10 อันดับ มหาวิทยาลัยขนาดเล็กที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2017 โดย THE

กลับมาอีกครั้ง สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดอันดับสุดยอดมหาวิทยาลัยขนาดเล็กที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2017 โดย Times Higher Education (THE) สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ประเทศอังกฤษ โดยในปีนี้ก็มีมหาวิทยาลัยในทวีปเอเชียของเรา ติดอันดับเข้าไปใน TOP10 ด้วย จากการสำรวจของ THE จำนวนนักศึกษาโดยเฉลี่ยของสถาบันที่ติดอันดับมหาวิทยาลัยขนาดเล็กที่ดีที่สุดในโลกปีนี้ อยู่ที่ 3,038 คน เทียบกับอันดับโลกมหาวิทยาลัยทั่วไปที่มีจำนวนเฉลี่ยอยู่ที่ 24,953 คน จะเป็นมหาวิทยาลัยใดบ้างที่อยู่ใน TOP10 ในปีนี้ตามมาดูกันเลย…

10 มหา’ลัย ขนาดเล็กที่ดีที่สุดในโลก

โดยมีหลักในการสำรวจคือ สัมภาษณ์ผู้เรียนในมหาวิทยาลัยขนาดเล็กทั่วโลก ถึงความพึงพอใจ และเหตุผลที่ทำให้พวกเขาหลงรักจนต้องมาลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และมหาวิทยาลัยที่จะได้รับการพิจารณานั้น จะต้องมีจำนวนนักศึกษาไม่เกิน 5,000 คน และมีการเรียนการสอนไม่ต่ำกว่า 4 สาขาวิชา

ส่วนผลสำรวจที่ได้ออกมาก็คือ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความพอใจเกี่ยวกับห้องเรียนที่มีขนาดเล็ก และการได้มีโอกาสใกล้ชิดกับอาจารย์ผู้สอนมากเป็นพิเศษ บางคนก็ตอบว่าการเรียนที่มหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่อยู่ในเมืองใหญ่ทำให้พวกเขาไม่ต้องเครียดกับสภาพความวุ่นวายในเมืองมากเท่าใดนัก เพราะเมื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัยก็ทำให้มีความสุข มีความสนิทสนมกันเหมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน

อันดับ 1 สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology), ประเทศสหรัฐอเมริกา

สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย หรือ แคลเทค (CalTech) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองแพซาดีนา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1891 มีนักศึกษาประมาณ 2,000 คน แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 1,000 คน และปริญญาโท-เอก 1,000 คน ซึ่งสถาบันแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัยหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ (สาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมอากาศยาน และวิศวกรรมเครื่องกล)

นอกจากนี้บัณฑิตของสถาบันแห่งนี้ยังได้รับรางวัลโนเบลหลายคนเลยทีเดียว เช่น ริชาร์ด ฟิลลิปส์ ไฟน์แมน นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ จากผลงานเรื่อง The Development of the Space-Time View of Quantum Electrodynamic เมื่อปี ค.ศ. 1965 เป็นต้น

อันดับ 2 École Normale Supérieure (ENS) หรือเรียกสั้นๆ ว่า Normale sup’, ประเทศฝรั่งเศส

เป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1794 มีอายุราวๆ 200 กว่าปีได้แล้ว และยังมีบุคคลสำคัญของโลกซึ่งจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เช่น Henri Bergson, Jean-Paul Sartre, Michel Foucault, Louis Pasteur, Paul Langevin และ Laurent Schwartz ยังได้รับรางวัลระดับโลกต่างๆ เช่น รางวัล Nobel เป็นต้น

เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นสถาบันการศึกษาที่ไม่ใหญ่มากนัก จึงสามารถรับนักเรียนได้เพียงประมาณ 5,000 คน แต่เชื่อได้เลยว่าแต่ละคนนั้นเป็นระดับหัวกะทิ และต้องทำคุณประโยชน์ให้แก่โลกได้อย่างแน่นอน โดย ENS เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปว่า เป็นแหล่งรวมความสุดยอดของบรรดาเหล่าทีมวิจัยและค้นคว้า อีกทั้งนักเรียนที่นี่ยังเหมือนได้เรียนกับสุดยอดปรมาจารย์จากแขนงต่างๆ ชั้นนำของประเทศฝรั่งเศส แบบ “ตัวต่อตัว” อีกด้วย

อันดับ 3 มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโพฮัง (Pohang University of Science and Technology), ประเทศเกาหลีใต้

มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโพฮัง หรือเรียกสั้นๆ ว่า POSTECH เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ตั้งอยู่ที่เมืองโพฮัง เมืองแห่งอุตสาหกรรมของประเทศเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1986 แต่ก็สามารถก้าวมาเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว

จุดเด่นของมหาวิทยาลัยแห่งนี้แน่นอนว่า จะต้องเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้รับการยกย่องจากสถาบันและนิตยสารต่างๆ อย่างมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เป็น “สุดยอดมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียอดเยี่ยมที่สุดในเอเชีย”

อันดับ 4 École Polytechnique, ประเทศฝรั่งเศส

École polytechnique ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1794 โดยมีวิทยาเขตหลักที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในกรุง Palaiseau ของประเทศฝรั่งเศส โดยมาหวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอย่างมากในระดับนานาชาติ และยังมีสถานะพิเศษเป็นสถาบันทางการทหารของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย การสอบเข้าที่นี่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสถาบันของยุโรปที่สอบเข้ายากและจบยากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังเป็นสถาบันที่มีอิทธิพลในวงการการทหาร การเมือง การเงิน และภาคอุตสาหกรรมของประเทศฝรั่งเศส สาขาวิชาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ คณิตศาสตร์ประยุกต์ เคมี วิทยาการคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น

