ภาพน่ารักๆ เบล-สวรรยา บนปก Campus Star No.41

นิตยสารแคมปัสสตาร์เล่ม 41 นี้ มีสาวน้อยน่ารักมายิ้มแป้นแล้นให้เราชื่นใจ สาวน้อยเสียงใส เบล-สวรรยา เลียงประสิทธิ์ กับไลฟ์สไตล์ชีวิตชิคๆ และบรรยากาศสังคมเฮฮาในแบบเด็กนิเทศฯ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ภาพน่ารักๆ เบล-สวรรยา

บนปก Campus Star No.41

เบล-สวรรยา บนปก Campus Star No.41

FIRST OF BELL

ชื่อ : เบล-สวรรยา เลียงประสิทธิ์

การศึกษา : ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วันเกิด :  4 ตุลาคม 2540

ส่วนสูง : 155 ซม.

น้ำหนัก : 42 กก.

นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ : เด็ก ม.กรุง

คติประจำใจ : เรียนเหนื่อย แต่คนส่งเราเรียนเหนื่อยกว่า

วิชาเรียนน่าเบื่อ : คณิตศาสตร์

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา : น้ำท่วมเวลาฝนตก

เป้าหมายในอนาคต : มีอาชีพที่มั่นคง

ผลงาน :  my lil boy, อังกอร์

Instagram : Bellsawanya

รักแรกพบกับคณะนิเทศฯ ม.กรุงเทพ

ตอนนี้อยู่ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพค่ะ แรกเข้ามาก็ค่อนข้างต้องปรับตัว เพราะมหาวิทยาลัยแตกต่างจากตอนมัธยมเยอะ มัธยมจะมีครูคอยช่วยตลอด แต่มหา’ลัยครูค่อนข้างจะปล่อยให้มีความรับผิดชอบในตัวเอง แต่ก็ได้เจอเพื่อนใหม่ เจอคนเยอะกว่าเดิม การเรียนก็เพิ่งเรียนจบซัมเมอร์ไป วิชาที่เรียนยังเป็นพื้นฐานไม่ได้ลงลึกมาก แต่ก็คือสนุกดี ตอนนี้ยังไม่ได้เลือกเอกที่จะเรียน แต่คิดว่าจะเลือกพีอาร์ เพราะน่าจะเป็นสายที่เหมาะกับเบลมากที่สุด คิดว่าเป็นสิ่งที่เราน่าจะถนัด อย่างวิชาที่ชอบก็อย่างเช่นวิชา Speed ก็เกี่ยวกับสายนี้เหมือนกันค่ะ

สังคมแรกพบในมหาวิทยาลัย

กลุ่มเพื่อนที่สนิทของเบลจะมีประมาณ 5 คนค่ะ ที่สนิทกันได้น่าจะเพราะว่าเรามีเซ็กซั่นเรียนตรงกัน ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะว่าเพื่อนๆ ก็อยู่คอนโดเดียวกันด้วย เป็นความบังเอิญที่ได้มาอยู่เหมือนกัน ก็จะเจอกันทุกวัน ตอนกลางคืนก็มักจะชอบขับรถไปหาอะไรกินกันที่เยาวราช ประตูผี หรือไม่ก็เสาชิงช้า เพราะแถวนี้ของกินเยอะ แถมมันเปิดอยู่ถึงดึก อย่างที่ชอบกินก็จะมีก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เยาวราช หรือถ้าเป็นที่ประตูผีก็จะเป็นผัดไท ร้านดังที่นั่นเลย

