เด็กเก่ง! ช่างภาพฝีมือเยี่ยม “ตาล-อัศวิน” นร.วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)

สวัสดีค่ะน้องๆ วันนี้ดาวเด่นแคมปัส-สตาร์ เรามีหนุ่มน้อยช่างภาพฝีมือเยี่ยมมาแนะนำให้รู้จักกัน ‘น้องตาล อัศวิน’ ถึงอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น แต่ฝีมือการถ่ายภาพต้องขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งการถ่ายวิว ถ่ายคน เรียกได้ว่าออกมาสวยงามทุกแนว ซึ่งน้องตาลจะมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพจนกลายมาเป็นช่างภาพฝีมือเยี่ยม และรวมถึงประสบการณ์การถ่ายภาพแบบต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้กับหนุ่มคนนี้ พร้อมชมผลงานการถ่ายภาพของเขากันเลย

ช่างภาพฝีมือเยี่ยม “ตาล-อัศวิน” นร.วัดสระเกศ

อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ ช่างภาพอายุน้อย แต่ฝีมือขั้นเทพ

ชื่อ-สกุล : นายอัศวิน  ขันติวงศ์
ชื่อเล่น : ตาล
อายุ : 16 ปี
การศึกษา : ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 4 โรงเรียนวัดสระเกศ (ภูเขาทอง)

เริ่มแรก ผมชอบเล่นกล้องจากการที่ว่าเห็นรูปเพื่อนในเฟสมันขัดตาเหลือเกิน 555+ ก็ไปว่าเขา… เมื่อผมซื้อกล้องมาแล้วการที่จะชวนเพื่อนมาถ่ายนั้นช่างแสนลำบากเหลือเกิน แต่ไม่นานผมก็ถ่ายรูปเพื่อนของผมเกือบทุกคนครบ ผมก็เริ่มเบื่อๆ ก็หยุดถ่ายไปพักนึงก็เริ่มออกไปถ่ายวิวเล่นๆ ก็สนุกดี แต่ก็ถ่ายไม่ได้จริงจังอะไรมาก เพราะชอบถ่ายคนมากกว่า (ไปรอก่อนพระอาทิตย์ตั้ง 4-5 ชม. แหนะไม่จริงจัง555+) เพราะช่วงนั้นมีอุปกรณ์แค่ 18-55 ตัวเดียว

และช่วงปี 57-58 ก็ได้ถ่ายรูปทุกอย่างไปเรื่อยๆ ถ่ายงานกีฬาสี รร. ถ่ายครู ถ่ายเพื่อน ถ่ายวิว ถ่ายสตรีท ถ่ายทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนั้นก็มีเพจแล้วนะ แต่เพจตอนนั้นไลค์อยู่ที่ 128 ไลค์ คือแบบดีใจมากขึ้นมาได้ไงเนี่ย

ต่อมาเก็บเงินได้สักพักนึง ได้ 3,000 บาท จากการเก็บเงินระยะเวลา 4 เดือน คือเป็นคนใช้เงินไม่เป็นเลย ก็นำเงินไปซื้อแฟลชใช้ YN560 II ใช้ตั้งแต่ปี 57 จนถึงปัจจุบันกันเลยทีเดียว (ทนมาก ล้นเป็น 10 รอบแล้วนะ) จำได้ว่างานแรกในชีวิตที่ถ่ายคือ [2 เม.ษ. 58] เป็นถ่ายเล่นๆ ให้เพื่อนที่ สวนรถไฟ ได้เงินมา 200 บาท คือแบบตอนนั้นดีใจมาก >_<