อันดับ 5 Scuola Normale Superiore di Pisa (SNS), ประเทศอิตาลี

เป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงของรัฐ ในเมืองปิซา ประเทศอิตาลี Scuola Normale เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยในเครือข่ายสถาบันการศึกษาที่มีคุณสมบัติสูง นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยปิซาและโรงเรียน Sant’Anna School of Advanced Studies

นอกจากนี้ Scuola Normale ยังร่วมมือกับสภาวิจัยแห่งชาติ (Consiglio Nazionale delle Ricerche, CNR) ซึ่งเป็น ศูนย์วิจัยที่ใหญ่ที่สุดในปิซาอีกด้วย จุดเด่นของมหาวิทยาลัยแห่งนี้คือ มีการผสมผสานระหว่างการศึกษาและการวิจัยเข้าด้วย ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก ของสถาบันการศึกษาแห่งนี้

อันดับ 6 Scuola Superiore Sant’Anna, ประเทศอิตาลี

เป็นมหาวิทยาลัยในการกำกับของรัฐ ตั้งอยู่ในเมืองปิซา ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2353 มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัยเป็นอย่างมาก สาขาที่มีความโดดเด่นในการเรียนการสอนก็คือ ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และนอกจากนี้ที่นี่ยังผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพทั้งด้านการเมือง การปกครองประเทศ การเงิน ฯลฯ ออกมาอย่างมากมายหลายคนเลยทีเดียว เช่น Giuliano Amato นายกรัฐมนตรีอิตาลี (1992-1993 และ 2000-2001) รองประธานอนุสัญญาว่า ด้วยอนาคตของยุโรป ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของยุโรปและมุ่งหน้าสู่กลุ่มอามาโต, Marco Frey ศาสตราจารย์บริหารธุรกิจและผู้อำนวยการสถาบันการจัดการของ Sant’Anna School of Advanced Studies และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ Bocconi University เป็นต้น

อันดับ 7 École Normale Supérieure de Lyon, ประเทศฝรั่งเศส

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกว่า ENS Lyon, ENSL หรือ Normale Sup ‘Lyon และเป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในฝรั่งเศส แต่ก็มีความโดดเด่นในเรื่องการเรียนการสอนที่ไม่แพ้ที่ใดเลย มีความเป็นเลิศด้านการบริการสาธารณะ การวิจัย ฯลฯ ซึ่งถือได้ว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสที่ดีที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้

อันดับ 8 สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินเดีย (Indian Institute of Science), ประเทศอินเดีย

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินเดีย (IISc) นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Tata Institute” เป็นสถาบันการศึกษาของรัฐ ตั้งอยู่ในบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1909 IISc ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศอินเดีย โดยในระหว่างการศึกษาระดับปริญญาตรี นักศึกษาทุกคนจะได้รับการสอนด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และมนุษยศาสตร์ โดยจะเน้นด้านวิศวกรรมเป็นหลัก และในปีสุดท้ายนักศึกษาจะได้ลงมือทำโครงงานวิจัยภายด้านวิทยาศาสตร์เป็นของตนเอง

อันดับ 9 Swedish University of Agricultural Sciences (SLU), ประเทศสวีเดน

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ 2520 โดยเป็นการรวมเอา 3 วิทยาลัยเข้ามาอยู่รวมกัน ได้แก่ วิทยาลัยด้านสัตวแพทยศาสตร์, วิทยาลัยด้านการเกษตร และวิทยาลัยด้านป่าไม้ จึงได้เปิดสอน 4 คณะด้วยกัน คือ

  1. คณะการวางแผนภูมิทัศน์พืชสวน
  2. คณะวิทยาศาสตร์การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ
  3. คณะสัตวแพทยศาสตร์
  4. คณะวิทยาศาสตร์ป่าไม้

นอกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังได้ผลิตบัณฑิตที่มีชื่อเสียงออกไปอีกมามายหลายคน แต่คนที่เรารู้จักกันดีที่สุดก็คือ ศาสตราจารย์ แอนนา Tibaijuka – Tanzanian รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินที่อยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์และอดีตผู้บริหารขององค์การสหประชาชาติ – HABITAT นั่นเอง

อันดับ 10 Free University of Bozen-Bolzano, ประเทศอิตาลี

เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในเมือง Bolzano ประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2540 โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาความสามารถของนักศึกษาให้สามารถพูดได้หลายภาษา (ซึ่งในคลาสเรียนจะมีการแบ่งสอนออกเป็น 3 ภาษาคือ ภาษาเยอรมัน อิตาลี และอังกฤษ) พร้อมทั้งยังจะต้องเป็นคนที่ทำงานได้จริง เพื่อเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศและในยุโรป ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีนักศึกษากว่า 2,813 คน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วสามวิทยาเขตในเมือง Bolzano, Brixen และ Bruneck

เน้นการเรียนการสอนในการที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และปฏิบัติงานได้จริง ซึ่งกิจกรรมที่นักศึกษาจะได้ทำก็มีทั้งงานสัมมนาการบรรยาย โดยวิทยากรในด้านต่างๆ ที่ทั้งบรรยายให้ความรู้และให้ลงมือปฏิบัติจริง ภายใต้กรอบโครงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการของมหาวิทยาลัย

——————————————————

ข้อมูลและภาพ :
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, timeshighereducationwikiwandbde.ens-lyon.frpetitguru.canalblogstudyinkoreaphdstudies.itstudyinsweden.se

ข่าวที่เกี่ยวข้อง