น้องดา สาวม้งสุดเก่ง บัณฑิต มทร.ธัญบุรี - เผยชีวิตต้องสู้ ก่อนคว้าปริญญาวิศวกรรมสิ่งทอ

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีและน่าเอาเป็นแบบอย่าง สำหรับ น้องดา หรือ นางสาวธมลวรรณ แซ่ว่าง สาวม้ง สุดขยัน ใฝ่ดี และเก่ง จากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ที่ล่าสุด! ก็สามารถทำตามความฝันของตนเองได้สำเร็จ โดยน้องดาได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งทอ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.ธัญบุรี) ด้วยผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPA) 3.58

น้องดา บัณฑิตสุดเก่ง มทร.ธัญบุรี

แคมปัส-สตาร์ ขอแสดงความยินดีกับน้องดาและครอบครัวด้วยนะคะ แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าเส้นทางความสำเร็จของน้องดานั้น ไม่ได้สวยงามเหมือนดั่งผลการเรียน เธอจะต้องอดทนและสู้ชีวิตกว่าจะมาถึงวันนี้ได้

น้องดา สาวม้ง ที่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม

โดยน้องดา ได้เล่าว่า เป็นคนชนเผ่าม้ง ที่บ้านประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ในครอบครัวมีพี่น้อง 21 คน ซึ่งพ่อของเธอนั้นมีภรรยาทั้งหมด 3 คน โดยตนเองเป็นลูกของแม่คนที่ 2 ซึ่งแม่มีลูกทั้งหมด 9 คน ตนเองเป็นคนที่ 6 หลังจากที่ตนเองเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 จากโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ที่บ้านก็ไม่อยากให้เรียนต่อ ด้วยเป็นลูกผู้หญิงอยากให้แต่งงานมีครอบครัวมากกว่า

แต่ด้วยตนเองอยากเรียนหนังสือต่อ “อยากสวมชุดครุย เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทั้งยังถ่ายภาพรับปริญญากับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง” เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะหาเงินส่งตนเองเรียน

ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจเดินทางจาก จ.พะเยา มายังกรุงเทพฯ โดยได้เข้าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งกับพี่สาว ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ทำงานในโรงเรียน คิดเสมอว่า “ต้องเรียนให้สูงที่สุด และต้องนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งคนในชนเผ่าได้ยึดอาชีพการปักผ้ากันเป็นส่วนใหญ่” อยากจะกลับไปเผยแพร่ความรู้ และพัฒนาผ้าลายปักให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

การทำงานในโรงงาน 1 ปี ก่อนตัดสินใจเรียนต่อ

โดย 1 ปีกับชีวิตสาวโรงงาน ต้องทำงานกับเครื่องจักร และมีพี่ที่ทำงานแนะนำให้เรียน จึงได้ตัดสินใจสอบตรงเข้าศึกษาต่อที่ สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งทอ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี เมื่อเข้ามาเรียนต้องใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดให้มากที่สุด บริหารเงินที่เก็บระหว่างการทำงานในโรงงาน 1 ปี ทั้งใช้ค่าเทอม ค่าหอ และค่าใช้ประจำวัน

เนื่องจากไม่ได้ขอเงินจากทางบ้าน แต่ทุกความสำเร็จย่อมมีอุปสรรคเสมอ เงินที่เก็บไว้ไม่พอใช้จ่าย ซึ่งในตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เทอม 2 จึงได้ตัดสินใจพักการเรียน ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม และรายจ่ายต่าง ๆ มากมาย อยากพักการเรียนไปหางานทำ แต่โชคดีที่ ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ท่านทราบเรื่อง อาจารย์จึงได้ให้ความช่วยเหลือกับเธอ และได้โพสต์เรื่องราวของตนเองลงในเฟสบุ๊ก

ระหว่างเรียน น้องดา ก็รับทำงานพิเศษด้วย

เมื่อเรื่องราวของตนเองถูกแชร์ออกไป ก็ได้มีผู้ใจบุญมีเมตตาได้ให้ความช่วยเหลือแก่เธอ ทั้งนี้ก็ยังมี คุณครูวิไลลักษณ์ แสงสีจัน คุณครูที่โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ได้ดำเนินเรื่องขอทุนจากกองทุนเสด็จพ่อ รัชกาลที่ 5 (เชียงคำ) ให้กับตนเองโดยให้ทุนเทอมละ 12,000 บาท จนสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้เธอยังได้รับทุนให้เปล่าจากกองทุนพัฒนานักศึกษา มทร.ธัญบุรี และเงินจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เดือนละ 2,200 บาท ซึ่งเงินส่วนทำให้ตนเองได้กลับมาเรียนอีกครั้ง และบริหารเงินที่ได้โดยใช้จ่ายกับน้องสาวที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันน้องสาวกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4

ระหว่างที่เธอได้ศึกษาก็ได้รับงานพิเศษจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมาทำด้วย ก็คือ งานแปลเอกสารหน้าละ 30 บาท เข้าไปช่วยงานที่ฝ่ายพัฒนานักศึกา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ช่วยทำเอกสารต่าง ๆ ซึ่งแต่ละวันในมหาวิทยาลัยเธอใช้เงินวันละ 100 บาท จะไม่ให้เกินนี้ ตอนเย็นซื้อกับข้าวไปทำกินที่หอพักกับน้องสาว โดยค่าหอพักประมาณ 2,300 บาท

