อยากจะเป็นหมอ ? ต้องเรียนรายวิชาอะไร ให้ความรู้แน่นๆ ตั้งแต่มัธยม

สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาคนไทยที่สนใจประกอบอาชีพทางการแพทย์นั้น การเลือกเรียนรายวิชาระดับมัธยมศึกษามีผลสำคัญต่ออนาคตของพวกเขาอย่างยิ่ง ไม่สำคัญว่านักเรียนจะจบระดับมัธยมศึกษาภาคไทย A Levels หรือหลักสูตร IB เมื่อต้องการเป็นแพทย์ นักเรียนต้องมีรากฐานรายวิชาสำคัญที่แข็งแรง ซึ่งประกอบไปด้วยวิชาชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และภาษาอังกฤษ

อยากจะเป็นหมอ ? ต้องเรียนรายวิชาอะไร

การทำความเข้าใจในความเกี่ยวข้องของวิชาเหล่านี้กับการแพทย์ รวมถึงการตระหนักว่าวิชาเหล่านี้จะถูกขยายความเพิ่มมากขึ้นอย่างไรในคณะแพทยศาสตร์ จะสามารถช่วยให้นักเรียนตัดสินใจเลือกสายการศึกษาหรือวิชาที่จะมุ่งเน้นได้อย่างถูกต้อง

1.ชีววิทยา

ชีววิทยาเป็นวิชาพื้นฐานสำหรับผู้ที่สนใจสายการแพทย์ เนื่องจากเป็นรากฐานสำหรับการทำความเข้าใจโครงสร้างและหน้าที่ของสิ่งมีชีวิต หัวข้อที่ครอบคลุมในโรงเรียนมัธยมศึกษา ประกอบไปด้วยพันธุศาสตร์ ชีววิทยาของเซลล์ และสรีรวิทยา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการศึกษาทางการแพทย์ นักศึกษาแพทย์สามารถนำความรู้เหล่านี้ ไปต่อยอดในการเรียนรู้วิธีการทำงานของร่ายกายมนุษย์ และการตอบสนองต่อโรคภัย

2.เคมี

เคมีเป็นอีกหนึ่งวิชาสำคัญสำหรับนักศึกษาที่เตรียมเรียนแพทย์ เพราะช่วยเตรียมพร้อมให้นักศึกษาเหล่านี้รู้จักพื้นฐานของชีวิตไปถึงระดับโมลกุล วิชาเคมีระดับมัธยมศึกษาครอบคลุมเรื่องเคมีอินทรีย์และเคมีอนินทรีย์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นำพาไปสู่การทำความเข้าใจถึงกลไกของยา และปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายในร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ นักศึกษาแพทย์ยังต้องเรียนรู้โครงสร้างและคุณสมบัติของยาที่แตกต่างกันอีกด้วย

3.คณิตศาสตร์

แม้ว่าดูจะไม่ใช่วิชาที่เกี่ยวข้องชัดเจน แต่วิชาคณิตศาสตร์มีสำคัญกับนักศึกษาที่เตรียมเรียนแพทย์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น แคลคูลัส สถิติ และความน่าจะเป็น ความรู้เหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการถอดรหัสข้อมูลทางการแพทย์ เช่น การตรวจวินิจฉัย และการทดลองทางการแพทย์ เป็นต้น ในคณะแพทยศาสตร์ นักศึกษาจะเรียนรู้วิธีการวิเคราะห์และตีความข้อมูล เพื่อให้ตัดสินใจวิธีดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง

4.ฟิสิกส์

วิชาฟิสิกส์ให้ความรู้นักศึกษาในสาขากลศาสตร์ ไฟฟ้า และอุณหพลศาสตร์หรือ “Thermodynamics” สาขาวิชาฟิสิกส์ทั้งหมดนี้เตรียมพร้อมนักศึกษาให้สามารถเรียนรู้หลักการถ่ายภาพทางการแพทย์ เช่น การสายแฉงเพื่อ X-Ray หรือ MRI และวิธีการใช้หลักการเหล่านี้วินิจฉัยและรักษาโรคในช่วงที่กำลังเข้ารับการศึกษาทางแพทย์

5.ภาษาอังกฤษ

เนื่องจากนักศึกษาแพทย์จำเป็นต้องสื่อสารแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ที่ซับซ้อนกับเพื่อนร่วมงาน และพูดคุยผู้ป่วยนอกเมื่อเป็นแพทย์ฝึกหัด ภาษาอังกฤษจึงเป็นอีกหนึ่งวิชาสำคัญสำหรับนักศึกษาที่เตรียมเรียนแพทย์ ดังนั้น พวกเขาจะต้องมีความรู้ในการเขียน อ่านวิเคราะห์ และพูดกับผู้คนได้ในระดับเหมาะสม

หลักสูตรของ SGU มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนนักศึกษาจากเพียงเข้าใจวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานให้เป็นผู้ที่สามารถรับมือผู้ป่วยนอกและปัญหาของพวกเขาในโรงพยาบาลหรือคลินิกผู้ป่วยนอก ในการทำเช่นนี้ จำเป็นต้องสอนทักษะการแพทย์ พฤติกรรมมืออาชีพ และความรู้ส่วนสำคัญทางการแพทย์เพิ่มเติมนอกเหนือจากความรู้ที่นักศึกษาเรียนรู้มา ดังนั้น การเลือกรายวิชา อย่างเช่น วิชาชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และภาษาอังกฤษ เป็นการสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ให้กับเขา และประกอบอาชีพในสาขาที่กำลังเติบโต

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหนักศึกษาคนไทยหลายคนที่เลือกเข้ารับการศึกษาที่สถาบัน SGU และทุกคนมีความพร้อมในทุกๆวิชาข้างต้น พวกเขาจบการศึกษาและไปฝึกหัดงานที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศไทย ซึ่งกระจายไปในสาขาเฉพาะทางหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเวชศาสตร์ฉุกเฉิน อายุรศาสตร์ หรือสาขาโรคไต

โดยคุณ คอร์รีน วิช ผู้อำนวยการด้านการรับสมัครนักศึกษานานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University: SGU)

เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ

มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1976 โดยมีเป้าหมายในการดึงดูดผู้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญสูงสุดจากทั่วโลก ได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางสำหรับความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับโลก SGU นับว่าเป็นสถาบันระดับนานาชาติอย่างแท้จริง เพราะนักศึกษาและคณาจารย์มาจากกว่า 150 ประเทศ ทำให้ได้มุมมองในระดับโลกที่หาได้ยาก จึงสามารถให้ความรู้อย่างดีเยี่ยมแก่นักเรียนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกอย่างรวดเร็ว คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ เปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต (พ.บ.) 4 ปี และเปิดหลักสูตรขั้นสูง 5, 6 และ 7 ปี โดยสามารถรับนักศึกษาจากระบบการศึกษาทั่วโลก และเปิดโอกาสพิเศษให้นักศึกษาได้เริ่มต้นวิชาชีพแพทย์ในเกรเนดา หรือใน สหราชอาณาจักร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง