แซม-เพ็ญพิชญ์ หนุ่มจิตวิทยาสุดเฟรนลี่ จากจุฬาฯ

นักศึกษาจิตวิทยาปี 3 สุดเฟรนลี่จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แซม-เพ็ญพิชญ์ บุญห่อ หนุ่มนักกิจกรรมที่อยากศึกษาเกี่ยวกับความคิดของผู้คนอย่างจริงจัง ใครสนใจเกี่ยวกับศาสตร์ทางด้านพฤติกรรมของมนุษย์ ตามมาดูไลฟ์สไตล์ของนักจิตวิทยาฝึกหัดว่าจะต้องมีการเตรียมตัวและพัฒนาความรู้ด้านนี้ยังไงบ้าง

แซม-เพ็ญพิชญ์ หนุ่มจิตวิทยา จุฬาฯ

การเปลี่ยนแปลงช่วง ม.ปลาย ทำให้สนใจจิตวิทยา

จากตอนแรกที่เป็นคนไม่กล้าแสดงออก แต่พอช่วงม.ปลายได้มีโอกาสไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา ก็เลยเปลี่ยนเป็นคนกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น แล้วก็เข้ากับคนง่าย เลยอยากจะเรียนทางด้านความคิดของคน อยากจะเข้าใจว่าอะไรทำให้คนเปลี่ยนไป ส่วนที่เลือกจุฬาฯ เพราะเป็นความใฝ่ฝันของคุณแม่และตัวเอง จากเด็กโคราชได้มาเรียนที่นี่ ถือว่าเป็นความภูมิใจที่สุดแล้ว

เรียนในคลาสแล้วได้ออกสนามจริงด้วย

มันมีวิชาแล็ปที่เราต้องเอาทฤษฎี ไปลองใช้ให้เห็นภาพ อย่างเช่นทฤษฎีช่วยเหลือ ที่เราต้องไปทดลองในสถานการณ์จริงที่ผู้คนไม่รู้ว่ากำลังถูกทดลองอยู่ เช่นทฤษฎีที่ว่าในพื้นที่ที่คนเยอะ โอกาสที่จะได้ความช่วยเหลือมันน้อยกว่า พวกผมก็ต้องไปที่สยาม ทำทีเป็นถือของเยอะ แล้วก็ทำปากกาหล่น ดูว่าคนเขาจะทำยังไงกันก็ต้องออกแล็ปกันเป็นกลุ่มทุกอาทิตย์ แรกๆ ไปทำก็อึดอัดนะแต่พอทำไปแล้ว มันก็ทำให้เราจำทฤษฎีนั้นได้ง่ายขึ้นด้วย

การเปลี่ยนแปลงในตัวเอง หลังจากได้เรียนด้านจิตวิทยา

มันทำให้เราได้วิเคราะห์ตัวเองมากขึ้น บุคลิกที่เด่นๆ ของเรามันค่อยๆ ชัดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจคนอื่นมากขึ้น เด็กจิตวิทยาในความคิดของผม คือ วัยรุ่นที่สามารถมองคนอื่นได้ในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำ พฤติกรรมของคนเวลาที่จะทำอะไรต้องมีเหตุผล เราไม่ควรที่จะรีบตัดสินเขาง่ายๆ และพยายามเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำลงไป

ลองเป็นนักจิตบำบัดฝึกหัด

ในคณะของเราจะมีคลินิกอยู่ที่ชั้น 5 แล้วผมจะสนใจวิชา Counseling เป็นพิเศษ ซึ่งวิชานี้เขาจะให้เราฝึกเป็นทั้ง Counselor (ผู้ให้คำปรึกษา) และ Client (ผู้รับการปรึกษา) มีโอกาสได้ลองก็รู้สึกยากมาก เพราะหน้าที่ของเราคือจับความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของ Client ให้ได้ เพราะคนเราเวลาพูดอะไรออกมา ส่วนใหญ่จะมี Barrier กั้นกรองคำพูด เราก็ต้องพยายามลดสิ่งนั้นและสัมผัสในเนื้อแท้ของเขาเพื่อช่วยเหลือเขาให้ ได้

เอกลักษณ์ของเด็กจิตวิทยา

ในแก๊งค์ที่สนิทมีประมาณ 12 คน เป็นชายล้วน เป็นแก๊งค์ที่ชิลล์ที่สุดแล้ว แต่ถึงเวลาต้องจริงจังก็จะจริงจัง ชอบถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องปรัชญา เรียกว่าคุยกันหนัก ยันเช้าก็มี คำที่ผมชอบพูดบ่อยๆ ที่สุด จะเป็นคำว่า “งอกงาม(Glow)” เพราะนักจิตวิทยาสาย Counseling อยากจะช่วยทำให้มนุษย์ทุกคน Glow ในความเป็นตัวเอง ซึ่งคนอื่นนอกคณะฟังแล้วอาจจะคิดว่าจะปลูกต้นไม้หรือยังไง 55

การจีบสาวสไตล์หนุ่มจิตวิทยา

หนุ่มๆ จิตวิทยาคุยง่ายนะ คุยง่ายในที่นี้ไม่ได้จีบง่ายแต่เป็นคนที่พร้อมที่จะเปิดใจรับฟัง ไม่ปิดกั้น ส่วนสาวๆ ก็เป็นนักกิจกรรม พูดเก่ง กล้าแสดงออก แต่ว่าจีบยาก เพราะเขาจะใช้จิตวิทยาสวนกลับ อันนี้ประสบการณ์จากรุ่นน้อง ส่วนสไตล์การจีบสาวของผม คือในหลายพฤติกรรมของผู้หญิงที่ทำแล้วเราไม่เข้าใจเหตุผล บางทีสาวๆ ก็ชอบใช้อารมณ์ที่จะทำเราก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เขากำลังทำมันคือ อารมณ์ไม่ใช่เหตุผล และถ้าเกิดเขาปรับตัวเข้าหาเราได้ คนๆ คนนั้นก็น่าจะเป็นคนที่ผมจะจีบล่ะ 55

เชียร์ลีดเดอร์จิตวิทยาสุดโหด แชมป์สามสมัยซ้อน

ตอนเป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะโหดที่สุดแล้ว ฝึกอยู่สองเดือน กลับบ้านห้าทุ่มทุกวัน ผ่านมาได้ก็สงสัยว่าทำไมเราอึดขนาดนั้น แต่ว่าตอนฝึกจะมีรุ่นพี่ที่จบไปมาช่วยฝึกซ้อมตลอด เลยทำให้เราได้แชมป์มาสามสมัยรวดแล้ว

ก้าวมาเป็นรุ่นน้องจิตวิทยารุ่นต่อไป

จิตวิทยาเป็นอะไรที่นำมาใช้ได้ทุกอย่าง พอจบไป เราก็สามารถไปทำงานที่เกี่ยวกับคนได้ และเราต้องเป็นคนที่ OPEN MIND ไม่ปิดกั้น และพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะคำว่าดีกับไม่ดีมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด สิ่งที่ไม่ดีในยุคก่อน อาจจะดีในยุคนี้ก็ได้ ซึ่งการได้เรียนก็ทำให้ผมมีความสุขกับโลกมากขึ้น ถ้าน้องๆ สนใจก็อยากให้ลองเข้ามากันครับ

 

ติดตามคอลัมน์ About Campus ได้ที่นิตยสาร Campus star No.34

Facebook : www.facebook.com/campusstar

ข่าวที่เกี่ยวข้อง