ธรรมศาสตร์ขึ้นแท่น Top 4 โลก เบอร์ 1 ไทย “ด้าน SDG16” ประกาศทิศทางมหา’ลัย

“ความเหลื่อมล้ำ และความอยุติธรรม” ยังคงเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมและเศรษฐกิจไทย ทำให้การขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องอาศัยองค์ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีความลึกซึ้งและเชื่อมโยงกับชีวิตจริง ทั้งนี้ “ธรรมศาสตร์” ในฐานะ “มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน” จึงได้แสดงบทบาทนี้อย่างจริงจังในฐานะศูนย์กลางความรู้เพื่อสังคมยุติธรรม โดยเฉพาะในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 16 (SDG16) ที่ว่าด้วย “สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง”

ธรรมศาสตร์ขึ้นแท่น Top 4 โลก

เบอร์ 1 ไทย “ด้าน SDG16”

วันนี้ จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังการขับเคลื่อน SDG16 อย่างมีกลยุทธ์ผ่านมุมมองของ ผศ.ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืน ที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของธรรมศาสตร์ในฐานะ “พื้นที่กลาง” ที่เชื่อมโยงพลังจากหลากหลายศาสตร์ ผลักดันองค์ความรู้สู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และบ่มเพาะนักศึกษารุ่นใหม่ให้กล้าตั้งคำถามต่อความเหลื่อมล้ำ พร้อมยืนหยัดเพื่อสังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จนทำให้ธรรมศาสตร์ก้าวขึ้นเป็น อันดับ 1 ของไทย และอันดับ 4 ของโลก ในด้าน SDG16 จากการจัดอันดับ THE Impact Rankings 2025

· ธรรมศาสตร์พาเปิดเบื้องหลังความสำเร็จ SDG16 อันดับ 1 ในไทยและ 4 ของโลก

ผศ.ชล บุนนาค กล่าวว่า มธ.ได้แสดงบทบาทอันโดดเด่นในฐานะ “ศูนย์กลางความรู้เพื่อสังคมยุติธรรม” ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสานต่อเจตนารมณ์แห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยอันฝังรากลึกในสถาบันมาอย่างยาวนาน แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDG16 อย่างเป็นรูปธรรม จนสามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และอันดับ 4 ของโลก ในการจัดอันดับ Impact Rankings 2025 ด้าน “Peace, Justice and Strong Institutions” จากมหาวิทยาลัยทั่วโลกกว่า 1,214 สถาบัน

ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานเชิงระบบที่อิงความรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลง และประสานพลังทั้งในระดับนโยบายและรากฐานของสังคม โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่สะท้อนความเข้มแข็งของธรรมศาสตร์ในการขับเคลื่อน SDG16 คือความสามารถในการทำงานเชิงวิชาการเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ในประเด็นสันติภาพและความยุติธรรม (Research on peace and justice) ควบคู่กับการวางรากฐานธรรมาภิบาลภายในมหาวิทยาลัย (University governance measures) ที่ยึดหลักความโปร่งใส มีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ ที่สำคัญคือการที่ธรรมศาสตร์เป็นหนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยที่ทำคะแนนเต็ม 100 ในหมวด “การทำงานร่วมกับภาครัฐ” (Working with government) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยได้ถูกส่งต่อไปยังเวทีนโยบายภาครัฐและสาธารณะอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย

“อีกนัยหนึ่ง เห็นได้จากปี 2023 ถึง 2024 มธ.ยังมีอาจารย์และนักวิจัยกว่า 70 คน ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “ที่ปรึกษาแก่ภาครัฐ” ทั้งในระดับท้องถิ่น จังหวัด กระทรวง และสภานิติบัญญัติ สะท้อนความเชื่อมั่นของสังคมต่อความเชี่ยวชาญทางวิชาการของบุคลากรจากมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และศักยภาพแก่ผู้นำชุมชน และข้าราชการท้องถิ่นทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนั้น มหาวิทยาลัยยังมีส่วนร่วมในโครงการวิจัยเชิงนโยบายกับหน่วยงานรัฐมากถึง 125 โครงการในปีเดียว และทำหน้าที่เป็นเวทีที่เป็นกลาง (Neutral platform) สำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองประเด็นทางการเมืองและสาธารณะอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่เลือกข้างฝ่ายใด เพื่อเปิดพื้นที่แห่งความเข้าใจที่ปลอดภัย สร้างการมีส่วนร่วมและส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตยอย่างเท่าเทียม

อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ตอกย้ำบทบาทของมธ. คือ สัดส่วนของบัณฑิตที่จบจากสาขากฎหมายและสาขาที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยบัณฑิตเหล่านี้มีการกระจายตัวไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมอย่างหลากหลาย ทั้งในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ นักนโยบาย นักกิจกรรมทางสังคม แพทย์และนักนิติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น” ผศ.ชล อธิบายเพิ่มเติม

· หล่อหลอม ‘ความยุติธรรม’ ให้อยู่ในทุกศาสตร์ สะท้อนความเป็น “ธรรมศาสตร์” อย่างแท้จริง

ผศ.ชล บุนนาค เปิดเผยต่อว่า มธ.ไม่จำกัดความคิดเพียงกรอบของกฎหมายหรือการปกครองเพียงเท่านั้น หากแต่เปิดพื้นที่ให้ศาสตร์อื่น ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาสร้างองค์ความรู้และผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ความเป็นธรรมในมิติต่าง ๆ อย่างครอบคลุม โดยจากรายงาน Thammasat University Sustainability Report 2023 ได้สะท้อนให้เห็นว่า ‘ความยุติธรรม’ ไม่ใช่เพียงแนวคิดในของคณะนิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์เท่านั้น หากแต่แทรกซึมอยู่ในเนื้อหาหลักสูตรการเรียนการสอน กิจกรรม และงานวิจัยของคณะแทบทุกคณะ

ไม่ว่าจะเป็นคณะพยาบาลศาสตร์ที่เน้นสิทธิมนุษยชนในระบบสุขภาพและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่เท่าเทียม คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มุ่งเน้นการศึกษาและวิเคราะห์โครงสร้างทางสังคมเพื่อตีแผ่ความเหลื่อมล้ำ หรือแม้แต่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ที่ผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจเพื่อสังคม โดยส่งเสริมการมีกลไกตลาดที่เป็นธรรมในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มเปราะบาง

“คณะนิติศาสตร์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้ผลักดันการวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการปฏิรูประบบยุติธรรมที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ขณะที่คณะรัฐศาสตร์ก็ทำหน้าที่วิพากษ์และประเมินกลไกรัฐ พร้อมเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายย่อยของ SDG16 ในข้อ 16.3 ที่มุ่งส่งเสริมหลักนิติธรรมในระดับชาติและระหว่างประเทศ และข้อ 16.7 เน้นการสร้างหลักประกันและการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบอย่างมีส่วนร่วม

ส่วนคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยานั้น ทำหน้าที่รวบรวมเสียงของกลุ่มชายขอบ ถ่ายทอดสู่เชิงนโยบาย เสริมสร้างการออกแบบสถาบันที่ครอบคลุมทุกกลุ่มในสังคม อีกทั้งคณะพยาบาลศาสตร์และคณะสังคมวิทยา ทำหน้าที่เติมเต็มมุมมองด้านความเป็นธรรมเชิงโครงสร้าง สะท้อนเสียงของกลุ่มเปราะบาง และพัฒนาการดูแลสุขภาวะทั้งกายและใจอย่างเท่าเทียม” ผศ.ชล ขยายความเพิ่มเติม

