กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปริญญาบัตร ม.มหาสารคาม (วันที่สอง)

วันนี้ (21 ธันวาคม 2565) เวลา 08.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2564 เป็นวันที่สอง

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปริญญาบัตร มมส

ในปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวมจำนวนทั้งสิ้น 6,027 คน ประกอบด้วย ระดับปริญญาเอก 54 คน ปริญญาโท 155 คน และปริญญาตรี 5,818 คน ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดให้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 20 -21 ธันวาคม 2565 โดยในวันที่สองนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในระดับปริญญาตรี รวมทั้งสิ้น 3,494 คน

“มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นสถาบันที่มุ่งมั่นในการสั่งสมแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานกับวิทยาการที่เป็นสากลให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญา สามารถพัฒนาตนเองให้เพียบพร้อมด้วยวิชาการ จริยธรรมและคุณธรรม มีเอกลักษณ์ในการเป็นที่พึ่งของสังคมและชุมชน

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มุ่งพันธกิจหลักด้านการจัดการเรียนการสอน มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีคุณลักษณะพึงประสงค์และมีความเป็นผู้ประกอบการ พัฒนางานวิจัย และนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ ให้บริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคม เพื่อให้ชุมชนและสังคมสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และอนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้อง เผยแพร่ และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของอีสาน มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชีย” ภายในปี พ.ศ.2569

โดยมุ่งขับเคลื่อนและบริหารจัดการในทุกด้าน อาทิ การพัฒนาศักยภาพนักวิจัย การสร้างเครือข่ายการวิจัยและทุนวิจัย กับนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศ มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยเฉพาะทาง ศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัย หน่วยวิจัย และโครงการแลกเปลี่ยนนักวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ อีกทั้งมีการสร้างแรงจูงใจ การตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ด้านการวิจัย ให้มหาวิทยาลัยมหาสารคามก้าวไปสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชีย”

พระราโชวาท

ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาท แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย นับเป็นความภาคภูมิใจ เป็นเกียรติยศ และเป็นศักดิ์ศรีของสังคม ทั้งนี้ เพราะผู้สำเร็จการศึกษาในระดับสูง ย่อมมีความรู้เป็นสมบัติประจำตนและสามารถใช้ความรู้สืบสานความคิด ปัญญา ตลอดจนวัฒนธรรมอันดีที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ปรับปรุงสิ่งที่สมควรปรับปรุงให้ดีขึ้น และสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมได้เป็นอันมาก ตามทักษะความเชี่ยวชาญของแต่ละคน

จึงขอให้บัณฑิตทุกคน นำความรู้ไปใช้ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์สูงสุด และตั้งใจพยายามพัฒนาตนเองในทุก ๆ ด้าน ให้มีความรู้ความคิดที่ทันการณ์ทันสมัย มีใจเที่ยงตรงเป็นกลาง และมีความเมตตาปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น ถ้าทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะสามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้บรรลุผลเป็นประโยชน์ ทั้งแก่ตนเองและเพื่อนมนุษย์ อันจะทำให้สังคมมีความวัฒนาถาวร ควรแก่การภาคภูมิใจอย่างแท้จริง”

โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลเบิก นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ อุปนายกสภามหาวิทยาลัย ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มลฤดี เชาวรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร เข้าเฝ้า ทูลเกล้า ฯ ถวายรายงานผลการศึกษาของนิสิตทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตำรวจตระเวนชายแดน ผู้ดูแลนิสิตทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ฯ เข้าเฝ้า ฯ จำนวน 2 ราย บัณฑิตและนิสิตทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ฯ เข้าเฝ้า ฯ จำนวน 7 ราย

รองศาสตราจารย์ ดร.อรวิชญ์ กุมพล รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานและพัฒนาองค์กรดิจิทัล เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายรายงานผลการดำเนินงานกองทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปีการศึกษา 2564 บัณฑิต นิสิต และนักเรียนกองทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (นิสิตกัมพูชา) เข้าเฝ้า ฯ จำนวน 17 ราย จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาส ให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายของที่ระลึกตามลำดับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง