ตู้ล็อกเกอร์อันใหม่นี้ เป็นตู้ที่ศูนย์ฝึกฯ ทุกคนใช้กันเป็นเรื่องปกตินะ ตู้ใครตู้มัน จะมีจุดที่ไม่ปกติก็คือ บนตู้มีน้ำแดงสำหรับไหว้เพียบเลย! มีเยอะขนาดเต็มตั้งแต่หัวตู้ไปยันท้ายตู้ แถมด้วยสายสิญจน์พันกันระโยงระยางเลยค่ะ เห็นครั้งแรกก็สงสัยมากกว่า ว่าเค้าไหว้อะไรกัน? เจ้าที่ที่ไหนมาประจำการอยู่ตู้ล็อกเกอร์? จนมารู้ถึงตำนานว่า เคยมีรุ่นพี่ศูนย์ฝึกฯ คนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์คว่ำเสียชีวิตระหว่างกำลังมาเรียน จากนั้นตอนเช้าๆ ก็ยังมีคนเห็นพี่คนนี้เอาเสื้อผ้า เอาของมาเก็บที่ล็อกเกอร์ ยิ่งช่วงตายใหม่ๆ แม่บ้านเห็นกันจนไม่เป็นอันทำงาน ก็สันนิษฐานว่าน้ำแดงเหล่านี้อาจจะมีไว้เพื่อรุ่นพี่คนนี้นี่เอง (คาดว่านะ ที่มาแท้จริงของการไหว้น้ำแดงอาจจะเดือดกว่าเรื่องนี้ก็ได้)

อ่ะ! กลับมาที่เรื่องเล่าของพี่บอลกันต่อ พี่บอลบอกว่าเคยมีเพื่อนเค้าคนนึง ก็เมาๆ มาล่ะค่ะ ขึ้นมาก็ท้าทายตามประสาคนเมาเต็มที่ เดินไปหยิบเอาน้ำแดงบนตู้มาดื่ม เพื่อนก็ถามรสชาติเป็นไง ไอ้คนดื่มก็บอก “จืดว่ะ” พอสิ้นเสียงจืดว่ะเท่านั้นแหละ พี่บอลบอกมันลงไปนอนดิ้นเลย ><

เรื่องของตู้ล็อกเกอร์ยังไม่จบนะ แต่อันนี้เป็นเรื่องของตู้เก่าที่อยู่ด้านหลัง ตู้เก่านี่สภาพน่ากลัวมากค่ะ ตู้สีเทาดั้งเดิม สนิมเกรอะกรัง คือเอาไปเข้าฉากในหนังผีได้เลยอะ พี่บอลเล่าว่า เคยมีผู้หญิงคนนึงขึ้นมาเก็บของที่ล็อกเกอร์ของเขา ก็เปิดล็อกเกอร์ (นึกภาพตามนะ เปิดฝาตู้ล็อกเกอร์ บานฝาตู้ก็เปิดออกทางขวา ทีนี้เราจะไม่เห็นอะไรทางขวาของเราละ เพราะฝาล็อกเกอร์มันบัง) ก็เก็บของไปตามเรื่องค่ะ ไอ้จังหวะปิดล็อกเกอร์นี่แหละ ที่ปิดปั๊บหันขวาไปเจอผู้หญิงยืนอยู่ ยืนเฉยๆ ก้มหน้า ไว้เล็บยาวสีแดง… (จำผู้หญิงเล็บแดงคนนี้ไว้นะ)

เรื่องต่อมานี่เกิดต่อเนื่องมาจากวีรกรรมของพวกเราเอง เราไปลองของที่ตู้ล็อกเกอร์นี้มา (ขอไม่เล่านะว่าทำอะไรไปบ้าง เดี๋ยวจะโดนเด็กศูนย์ฝึกฯ ที่นี่ไม่พอใจเอา) ลองเสร็จก็ลงจากตึก พอลงมาก็มีรุ่นน้องของพี่บอลทัก ว่ามีผู้หญิงตามพวกเราจากบนตึกลงมา พวกเราก็ถามว่าผู้หญิงคนไหน น้องมันบอกเค้าเป็นผู้หญิงคนที่พี่พูดถึงบนตึก ซึ่งบนตึก ผู้หญิงที่พวกเราพูดถึงมีแค่คนเดียวเลยค่ะ คือผู้หญิงเล็บแดงในเรื่องเล่า!!!แล้วก้ถามต่อเลยว่า ตอนนี้ผู้หญิงที่ว่าเค้ายังอยู่รึเปล่า น้องก็บอกว่า เค้าขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้ว มาถึงขนาดนี้จากที่กำลังจะกลับก็เลยกลับขึ้นตึก CM ไปอีกรอบ ขึ้นไปดาดฟ้า ขาขึ้นรอบสองนี่กลัวเหมือนกันนะ เพราะจำได้ว่าเวลาดูหนังจะโดนผีหลอกส่วนใหญ่ก็รอบสองแบบที่กำลังทำนี่แหละ

ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับดาดฟ้านิดนึง ก็เป็นเรื่องผีโดดตึกทั่วไป แต่ที่ต่างไปจากมหาวิทยาลัยอื่น คือผีที่นี่โดดทุกจุดค่ะ จะระเบียง จะหน้าต่าง ดาดฟ้าเคยมีคนเห็นมาหมดแล้ว แต่จุดที่เห็นบ่อยสุดจะเป็นดาดฟ้าที่เรากำลังขึ้นไป และรูปร่างของผีโดดตึกตัวที่ว่านี้ เค้าว่าเป็นผู้หญิงผมยาวยืนก้มหน้าก่อนโดดค่ะ… ตอนที่ขึ้นไปถึงชั้น 2 กลุ่มน้องๆ พี่บอลก็ขออ้อมไปอีกทาง ไม่กล้าเดินผ่านตู้ล็อกเกอร์ ก็อ้อมไปเจอกันอีกฝั่ง พอขึ้นมาเจอกันปุ๊บ ก็ถามเดินอ้อมทำไม กลัวขนาดนั้นเลยหรอ น้องมันบอกไม่กล้าเดินผ่านตู้ เค้ายืนจ้องอยู่ พวกเราก็ตกใจ อะไรจะเฮี้ยนขนาดนั้น ก็ถามเค้ายืนตรงไหนนะ? น้องบอกตรงที่พวกกเราเดินผ่านตู้มาเมื่อกี้ แถมพวกเรายังเดินทะลุตัวเค้ามาด้วย ก็ถามว่ารูปร่างเป็นยังไง ชายหรือหญิง น้องมันบอกเป็นผู้ชายร่างท้วม (ยังจำผู้ชายร่างท้วมตอนต้นเรื่องได้ไหมค่ะ) พอถึงตรงนี้ก็เลยบอกว่าไปทำอะไรตรงล็อกเกอร์ไว้บ้าง ทีนี้พวกน้องกลุ่มนี้ยิ่งกลัวหนัก น้องคนนึงที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็บิวท์ใหญ่เลยทีนี้ ทั้งเตือน ทั้งห้าม ว่าอย่าขึ้นไปดาดฟ้าเลย บิวท์จนพวกเราเองหลายคนก็ชักเริ่มกลัวแล้ว

นี่คือคำพูดของน้องคนนี้ที่เตือนพวกเราค่ะ (ถ้าถามว่าทำไมจำได้เป๊ะขนาดนี้ คือพวกเราถ่ายวิดีโอกันไว้ด้วยนะ) “ที่ตรงนี้ ไม่มีใครกล้าท้า ไม่มีใครกล้ายุ่ง คนที่ตายเค้ามีตัวตนจริงๆ คนที่เล่าก็เป็นอาจารย์ที่เป็นที่เคารพนับถือ พวกคุณไปดื่มน้ำของเค้า ผมไม่รู้หรอกนะว่าคิดอะไรอยู่ พวกผมอยู่ที่นี่กันทุกวัน มีโอกาสทำมากกว่าพวกคุณอีก ผมยังไม่กล้าทำเลย คือมันเกินลิมิตอ่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะเล่นกันแล้ว” แต่สุดท้าย พวกเราก็ตัดสินใจขึ้นไปดาดฟ้าต่อ โดยเหลือกันแค่พวกตัวเอง 4 คนเท่านั้น น้องที่เหลือถอยลงตึกไปหมดแล้ว

จากตรงนี้พวกเราไม่สามารถเล่าต่อได้แล้ว ขอโทษจากใจจริงๆ เลย เพราะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง คำสัญญาหลายๆ อัน ที่ให้ไว้กับเด็กศูนย์ฝึกฯ ของสถาบันนี้ คำสัญญาว่าจะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ว่าข้างบนดาดฟ้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาเป็นว่าจากเรื่องเล่าทั้งหมด ก็สรุปได้ว่าเรื่องผีของที่นี่น่าจะเกิดมาจากผีแค่ 2 ตัวเท่านั้น คือผีร่างท้วมกับผีสาวเล็บแดง ที่คงสามารถแยกตัวไปจุดนั้นจุดนี้ได้ จนเรื่องผีมันเพิ่มขึ้นมานั่นเอง

ที่มาจาก : http://www.horonumber.com/news-3321

ข่าวที่เกี่ยวข้อง