เห็นได้ว่า การบูรณาการองค์ความรู้เพื่อ SDG16 จึงไม่ใช่การทำงานของคณะใดคณะหนึ่ง หากแต่เป็นพลังของ “ความหลากหลายเชิงวิชาการ” ที่เดินหน้าไปด้วยกันอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง แต่ละศาสตร์วิชามีจุดแข็งเฉพาะที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ตั้งแต่กฎหมาย การเมือง สาธารณสุข เศรษฐกิจ จนถึงมานุษยวิทยา ล้วนมีบทบาทในการสร้างรากฐานของสังคมที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และความเป็นธรรมในทุกระดับ

ยิ่งไปกว่านั้น กระบวนการเรียนรู้ของนักศึกษา มธ.ที่ได้สัมผัสกับองค์ความรู้แบบสหวิทยาการและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง กำลังหล่อหลอมคนรุ่นใหม่ให้เป็น “พลเมืองที่มีหัวใจของความยุติธรรม” พร้อมยืนหยัดเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมในทุกบทบาทหน้าที่ของตนเองต่อไปในอนาคต

· ธรรมศาสตร์โชว์พลังวิจัยเปลี่ยนแปลงสังคม–ปฏิรูปนโยบาย–ขับเคลื่อนระดับโลก

ผศ.ชล บุนนาค เพิ่มเติมอีกว่า มธ. ได้ผลิตงานวิจัยเชิงนโยบายที่มีพลังเปลี่ยนแปลงและต่อยอดสู่การใช้จริงในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ การเสนอแนวทางเชิงระบบ หรือการจุดประกายให้เกิดการปฏิรูประดับโครงสร้าง และจากฐานข้อมูลการตีพิมพ์บทความวิชาการ Scopus ในปี 2024 ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่ 16 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผลงานวิจัยโดดเด่นที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงบูรณาการ ระหว่างวิชาการกับสังคมอย่างชัดเจน คือหัวข้อ “Pathways, Situations, and Factors Associated with Youth Violence in Educational Settings” ซึ่งศึกษาเชิงลึกถึงสาเหตุ ปัจจัยแวดล้อม และบริบทของความรุนแรงในสถานศึกษาไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบสหวิทยาการ พร้อมได้รับการรับรองในแวดวงวิชาการ และนำไปใช้ในโครงการร่วมกับภาครัฐ เพื่อจัดทำนโยบายและคู่มือป้องกันความรุนแรงในสถานศึกษา ซึ่งได้รับความสนใจจากกระทรวงศึกษาธิการและกลุ่มองค์กรที่ทำงานด้านเยาวชน

ในขณะที่มิติของสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค A determination of the influence of birth control among minority women in Thailand: a qualitative study คืออีกหนึ่งงานวิจัยที่ทีมวิจัยของมธ.ได้ลงพื้นที่ศึกษาเสียงของผู้หญิงในกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยในพื้นที่ชายขอบ ซึ่งมักเผชิญกับข้อจำกัด ด้านสิทธิการเลือกทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์อย่างลึกซึ้ง เผยให้เห็นโครงสร้างความไม่เท่าเทียมในระบบสาธารณสุขและแนวทางปฏิบัติของระบบสาธารณสุข ที่อาจไม่สอดคล้องกับความเชื่อวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งทำให้ผู้หญิงกลุ่มชาติพันธ์ ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้เต็มที่เท่าที่ควร

ซึ่งผลงานได้รับความสนใจจากหน่วยงานระดับชาติและนานาชาติ พร้อมนำเสนอในเวทีเกี่ยวกับสตรีชนกลุ่มน้อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สอดคล้องกับคะแนนในหมวด Research on Peace and Justice ซึ่งธรรมศาสตร์ได้ 84.8 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ตอกย้ำถึงคุณภาพและความต่อเนื่องของการดำเนินงานวิจัยเพื่อสังคมที่เป็นธรรมอย่างแท้จริง

“มธ. โดยศูนย์ SDG Move ยังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในการใช้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป็นกรอบในการประเมินสถานการณ์ความยั่งยืนระดับภาคทั้ง 6 ภาค และรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับท้องถิ่น มาเป็นข้อมูลให้ทาง สกสว. ใช้ในการกำหนดแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570 อีกด้วย

