จากเด็กวิศวะ สู่แรงบันดาลใจในแบบเปอร์-สุวิกรม อัมระนันท์

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่หนุ่มน้อยแววตามุ่งมั่นคนนี้ได้เข้ามาสู่วงการด้วยหนังเรียลลิตี้ชีวิตนักเรียนเตรียมเอนทรานส์ FINAL SCORE จากนั้นหลายคนรู้แล้วว่า เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์ ได้สอบติดวิศวะโยธา อินเตอร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้สำเร็จ แต่นับตั้งแต่วันนั้นที่การถ่ายทำได้สิ้นสุด และเปอร์ได้เข้าสู่การเรียนในซีนชีวิตจริง จากวันนั้นจนถึงวันนี้สู่การเป็นผู้ใหญ่ในวัยยี่สิบปลายๆ ที่ชีวิตของเปอร์ได้เรียนรู้ตัวตนในความเป็นคนคุณภาพ และพร้อมจะสร้างแรงบันดาลใจสามมิติให้กับผู้คนที่มึความฝัน

จากเด็กวิศวะ สู่แรงบันดาลใจในแบบเปอร์-สุวิกรม อัมระนันท์

จากเด็กวิศวะ สู่แรงบันดาลใจในแบบเปอร์-สุวิกรม อัมระนันท์

นักเรียนมัธยมเตรียมเอนทรานส์ที่อยู่ในสคริปต์ภาพยนตร์

ชีวิตผมก็เหมือนในหนัง FINAL SCORE เลย ตอนนั้นอยากเป็นวิศวกร เราได้เห็นคุณพ่อทำงานตั้งแต่เด็ก บ้านหลังแรกคุณพ่อก็ปลูกเองทั้งหลัง รู้สึกคุณพ่อเท่จัง อยากเป็นเหมือนคุณพ่อ แต่โดยส่วนตัวเราเป็นชอบศิลปะ ฟังเพลง ดูหนัง มีความเป็นศิลปิน แต่ในวิชาวิทยาศาสตร์คำนวณเราอาจจะไม่ได้เป็นเริด เคยได้ท็อปแค่ตอนป.2 โตมาก็เรียนได้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ใช่ที่สุดของรุ่น เราเลยรู้สึกว่าอยากเรียนอะไรที่ยังไม่เก่ง ตอนนั้นแค่คิดว่าจบออกมาจะทำธุรกิจก่อสร้างแบบช.การช่าง อิตาเลียนไทย สเกลขนาดนั้นเลย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตั้งใจไปทางนั้นจริงๆ แล้วเราก็หนีไม่พ้นกลับมาหาสิ่งที่เราถนัด

ความเป็นวิศวะอินเตอร์ที่ไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจ

เข้าไปแรกๆ ไม่แฮปปี้ รู้สึกว่าเรียนอินเตอร์ แต่ครูสอนก็เป็นคนไทย พูดสำเนียงก็ไม่น่าฟัง แล้วไม่เคยได้ยินพวกศัพท์วิศวะ ศัพท์คณิตศาสตร์ แต่สุดท้ายพอได้คุ้นเคยกับเทคภาษาอังกฤษ ก็กลายเป็นสนุกดี แล้วก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่ครูไม่เก่ง ครูสอนเก่งมาก มันไม่ได้เกี่ยวกับสำเนียงไม่ดี มันก็แค่สอนให้เรามีความรู้ แต่เราไปติดกับอคติตรงนั้นเอง แล้ววิศวะเป็นสิ่งที่พูดด้วยความเข้าใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลองทำโจทย์แล้วแก้สถานการณ์เอง ทำการทดลองเยอะๆ แล้วเราจะมีความเชี่ยวชาญกับมัน

จากห้องเรียนทดลองสู่สนามจริงในการทำงาน

ในการทำงาน ณ ตอนนี้ มันก็ได้เอาสิ่งที่เรียนมาใช้ได้หมดนะ อย่างวิศวะก็สอนให้เราคิดเป็นระบบ หลายครั้งที่พูดคุยกับคนทำงานที่ประสบความสำเร็จ พื้นฐานก็ต้องมีการระดับความคิดในการสื่อสาร แล้วผมค่อนข้างจะเป็นคนทำงานเร็ว เพราะฉะนั้น ใครที่อยู่กับผม แล้วไม่เร็วเท่าผม จะเหนื่อย แต่คือคนเราทุกคนมันไม่ได้มีบรรทัดฐานเดียวกันเสมอไป สิ่งที่เราต้องทำก็คือช่วยให้เขาเป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น คือไม่ใช่ผมทำให้เขาเข้าใจผมอย่างเดียว แต่ผมก็ต้องเข้าใจเขาด้วย เมื่อเข้าใจเขา เข้าใจเรา ทุกคนเห็นภาพร่วมกัน แล้วมันจะขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวของมันเอง

เปอร์ในวัยยี่สิบปลายๆ กับรายการสร้างแรงบันดาลใจและการเปิดบริษัทของตัวเอง

จุดเริ่มต้นรายการ PERSPECTIVE คือ ผมอยากให้ผู้ชมได้เอาสิ่งที่เรานำเสนอมาเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับตัวเอง ผมเชื่อว่าถ้าใครได้ดูรายการนี้ ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย วันนี้รายการอายุแค่ขวบกว่าๆ ในวันที่มันโตมากกว่านี้ เราจะได้เห็นผลผลิตที่เราปลูกอย่างแน่นอน เพียงแต่มันต้องใช้เวลา ทุกวันนี้แรงบันดาลใจของผมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนกัน บางทีมันก็แว้บขึ้นมาเหมือนอิคคิวซัง (หัวเราะ) นึกยังไงก็ไม่ออก พอนั่งสมาธิเอาน้ำลายแตะหัว แล้วมันจะปิ๊ง! คิดออกเอง อย่างที่ผมไปสัมภาษณ์พี่แวว (นักกีฬาวิลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย) แล้วพอจบรายการ ผมก็นึกขึ้นมาได้สั่งน้องๆ ในออฟฟิศว่า ถึงวันที่พี่แววแข่ง เราต้องชวนแฟนรายการมานับถอยหลังให้กำลังใจพี่แววกัน  อยู่ๆ มันก็คิดขึ้นมาได้เอง ไม่ได้วางแผนไว้เลย

 

ตามดูคอลัมน์ interview ได้ที่นิตยสาร Campus Star No.41

www.facebook.com/campusstars

ข่าวที่เกี่ยวข้อง