กิ๊ฟ-สิรินาถ สุคันธรัต นางเอกสาวดาวรุ่งมาแรง จากละคร “กลับไปสู่วันฝัน” ช่อง PPTVHD36 จากเด็กสาวที่รักการเรียนประวัติศาสตร์และสังคม ที่มีจุดพลิกผันที่ทำให้ได้มาเรียนในศาสตร์ของละครเวที และก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงในวงการบันเทิงในที่สุด
กิ๊ฟ-สิรินาถ สุคันธรัต
จากเด็กโบราณคดีสู่สายนิเทศฯ การแสดง
ตอนแรกอยากเรียนโบราณคดีที่ศิลปากร เพราะชอบเรียนประวัติศาสตร์ สังคม เรียนได้ท็อปชั้นเลย แต่พอดีว่าหนูเกิดที่สระบุรี แล้วก็ย้ายโรงเรียนมาเยอะ จนมาจบที่เชียงใหม่ แม่ก็อยากให้อยู่เชียงใหม่ดีกว่า ก็เลยเลือกเป็นคณะสังคมศาสตร์ สาขาไทยศึกษา แล้วก็เขาให้โควตาสองอันดับ หนูก็เลยเลือกอันดับหนึ่งคณะที่คะแนนสูงหน่อย เป็นคณะสื่อสารมวลชน สาขาสื่อสารการแสดง ม.เชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่านิเทศฯ เขาเรียนอะไรกันบ้าง แค่รู้สึกว่าสาขานี้มันน่าเรียนดี
แต่สรุปคือหนูติดที่คณะนี้ เพราะคะแนนมันสูงถึงอันดับหนึ่ง เราก็อ้าว ไม่ได้เรียนอันดับสอง ถามว่าเสียใจมั้ย ก็ไม่ เพราะพอเข้ามาเรียนจริงๆ มันก็มีพวกรัฐศาสตร์ สังคมได้เรียนหมด วิชาในเมเจอร์ก็เรียนแล้วก็ชอบ รู้สึกมาถูกทาง แล้วก็ไปเพิ่มไมเนอร์เป็นละครตะวันออก เหมือนได้เรียนประวัติศาสตร์ รากฐานเกี่ยวกับละคร ตอนนั้นสาขาหนู ไม่ค่อยมีใครอยากเรียนด้วย เพราะมันต้องใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งในมหา’ลัยกับตัวเมเจอร์หลักๆ แต่หนูไม่เคยรู้สึกว่าหนัก ตอนเรียนก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เรียนอย่างเดียว เพราะพอทำแล้วแฮปปี้ เราก็เหมือนตัดทุกอย่างออกไปหมดเลย
จุดเริ่มต้นนักแสดงสาวหน้าใหม่ตอนเรียนอยู่มหา’ลัย
เล่นละครเรื่องแรก “ตราบาปสีชมพู” จำได้เรื่องแรก คือจากที่หนูเรียนเบื้องหลังมา พอมาเล่นละครเราก็เหมือนเป็นคนคิดเยอะ จนบางทีมันเล่นไม่ได้ สุดท้ายก็ได้ครูแอกติ้งที่ช่วยล้างความคิดเบื้องหลังออกไปให้ ไม่ต้องไปรู้จักทุกตัวในเรื่อง ไม่ต้องคิดเรื่องไฟ ให้เราคิดแค่ตัวละครก็พอ มันก็โอเคขึ้น แต่คือการเป็นนักแสดงละครเวทีมันก็ช่วยเราได้ เหมือนได้เปรียบเรื่องบอดี้ ที่เขาวอร์มให้เรา สอนเรื่องพลังกำลังภายใน มันมีประโยชน์มาก แต่เราก็ต้องอาศัยประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ด้วย
อย่างเรื่องล่าสุด หนูก็ใช้วิธีดูพี่ๆ ในกองเลยค่ะ เพราะมีแต่รุ่นใหญ่ หรือไม่ก็เข้าไปถามเลยว่าพี่มีเคล็ดลับอะไร ซีนนี้พี่จะทำยังไงหรอ อย่างในเรื่องที่ต้องเล่นกับพี่ป๊อก พี่เขาก็จะช่วยเราด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะเล่นเป็นพี่เขาอย่างเดียว พี่เขาก็สังเกตว่าเราเล่นประมาณไหน แล้วก็ตะล่อมคาแรกเตอร์เขาลงมาให้ใกล้เคียงกับเรา
ค้นพบเวย์ที่ใช้ แล้วไปให้ถึงสักวัน
งานในวงการตอนนี้หนูก็รู้สึกว่าได้โอกาสทำหลายอย่าง อย่างตอนนี้ได้ลองทำพิธีกรด้วย ไม่เคยทำเลย เห็นคนอื่นทำแล้วเอ้ย เก่งนะ เขาทำได้ พอเราได้ลอง เฮ้ย อะเมจซิ่งเดย์เหมือนกัน เราทำได้เหมือนเขา ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ก็เลยรู้สึกว่าเราอย่าไปกลัวกับประสบการณ์หรือโอกาสดีๆ ที่มีคนยื่นมาให้ ส่วนเรื่องการเรียน ตอนเรียนจบ หนูมีเป้าหมายชัดเจนว่าถ้ามีโอกาสอยากเรียนต่อด้านฟิล์มที่ต่างประเทศ ไม่ได้คิดว่าจะต้องหยุดที่เป็นนักแสดง หรือถ้าถึงวันที่งานแสดงมันแผ่ว ใจเราก็ยังรักในอุตสาหกรรมนี้ ก็อยากทำเบื้องหลัง อยากเป็นผู้กำกับหนังสักเรื่อง เป็นแนวสยองขวัญที่เราชอบ ก็คือเราตั้งความฝันไว้ เรารู้ว่าเราจะทำอะไร สักวันหนึ่ง เราจะหาเวย์มันไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ หนูเชื่ออย่างนั้น
ติดตามคอลัมน์อื่นๆ ได้ที่นิตยสาร Campus Star No.77