ซึ่งภายในห้องไม่มีทีวี ส่วนใหญ่จะยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่าน และมีเพียงโน๊ตบุ๊กที่ได้รับบริจาคมาจากผู้ใจบุญ ใช้ทำงานทำการบ้านส่งอาจารย์ ส่วนเวลาว่างในวันเสาร์-อาทิตย์ จะใช้ชีวิตอยู่ในห้องสมุดมหาวิทยาลัย และใน 1 ปี จะกลับบ้าน 1 ครั้ง และจะโทรไปหาแม่ 3 ครั้งต่อเดือน เพื่อขอกำลังใจจากพ่อแม่

เรียนจบได้เข้าทำงานทันที ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ

โดยในปัจจุบันน้องดาได้เข้าทำงานที่ บริษัท ไนซ์ แอพพาเรล จำกัด ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการส่วน IE & Lean สาขาเมืองพล จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ฝึกงาน เมื่อเข้าไปฝึกงานรู้สึกดี ตรงกับสายงานที่เรียนจบมาบวกกับทางบริษัทมีสวัสดิการให้กับพนักงานอีกด้วย โดยมีบ้านพักให้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย

อีกหนึ่งความฝัน : การได้พาครอบครัวไปเที่ยวทะเล

บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่กลับไปทำงานใกล้บ้าน ซึ่งน้องดาก็บอกได้ว่าอยากหาประสบการณ์ในการทำงานก่อน แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสตนเองก็จะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่เสมอ ตอนนี้ตนเองทำงานได้ 4 เดือน พอมีเงินเก็บ อีกหนึ่งสิ่งที่อยากให้ครอบครัวก็คือ การพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล เพราะว่าครอบครัวไม่เคยไปเที่ยวทะเล วางแผนว่าจะพาไปเที่ยวที่เกาะล้านสักครั้ง เพื่อมอบความสุขให้คนในครอบครัวด้วยเงินของตนเอง

น้องดา ฝากถึงน้อง ๆ หาสิ่งที่ใช่ ก่อนสมัครเรียน

สุดท้ายน้องดายังได้ฝากถึงน้อง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเรียน ต้องดูสิ่งที่เหมาะกับตนเอง อยากได้อะไรจากการเรียน อยากได้อะไรจากปริญญาใบนั้น ซึ่งตอนนั้นคืออยากนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาหมู่บ้าน อยากให้ตั้งเป้าหมาย เมื่อมีเป้าหมายต้องตั้งใจคว้ามาให้ได้ ภูมิใจที่มีวันนี้ สมหวังกับเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการช่วยเหลือและผลักดันให้ตนเองมีวันนี้

ขอบคุณ ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ และผศ.สุนีย์ หทัยวสีวงศ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ทั้งสองท่าน ที่คอยให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ และครูวิไลลักษณ์ แสงสีจัน ที่ให้ความช่วยเหลือตนเองมาตลอด “วันนี้เป็นวันที่ตนเองมีความสุขที่สุดในชีวิต วันที่ได้สวมชุดครุย เข้ารับพระราชทานปริญญาจากพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นำใบปริญญามาถ่ายภาพกับพ่อแม่ ได้เห็นรอยยิ้มของท่านทั้งสองคน”

คุณพ่อ-คุณแม่ สุดปลื้ม น้องดาทำความฝันสำเร็จ

นายสนชัย นางซ้ง แซ่ว่าง พ่อและแม่ของน้องดา เล่าว่า “ดีใจที่สุดในชีวิต ตื้นตันจนพูดไม่ออก ไม่มีอะไรมาแลกความรู้สึกในครั้งนี้ได้” ดาเป็นลูกคนแรกของแม่ที่รับปริญญา ดาเป็นเด็กดีมาก ขยัน ช่วยทุกอย่างที่บ้าน “ทำอะไรจะนึกถึงพ่อแม่ก่อนเสมอ” วันนี้เป็นวันสำเร็จของลูก นั่งรถมาจากจังหวัดพะเยา ตั้งแต่สี่โมงเย็นของเมื่อวาน ได้มาถ่ายรูปกับลูก หลังจากนี้พ่อและแม่ขอให้ดาประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน

ทางด้าน ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ เล่าว่า รู้สึกภูมิใจ ประทับใจ ที่ได้ส่งมอบโอกาสให้เด็กคนหนึ่งได้ถึงฝั่ง โดยน้องดาเป็นนักศึกษาคนแรกในโครงการใฝ่ดี ของทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ตนเองตั้งใจให้โอกาส และเป็นนักศึกษาคนแรกที่สำเร็จการศึกษา

โดยน้องดาไม่ได้ทำให้ผิดหวัง มีความกตัญญูรู้คุณคน อยากให้ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือภาคภูมิใจ และตนเองต้องขอบคุณน้องดาที่ทำให้ตนเองยึดมั่นและศรัทธาในการทำความดีและส่งต่อมอบโอกาสให้คนอื่นต่อไป มีกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนอื่นต่อ และหวังว่าตัวของน้องดาจะนำความรู้ในการศึกษาครั้งนี้ไปช่วยเหลือครอบครัว ช่วยเหลือคนรอบข้าง และช่วยเหลือสังคมต่อไป