ต่อมา น้าต้น (ในเฟส TON PK) ได้ชวนผมไปถ่ายรูปวิวที่ตึกร้างสาทร ก่อนที่จะเป็นข่าวดราม่าในบัจจุบันนี้นะ ตอนนั้นก็ดีใจมาก คือเป็นคนดีใจอะไรง่ายมากๆ เพราะตั้งแต่ถือกล้องมา 1 ปี น้าไม่เคยชวนไปถ่ายรูปเลย ตอนไปน้าก็สอนบ้างแหละนิดๆ หน่อยๆ ด้วยความที่เป็นเด็กหัวดื้อก็ไม่ได้จดจำอะไรมาเลย จนกลับมาถึงบ้านก็มานั่งแต่งรูปวิว บอกเลยเห็นของคนที่ไปด้วยไม่กล้าลงเลย เราใช้ D5100 แต่ล่ะคนนี้แบบ 6D 5D iii 7D ติดเลนส์ 14 fisheye แต่เรา 18-55 น้ำตาจะไหลแต่ก็ลงรูปไปได้ เพราะความที่เราอยากได้ความรู้เพิ่มไม่ได้อายอะไรเลยยยจริงๆ

ต่อมาจะไปเดินหาเลนส์ 55-200 ในหัวไม่รู้คิดอะไรอยู่ เดินไปที่ห้าง MBK ไปชั้น 5 มีร้าน photopro เดินเข้าไปแบบมึนๆ ขอลองเลนส์ 55-200 เราก็ลองๆเล่นๆก็สนุกดี5555  (แต่เราไม่ใช่คนที่ด้านขนาดจะขอ 70-200 มาเล่นอันนั้นความฝันมาก) เล่นไปได้สักพักเจอขาตั้งกล้อง เอ้ยชอบเพราะตอนนั้นเรากำลังอยากถ่ายวิวเลย มีเงินติดตัวอยู่ 3,000 บาท ซื้อเลย เงิน 3 เดือนหายไปกับตา พอได้ขามาก็ไปลองเล่นเลย ประหลาดใจ ไปวัดพระแก้ว ,สนามหลวง ,วัดสระเกศ ,BTS ช่องนนทรี ตามรอย I love ไปถ่าย และอื่นๆ

ไปๆ มาๆ ก็เริ่มเบื่อ ที่เบื่อไม่ใช่อะไรหรอก คือไม่มีเงินจะไปซื้อเลนส์ 50 1.8ED คือฝันอยากได้ เพราะจะไปถ่ายแต่ล่ะที่นี้ต้องใช้ตังอยู่พอตัว ต่อครั้งนึงเสียไป 100-200 บาทเลย วันนึงได้ตัง 60 บาท จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าออกไปถ่ายรูปที่ ตจว.ไม่ได้ง่ายๆ แน่

วันหนึ่งกำลังเรียนหนังสือด้วยความตั้งใจ ตั้งใจจริงๆ แล้วแชทก็เด้งขึ้น สมัยนั้นยังไม่มีให้กรองแชทใครที่ทักมาก็จะเด้งเลยทันที เปิดดูอ้าวเห้ย! อาจารย์นิสิตทักมาให้ไปถ่ายรูปปริญญาให้หน่อย คือตอนนั้นยิ่งดีใจกว่าเดิม ทำไมครูไม่ไปจ้างคนอื่น เรายังไม่พร้อม คือตอนนั้นบอกเลยอุปกรณ์ไม่พร้อมมากๆ มีแค่ 18-55 ขาแฟลชตัวนึง ทริกเกอร์ยังไม่มีเลย แล้วถึงวันซ้อมรับที่บ้านสมเด็จ เราก็ไปถ่ายช่วงบ่าย เรียกช่วงเย็นดีกว่าเพราะเราไปตอนเลิกเรียนแล้ว 4โมงกว่าๆ ก็ได้ถ่ายทุกสายตาคนในนั้นมองมาที่เรา

ตอนนั้นเราใส่ชุดลูกเสือไปถ่ายนะ โดนตากล้องแซวก็มีตอนเดินๆ อยู่ (Scout Photographer) ถ่ายเสร็จเราก็ได้เงินมา 1,500 บาท คือดีใจมาก เพราะเป็นเงินก้อนแรกในชีวิตที่รู้สึกว่ามันเยอะ แล้วเอาไปซื้อทริกเกอร์ หมดเลยเงิน แล้วก็เอามาใช้ถ่ายเล่นๆไปเรื่อยๆ