ความแตกต่างของเด็กคอนโดกับเด็กหอ

ที่เลือกอยู่คอนโด เพราะว่ามันค่อนข้างมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า แต่ก็จะค่อนข้างต่างกับอยู่หอเหมือนกัน เพราะหอส่วนใหญ่อยู่ในซอยรังสิตภิรมย์ แล้วซอยนี้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงเต็มไปหมด อาจารย์จะพูดตลอดว่า รังสิตภิรมย์มีทุกอย่างยกเว้นอนาคต (หัวเราะ) คือเด็กที่อยู่แถวนี้จะมีที่เที่ยว มีของกินเยอะแยะ แต่สำหรับเบล ถึงบรรยากาศในซอยหอจะสนุกสนาน เราอยากสนุกกับเพื่อนนะ แต่ยังอยากจะรักษาเรื่องเรียนอยู่ คือเรียนก็เรียน เล่นก็เล่น เลยเลือกคอนโดดีกว่า แต่ถ้าให้เลือกระหว่างอยู่หอกับอยู่บ้าน เบลเลือกอยู่หอนะ  เพราะอยู่หอ เราสะดวกได้เจอเพื่อนๆ เพราะว่ามหา’ลัยเรียนน้อย แต่งานเยอะ การได้เจอเพื่อน ทำให้ได้ใช้เวลาทำงานด้วยกันมากกว่า งานที่เราทำมันก็จะมีประสิทธิภาพดีกว่าอยู่บ้านแล้วโทรคุยกัน แถมอีกอย่างคือการพักอยู่ใกล้ๆ ทำให้ประหยัดเวลาเดินทาง เราก็มีเวลาพักผ่อนเต็มที่ ได้ทบทวนการเรียนเต็มที่

เรื่องเล่าหลอนสไตล์เด็กหอ

เบลก็มีเพื่อนที่อยู่หอเหมือนกัน ก็มีเพื่อนๆ ชอบมาเล่าเรื่องเล่าน่ากลัวๆ หน่อย อย่างบอกว่าตอนกลางคืนได้เสียงคนเดินตลอดเวลา หรือไม่ก็จะเป็นเรื่องที่มีคนฆ่าตัวตายบ่อยในซอย เพราะว่าเป็นซอยที่คนอาศัยอยู่เยอะมาก ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าจริงหรือเปล่า แต่ว่าในคอนโดเบลไม่มี เพราะว่าเป็นคอนโดเพิ่งสร้างใหม่เลย เราก็เข้าอยู่คนแรก แต่ถ้าให้เบลไปอยู่หอแบบนี้บ้าง เบลก็กล้าอยู่นะ เพราะเป็นคนที่ไม่กลัว ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่

สไตล์การแต่งห้องโดนใจสาวเบล

ถ้าเป็นหอจริงๆ ขอเน้นความสะอาด แล้วก็มีเฟอร์นิเจอร์ครบถ้วน ถ้าเป็นคอนโด ขอเป็นห้องมืดหน่อย ห้องที่ไม่โดนแดด เพราะบางทีนอนเช้ามากก็ไม่อยากตื่น ถ้ามีวิวเป็นสระว่ายน้ำได้ก็ดีนะ ส่วนการตกแต่ง ห้องเบลจะชอบแต่งสไตล์โมเดิร์น โทนก็เป็นสีดำกับขาวหมดเลย มองแล้วไม่เบื่อ ไม่อยากเลือกเป็นสีๆ เดี๋ยวจะเบื่อเอาง่ายๆ แล้วคือห้องก็เล็ก ประมาณ 22 ตรม. เลยไม่ได้วางของอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปภาพตัวเองหรือโปสการ์ดเอามาแปะตามผนังเป็นเรื่องราวที่เคยได้ไปมา หรือไม่ก็เป็นโพสอิท เตือนความจำแค่นั้นค่ะ

ไลฟ์สไตล์สุดชิคในคอนโด

เมนูง่ายๆ ในคอนโดไม่มีอะไรมาก มาม่า ไข่ต้มนี่แหละ (หัวเราะ) เพราะบางทีเรียนเช้าสุดแปดโมง เราอยู่คนเดียว ก็ไม่ค่อยมีเวลาทำอะไร ต้องรีบเดินทางไปเรียน เพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปมอก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ถ้าเป็นวันหยุดก็จะชอบว่ายน้ำ ออกกำลังกายบ้าง อยู่ในห้องก็จะดูทีวี ดูหนัง ฟังเพลงมากกว่าค่ะ หนังสือไม่ค่อยได้อ่าน หนังก็เป็นแนวเกาหลีรักกุ๊กกิ๊ก แต่ไม่ได้เป็นติ่งนะ (หัวเราะ) เพลงชอบสไตล์ป๊อปใสๆ ฟังสบายๆ อย่างเพลงที่ชอบล่าสุดก็จะเป็นเพลง “อ้าว” ของพี่อะตอม-ชนกันต์ ส่วนถ้าเวลาใกล้สอบหน่อย ก็จะมีเพื่อนๆ มารวมตัวกันในห้องเบล แล้วก็จะมีติวกันดึกๆ เพราะว่าส่วนใหญ่แต่ละคนจะมีชมรมของตัวเอง เวลาเลิกก็ไม่ตรงกัน ก็เลยนัดกันดึกๆ แล้วก็อยู่กันทั้งคืนเลย อย่างช่วงนี้วิชาที่ติวหนักหน่อยก็จะเป็นสแตท เพราะสายนิเทศฯ ให้มาเรียนเกี่ยวกับตัวเลขก็ไม่ค่อยถนัดกันเท่าไหร่ ก็ต้องมาดูว่า ใครไม่เข้าใจตรงไหนกันบ้าง มาระดมความคิดช่วยๆ กันติว

กิจกรรมเกรียนๆ เมื่อชาวมอมารวมตัวกัน

เวลานัดรวมตัวกันทีไร บางทีก็จะมีแกล้งกันบ้าง แก้เครียด อย่างเบลเคยเจอกำลังอาบน้ำอยู่ดีๆ เพื่อนผู้หญิงก็เปิดประตูเข้ามา คือก็ล็อกประตูนะ แต่ประตูห้องน้ำใช้เหรียญไขนิดเดียวก็ได้แล้ว ถามว่าชินมั้ย ตอนนี้ก็ชินแล้วมั้ง (หัวเราะ) นอกจากนัดติวกัน ตอนนี้ก็อยากนัดกันมาทำอาหารบ้างค่ะ เพราะว่าในกลุ่มเพื่อนผู้ชายทำอาหารเก่งกว่าเพื่อนผู้หญิงอีก เขาไปเรียนมา แล้วก็เอามาให้ชิมตลอด ก็เลยถ้ามีโอกาส อยากจะนัดมาฝึกทำขนมกัน คิดว่าจะทำเป็นคุ้กกี้ง่ายๆ ก่อน เพราะอุปกรณ์ห้องเบลก็มีครบทุกอย่างทั้งเตาอบ เตาแก๊ส ยังไม่เคยลองทำเองเลย ถ้ามีเพื่อนๆ มาช่วยกันทำคงจะดี

ถ้ามีโอกาสได้อยู่หอ แล้วเลือกได้ว่าจะอยู่กับใครสักคน จะเลือกอยู่กับ?

อยู่กับเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่ม ชื่อ “จ๊ะเอ๋” เขาเป็นคนน่ารัก จริงใจ มองโลกในแง่ดี แล้วก็คอยใส่ใจคนอื่นอยู่ตลอดเวลาค่ะ แล้วก็คนที่อยากอยู่ด้วยอีกคน แต่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ก็คือพี่ชมพู่-อารยา ปลื้มพี่เขา พี่เขาสวยแล้วก็เก่ง ก็คงจะแปลกดีนะ ถ้าพี่เขาได้มาอยู่ในห้องเดียวกับเรา

CREDIT PLACE : GLUR BANGKOK HOSTEL & COFFEE BAR

ตามดูคอลัมน์ CAMPUS COVER ได้ที่นิตยสาร Campus Star No.41

www.facebook.com/campusstars

ข่าวที่เกี่ยวข้อง