ย้อนเรื่องราววัยเรียนของ หมอก้อง สรวิชญ์ ดาราอีกคนที่ในเรื่องการเรียนนั้นต้องบอกว่าน่าชื่นชม เพราะจากเด็กที่ไม่สนใจเรียนไม่คิดถึงอนาคต ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลับมาตั้งใจเรียน จนจบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.51 และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 โดยส่วนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองนั้นมาจากแรงปรารถนาของคุณพ่อที่ต้องการให้เขาเป็นหมอทหาร
ย้อนวัยเรียน หมอก้อง แพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1
ประวัติหมอก้อง เป็นทั้งหมอและดารา
พันตรีนายแพทย์ สรวิชญ์ สุบุญ ชื่อเล่น ก้อง หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า หมอก้อง เขามีชื่อเดิมว่า สุริยา สุบุญ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2526 ปัจจุบันนอกจากจะรับงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังมีอาชีพประจำเป็นแพทย์ทหารทั่วไป สังกัดกองตรวจโรค หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และยังเป็นคุณหมอนักเขียนมีคอลัมน์ลงในนิตยสาร เมนเฮลธ์ เป็นประจำด้วย
เด็กไม่เก่ง เปลี่ยนแปลงตัวเองจนได้เกียรตินิยมอันดับ 1
ในวัยเด็กช่วงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นเคยเรียนที่ลพบุรี ไม่ค่อยสนใจเรียน ไม่เคยมองถึงอนาคต จนมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตก็ตอนได้เรียนช่วง ม.ปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมที่กรุงเทพฯ ในตอนนั้นเขาได้เจอกับอาจารย์ที่สอนวิชาชีววิทยา ซึ่งเป็นวิชาที่เขาไม่ชอบ และก็ไม่ชอบอาจารย์ที่สอนด้วย ปรากฎผลสอบออกมาได้คะแนนแย่ จึงโดนอาจารย์ไปเรียกพบ ก่อนที่จะไปพบสิ่งที่เขาติดไว้ในหัวคือต้องโดนอาจารย์ต่อว่า
แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม อาจารย์กลับถามด้วยความห่วงใย พร้อมกับให้แง่คิดว่า ถ้าจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 60 ซึ่งในตอนนี้อายุ 17 แล้ว ก็เท่ากับว่าเหลือเวลาอีก 40 ปี แล้วไม่ใช่เวลาตอนนี้หรอ ที่จะเลือกอนาคตของตนเอง จากนั้นมาเขาก็เริ่มคิดได้ และตั้งใจเรียนจนจบ ม.ปลาย มาด้วยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากรุงเทพมหานคร ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.90
kong_sarawit : สำหรับผม .. ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ คือ 3 ปีในรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ยิ่งผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ ยิ่งคิดถึงโรงเรียน คิดถึงครู คิดถึงเพื่อน .. คิดถึงว่าอย่างน้อยที่สุด ตัวเราเองก็โชคดีที่มีครูดีเอาใจใส่และไม่ทอดทิ้ง ถ้าจะใช้คำว่า “ชีวิตได้เกิดขึ้นใหม่” ที่เตรียมอุดมศึกษาก็คงไม่เป็นคำพูดที่เกินไป ขอกราบขอบพระคุณคุณครูทุกท่านตั้งแต่สอนให้อ่านเขียนหนังสือได้ บวกเลขได้ รู้วิชาหลากหลายรอบตัว และสูงที่สุดคือทำให้ผลิตผลชิ้นนี้ออกมาไม่บูดเบี้ยวผิดแบบจนเกินไปกลายเป็นปัญหาและภาระของสังคม กราบขอบพระคุณครับ รักและระลึกถึงคุณครู และอาจารย์ได้ทุกท่านนะครับ
พ่ออยากให้เป็นหมอทหาร และเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าเท่านั้น!
เมื่อต้องเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ตอนแรกหมอก้องมีความคิดอยากเป็นครูเพราะมีอาจารย์เป็นไอดอล แต่เพราะคุณพ่ออยากให้เป็นหมอทหารมากกว่า และอยากให้สอบเข้าที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าเท่านั้นด้วย เขาจึงเลือกสอบเข้าคณะที่พ่อต้องการ ในสมัยนั้นต้องมีการสอบเอนทรานซ์ ก่อนสอบรู้สึกเครียดแต่ก็เตรียมตัวมาพร้อมตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ ม. 5 แล้ว โดยการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบเก่า ๆ และเน้นเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และภาษาอังกฤษ
ผลปรากฎว่าหมอก้องก็สามารถทำได้อย่างที่คุณพ่อหวัง สอบเข้าได้ ในช่วงวัยมหาลัยเขาเคยเผยว่าชีวิตการเรียนแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะช่วงเวลาประมาณ ปี 2 ที่ต้องมาเจอกับวิชาแพทย์จริง ๆ เช่น อนาโตมี่ (Anatomy) ที่ต้องเรียนกับร่างอาจารย์ใหญ่ เรียนรู้เรื่องระบบสรีรวิทยา กลไกทั้งหมดของร่างกาย
อย่างไรก็ตามหมอก้องก็สามารถเรียนจบการศึกษามาด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.51 เกียรตินิยมอันดับ 1 หลังจากเรียนจบก็ได้ไปเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่ โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี เป็นระยะเวลา 1 ปี หมอก้องยังเผยอีกว่า หลังจากเรียนจบและได้ทำงานจริง ๆ แล้ว 2-3 ปี ทำให้ค้นพบว่า คนเป็นหมอนั้น ยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่นที่เขามองมา ฉะนั้นจะเห็นแก่ตัวไม่ได้ และเอาเปรียบพวกเขาไม่ได้
หมอก้องในชุดเครื่องแบบ
เส้นทางวงการบันเทิง
หมอก้อง เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวด เมลสตาร์ชาเลนจ์ หลังจากนั้น ได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดกับช่อง 3 และเริ่มงานเป็นพิธีกรรายการบันเทิงของสถานี จากนั้นมาก็เริ่มมีผลงานการแสดง โดยเรื่องแรกคือ พริกไทยกับใบข้าว แสดงคู่กับ พลอย-ชิดจันทร์ รุจิพรรณ จากนั้นมาก็มีงานแสดงอีกหลายเรื่อง โดยสรุปผลงานเด่น ๆ ได้แก่ แสดงเป็น ณภัทร จากละคร ธาราหิมาลัย (2553), ไอ้วรรณ จากละคร ดาวเรือง (2556) และ องอาจ ชาตินักรบ จากละคร คมแฝก (2561) ปัจจุบันนอกจากจะเป็นนักแสดงก็ยังเป็น พิธีกร, แพทย์, นายแบบ,ทหาร และนักแสดงตลก
ภาพวัยเด็กหมอก้อง
ดาราที่เป็นหมอ พันตรีนายแพทย์ สรวิชญ์ สุบุญ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก: รายการทูไนท์ โชว์ ขอบคุณภาพจาก: kong_sarawit, pantip