ถ่ายไปถ่ายมา ครูที่ รร. ติดต่อมาไปถ่ายรูปรับปริญญาที่จุฬาฯ ให้หน่อย เราเลยบอก “ได้ครับผม” ก็ไปหาเช่าเลนส์ 50 1.8 มา บอกเลยว่ารบกวนคนอื่นมาก เช่ามาเสร็จเราก็ไปถ่ายเลย ถ่ายตอนนั้นเราเก็บครูเขาวันละ 2,500 บาท 2 วันก็ 5,000 บาท ได้เงินมาคือดีใจมาก ><” เงินเยอะมากๆ ประหลาดใจ

ต่อมาก็ไปซื้อ 50 1.8 มาจริงๆ ที่ fotofile MBK ดีใจมากเงินถึง ได้มาก็เริ่มชวนคนที่เราชอบไปถ่ายรูป ถ่ายให้เขาสวยมาก จากนั้นก็เริ่มรับงานแบบเต็มตัวๆ งานรับปริญญา มอ.ต่างๆ ทั่วไป อย่างที่ไปไกลสุดตอนนี้ก็ มข. ช่วงปี 58 เราเก็บค่าถ่ายต่อวันที่ 3500 ครึ่งวัน 2500 บางคนก็บอกเราเก็บแพง บางคนก็บอกเราเก็บถูกไป เราก็ไม่ค่อยแคร์ตรงนี้มาก ใครอยากจ้างเรา เราก็แค่ไปถ่ายให้เขาแค่นั้น ตอนถ่ายเราก็บิ้วเขาไปเราก็มีความสุขอีก
จนมันเป็นงานที่เราชอบไปเฉยเลย

เลนส์ตัวที่ 2 คือ 10-20 Sigma ได้มารู้สึกโลกกว้างมาก เลยเอาไปถ่ายมั่วเลย ถ่ายไปถ่ายมาก็เบื่อกลับมาทำงานต่อ เลนส์ตัวที่ 3 คือ 35 1.8 DX มาแทน 50 1.8 สาเหตุรุ่นพี่เราทำมันหาย และเลนส์ตัวที่ 4 คือ 85 1.8 ED ได้จากการถ่ายงานช่วงเดือน ม.ค-เม.ษ 59 แล้วซื้อช่วง มิ.ย 59 วันไหนต้องถาม ดีเจเซ็น ร้านขายกล้องที่ชลบุรี (คือนั่งรถตู้ไปชลบุรีเพื่อเอาเลนส์555+) ได้ 85 มาแล้ว

หลายๆ คนก็คงจะรู้เรื่องในความเทพเบลอหลังของมันซึ่ง ผญ. ชอบภาพเบลอหลัง จัดสิครับรอไร เลยชวนนางแบบมาถ่ายรูปกัน ยังไม่ทันชวนงานก็มีงานมาให้ทำแล้วจ้าา [รับปริญญา,พรีเวดดิ้ง,งานแต่ง,โปรไฟล์,งานพรอม]

จนปัจจุบันก็มีงานเข้ามาให้ทำอยู่ตลอดทุกเดือน จองกันไปใหญ่ ข้ามเดือนก็มา ข้ามครึ่งปีก็มี จอง ม.ค. ถ่าย ธ.ค. ก็มี และปัจจุบันทุกคนก็รู้จักเราในฐานะช่างภาพไปโดยปริยาย WATCH LIGHT FOTO ส่วนโปรแกรมที่เราใช้แต่งภาพมี LR / PS ชอบมากเทพเจ้าเลยสองโปรแกรมนี้

คลิกชมตัวอย่างผลงานกันก่อนได้เลย

————————————–

ขอบคุณภาพจาก สมาชิกเว็บไซต์พันทิป “สมาชิกหมายเลข 1358624” : http://pantip.com/topic/35637501

ติดตามผลงานของน้องตาลได้ที่เพจ >> https://www.facebook.com/WatchLightFOTO
หรือติดตามที่ Facebook ส่วนตัว >> https://www.facebook.com/Darkingside

ข่าวที่เกี่ยวข้อง