ซึ่งในการทำงานดังกล่าวมิใช่เพียงการขับเคลื่อนโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่เป็นความร่วมมือระหว่าง มธ. กับมหาวิทยาลัยชั้นนำในภูมิภาคทั้ง 6 ภูมิภาคของประเทศไทย และเครือข่าย Sustainable Development Solutions Network (SDSN) ซึ่งเป็นเครือข่ายวิชาการด้านความยั่งยืนระดับโลก สะท้อนการทำงานบูรณาการข้ามภาคส่วน การทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเชื่อมโยงเสียงของคนเล็กคนน้อยในพื้นที่ กับนโยบายระดับชาติในเวลาเดียวกัน

โครงการลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ตัวอย่างที่ส่งผลให้มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับในหมวดย่อย Working with Government ด้วยคะแนน 100 เต็ม เป็นหนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยในประเทศที่ได้คะแนนเต็มในเกณฑ์ดังกล่าว ทั้งนี้เพราะธรรมศาสตร์มีบทบาทสนับสนุนรัฐบาลไทยในนโยบายขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศโดยตรง”

การที่ ม.ธรรมศาสตร์ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1ของประเทศและอันดับ 4 ของโลกในด้าน SDG16 ไม่ใช่ผลจากกระแสสังคมหรือเทรนด์ชั่วคราว หากแต่เป็นผลสะท้อนจากวัฒนธรรมองค์กรที่หยั่งรากลึกมานานในการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม เสรีภาพ และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งล่าสุดมธ.ได้ประกาศจุดยืนของตนเป็น Academic Freedom ตอกย้ำจุดยืนอันแน่วแน่ของธรรมศาสตร์ในฐานะสถาบันที่ยึดมั่นในเสรีภาพทางวิชาการอย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้นักศึกษา อาจารย์และบุคลากรทุกภาคส่วน ได้ตั้งคำถามและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สอดคล้องกับคะแนน University Governance Measures ที่ธรรมศาสตร์ได้ 93.8 คะแนน เต็ม 100 ซึ่งครอบคลุมถึงความเท่าเทียม การมีส่วนร่วม และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และเพื่อรักษาโมเมนตัมอันทรงคุณค่านี้ไว้ในระยะยาว

ธรรมศาสตร์จะสานต่อเจตนารมณ์ด้านเสรีภาพทางวิชาการและความยุติธรรมทางสังคมผ่านการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และวิชาการในทุกปี โดยเฉพาะในวาระวันสำคัญทางสากลตามปฏิทินของสหประชาชาติ ทั้งในรูปแบบเวทีสาธารณะ นิทรรศการ การเสวนาวิชาการ และการรณรงค์ในหมู่นักศึกษาและบุคลากร เพื่อให้คุณค่าดังกล่าวไม่ถูกหลงลืม หรือถูกกลืนไปในกระแสเร่งเร้าของสังคมร่วมสมัย

ความต่อเนื่องเหล่านี้จะไม่เพียงเป็นการย้ำเตือนถึงพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลุกจิตสำนึกในสังคมวงกว้างให้ตระหนักถึงเสรีภาพที่แท้จริงต้องมาคู่กับความรับผิดชอบ และเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรีในระบอบประชาธิปไตย

“เสรีภาพที่มีกรอบของความรับผิดชอบ มุ่งประโยชน์ส่วนรวม และอยู่ภายใต้หลักแห่งเหตุผลและกติกาของสังคม ในห้วงเวลาที่โลกกำลังสับสนกับเส้นแบ่งของ “เสรีภาพ” กับ “ไร้ขอบเขต” ธรรมศาสตร์เลือกที่จะนิยามเสรีภาพอย่างมีสติและหลักการ พร้อมพิสูจน์ด้วยการดำเนินนโยบายภายในที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะมีกระแสหรือไม่ มหาวิทยาลัยก็ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์นี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง” ผศ.ชล บุนนาค กล่าวทิ้งท้าย

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง