ข้อดีของการสอบ IELTS ที่จะช่วยเราได้เรื่องการเรียนและทำงาน

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 บริติช เคานซิล (British Council) องค์กรนานาชาติที่ส่งเสริมการศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งสหราชอาณาจักร สร้างสรรค์ความรู้และความเข้าใจระหว่างผู้คนในสหราชอาณาจักรและผู้คนทั่วโลก โดยได้ออกมาเผยถึงการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เคยสอบ IELTS ในปี 2554-2556 จำนวน 3,000 คน จาก 9 ประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

ผลสำรวจชี้การสอบ IELTS มีข้อดีทั้งในด้านการเรียนและทำงาน

โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงผลดีของการเตรียมตัวและการสอบ IELTS ทั้งในด้านของหน้าที่การงาน การศึกษา และการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้

IELTS ประตูสู่โอกาสทางการศึกษาทั่วโลก

IELTS เป็นการสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันมากกว่า 9,000 แห่ง ใน 140 ประเทศทั่วโลก ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 67% ในเอเชียตะวันออกเชื่อว่าคะแนน IELTS ช่วยให้สามารถเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาในต่างประเทศได้สำเร็จ ขณะที่ 68% กล่าวว่า คะแนน IELTS ช่วยกรุยทางไปสู่การศึกษาต่อในโรงเรียน วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยที่ต้องการ ทั้งนี้คะแนน IELTS ช่วยให้ผู้สอบสามารถไขว่คว้าโอกาสและไล่ล่าความฝันในการศึกษาต่อได้ใน 32 ประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา และสหรัฐอเมริกา เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด ผลสำรวจระบุว่า 75% ของผู้สอบ IELTS ในประเทศไทย นำคะแนนสอบไปใช้ในการศึกษาต่อ โดยมีสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุด (54%) ตามมาด้วยออสเตรเลีย (12%)

ผู้สอบ IELTS มีความพร้อมมากขึ้นในการเรียน

ผู้สอบจำนวนมากระบุว่า IELTS ช่วยให้มีความพร้อมในการเรียนมากขึ้น เพราะ IELTS ช่วยส่งเสริมทักษะการพูดและการเขียน รวมถึงพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการอ่านและการฟังอย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ โดย 52% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า IELTS ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรมเชิงวิชาการที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เช่น การฟังบรรยายและการเขียนรายงาน นอกจากนี้ 63% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า การเตรียมสอบ IELTS ช่วยให้การเรียนรู้ในชั้นเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า IELTS มีคุณค่าในฐานะการสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการศึกษาด้วย

คะแนน  IELTS ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้ และยังสร้างโอกาสในการทำงานด้วย

ในโลกของการทำงาน ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ชื่อเสียงของคะแนน IELTS เป็นที่รู้จักดีในหมู่นายจ้าง จึงช่วยให้เริ่มงานได้อย่างสดใสและมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานทั้งในและต่างประเทศ โดย 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า คะแนนสอบ IELTS มีประโยชน์ในการสมัครงานและการทำงาน โดยญี่ปุ่นเป็นชาติที่ใช้คะแนน IELTS ในการทำงานมากที่สุด (24%) ตามมาด้วยเวียดนาม (18%) สิงคโปร์ (12%) และฟิลิปปินส์ (12%)

ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์เป็นชาติที่ใช้คะแนน IELTS สำหรับสมัครงานในต่างประเทศมากที่สุด (64%) เนื่องจากคะแนน IELTS ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถประเมินทักษะภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณ Hoi Yee Yau ซึ่งมีคะแนนสอบ IELTS 7.5 กล่าวว่า “คะแนน IELTS เป็นที่ยอมรับในองค์กรมากมายหลายแห่ง”

นอกจากนี้ ผู้สอบจำนวนมากต่างรู้สึกว่า การสอบ IELTS ช่วยให้มีความได้เปรียบในการเริ่มทำงาน เนื่องจากช่วยสร้างความมั่นใจ ช่วยให้มีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งหรือได้รับเงินเดือนสูงขึ้น ช่วยให้ใบสมัครงานดูมีภาษีมากขึ้น ช่วยพัฒนาทักษะในการตอบคำถามสัมภาษณ์งาน และช่วยในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

IELTS เชื่อมโยงคนทั่วโลก และช่วยให้ผู้สอบเอาตัวรอดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้

ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า ผู้สอบใช้คะแนน IELTS ในการสานฝันในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดย 63% ของผู้ตอบแบบสำรวจเผยว่า การเตรียมตัวและการสอบ IELTS ช่วยให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและเอาตัวรอดได้ ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่า IELTS ไม่ใช่แค่ใบเบิกทางสู่การเข้าศึกษาในสถาบันชั้นนำ หรือเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นต่อการศึกษาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้สอบสามารถเผชิญกับความท้าทายทางสังคมและหน้าที่การงานในต่างประเทศได้อีกด้วย โดยผู้สอบสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทางสังคมได้ด้วยการพัฒนาทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงก้าวข้ามอุปสรรคทางหน้าที่การงานได้ด้วยการพัฒนาทักษะการพูดคุยโต้ตอบในที่ทำงาน โดยคุณ Chaelyeon Pak ซึ่งมีคะแนนสอบ IELTS 7 กล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการท่องจำคำศัพท์ไร้ประโยชน์เพียงเพื่อเอาไปใช้สอบ ซึ่ง IELTS ก็ตอบโจทย์ด้วยการสอนภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฉันคิดว่า IELTS คือการสอบวัดระดับที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาก”

Greg Selby ผู้อำนวยการแผนกจัดการสอบประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก กล่าวว่า “ยอดการสอบ IELTS เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2558 มีการเข้าสอบ 2.7 ล้านครั้ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสอบเพื่อนำผลมาใช้ในการศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลียแล้ว การนำผลสอบมาใช้ภายในประเทศก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออก ผลสำรวจครั้งนี้เป็นการสะท้อนว่า IELTS ยังคงเดินหน้าภารกิจในการพลิกชีวิตของผู้สอบให้ดีขึ้น”

ผู้สอบ  IELTS ในประเทศไทยได้คะแนนเฉลี่ย 6.0

จากการรวบรวมคะแนนสอบ IELTS ล่าสุดจาก 40 ประเทศทั่วโลก พบว่าผู้สอบในประเทศไทยทำคะแนนรวมได้เฉลี่ย 6.0 ในปี 2558 โดยมีคะแนนการฟังเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 ส่วนผู้สอบในมาเลเซียและฟิลิปปินส์ได้คะแนนรวมเฉลี่ยที่ 6.8 ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย

ดูคะแนนเฉลี่ยปี 2558 แบบรวมทักษะและจำแนกตามทักษะ ซึ่งรวบรวมจากผู้สอบ IELTS ประเภท Academic Module ในเอเชีย
ได้ดังนี้

——————————————————-

ที่มา : eduzones

ข่าวที่เกี่ยวข้อง