เรามักจะได้ยินคำว่า “ชีวิตคนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเดินทำตามฝันตนเองได้” เหมือนกับ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่มีชื่อว่า “เอม-อทิตา เสนาใหญ่” จากชีวิตเด็กสาวบ้านนอกธรรมดาที่มีฐานะยากจน พ่อแม่รับจ้างทั่วไป แต่น้องเอมก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจเรียน จนในที่สุดเธอก็สามารถสอบติดทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยได้สำเร็จ และล่าสุดเธอก็เรียนจบจากสาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ด้วยเกรดเฉลี่ยตลอดหลักสูตร 4.00
นับว่าบัณฑิตรุ่นแรกของสาขา ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับสถาบัน พร้อมขึ้นแท่นว่าที่บัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 ซึ่งจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา 2559 ในช่วงปลายปี 2560 นี้ พร้อมทั้งนี้ น้องเอม ยังได้รับทุนการศึกษาเรียนต่อในระดับปริญญาโทและเอก อีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งคนเก่งที่เราน่ายกย่องและน่าเอาเป็นแบบอย่างมากๆ
สุดยอด! ‘เอม อทิตา’ บัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1
สำหรับ น้องเอม-อทิตา เสนาใหญ่ นั้น มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านหนองผือ ตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรสาวคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้อง 3 คน ของคุณพ่อสุวรรณ (อายุ 56 ปี) และคุณแม่คำพัน (อายุ 59 ปี) ซึ่งมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป
น้องเอม กล่าวว่า ด้วยฐานะทางบ้านที่ยากจน หลังที่น้องเอมเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนเขมราฐพิทยาคม ก็อยากที่จะเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ทางด้านคุณแม่พูดว่า “แม่คึจะมีเงินส่งเรียนน้อลูก” จากคำพูดนี้ ทำให้น้องเอมตัดสินใจมองหาทุนการศึกษาในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพียงแค่อยากที่จะแบ่งเบาภาระของครอบครัว จึงได้เลือกสอบและได้รับทุนการศึกษา จากโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ที่สามารถทำให้น้องเอมเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท และเอก ได้ตามที่ต้องการ แม้ว่าทุนการศึกษานี้ จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าลงทะเบียน ค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ก็ยังมีจำนวนจำกัด จึงทำให้ครอบครัวต้องขายที่นา เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับลูกๆ ซึ่งน้องสาวของน้องเอมได้รับทุนจากสภากาชาดไทย เรียนที่วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย
ถึงแม้ว่า คุณพ่อจะเรียนเพียงแค่ชั้น ป.4 ส่วนคุณแม่เรียนจบ กศน. แต่ท่านก็มีความตั้งใจที่จะส่งให้ลูกๆ ได้เรียนให้สูงที่สุด เท่าที่กำลังความสามารถของตน เพื่อเป็นการทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปในวัยเด็กของท่าน แม้จะมีทุนการศึกษาที่ช่วยในการดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าหนังสือ และยังรวมถึงค่าทำงานวิจัย แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือนั้นที่เกิดขึ้น เช่น ที่พักรายเดือน เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้คุณพ่อต้องทำงานอย่างหนัก รับจ้างทั่วไปหาเลี้ยงครอบครัวตามกำลังที่ท่านสามารถทำได้ ส่วนคุณแม่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายอยู่บ่อยครั้งจึงต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ น้องเอม ยังได้กล่าวต่ออีกว่า ตนเลือกสอบทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ และเพื่อเป็นการลดภาระของครอบครัว ซึ่งพ่อกับแม่ท่านก็อายุมากแล้ว จริงๆ แล้วก็มีความสนใจอยากที่จะเรียนด้านเภสัชศาสตร์ แต่พอดูค่าเรียนค่อนข้างสูง จึงตัดสินใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่ง ตอน ม.ปลาย ตนมีโอกาสเข้าค่าย สอวน. รักวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ภาคภูมิใจที่ได้เรียนที่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สาขาชีววิทยา เป็นรุ่นแรกเปิดรับสมัครนักศึกษาสาขาชีววิทยา เรียนที่นี่สะดวกสบาย ใกล้บ้าน มีการเรียนการสอนที่ดี
ความภาคภูมิใจในวันนี้ คือการสำเร็จการศึกษา จบตามหลักสูตร ไม่คิดว่าจะได้ผลการเรียนที่สูงสุด 4.00 ตลอดหลักสูตร อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ คุณครู และคณาจารย์ทุกท่าน ที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับศิษย์ในทุกระดับ ขอบคุณครอบครัว พ่อกับแม่ที่ทำให้ลูกมีวันนี้ พร้อมเป็นกำลังใจด้วยดีมาโดยตลอด พ่อบอกเสมอว่า “ให้ลูกเป็นคนดีของสังคม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดและตั้งใจเรียน เชื่อมั่นในการตัดสินใจของลูก และสอนเสมอว่าถ้ามีความเชี่ยวชาญในสายงานที่ตนเรียนมา อย่างไรก็มีงานทำแน่นอน”
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของว่าที่บัณฑิต มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ จนสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากที่น้องเอม เรียนจบ ป.ตรี ก็ได้วางแผนที่จะเรียนในระดับปริญญาโทและเอก ในสถาบันศึกษาภายในประเทศที่เปิดหลักสูตรที่สนใจ ส่วนในอนาคต น้องเอม สนใจอยากที่จะเป็นนักวิจัย หรืออาจารย์สอนทางด้านวิทยาศาสตร์ ในพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง พร้อมทั้งยังยึดมั่นเสมอว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้ที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องรู้จักแบ่งปัน ใช้ชีวิตให้มีความสุขและมีความหมาย”
ที่มา : www.isanbanthung.com