ทุกคนอาจจะเคยได้ยินได้รู้กันมาบ้างแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ได้ทรงพระราชทานชื่อให้แก่มหาวิทยาลัยของไทย อาทิ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ แต่ก็ยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่พระองค์ทรงพระราชทานชื่อ พร้อมทั้งความหมายของชื่อนั้นให้อีกด้วย ได้แก่ 10 มหาวิทยาลัยของไทย โดยเรียงลำดับตามปีที่ได้รับพระราชทานชื่อดังต่อไปนี้
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานชื่อมหาวิทยาลัยไทย
1. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (พ.ศ. 2510)
เมื่อปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่ภาคใต้ โดยเริ่มต้นจากการจัดตั้ง “วิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์” เพื่อรอการพัฒนาขึ้นเป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติหลักการในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคใต้ ขึ้นที่ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยจะใช้เป็นที่ตั้งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และใช้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “มหาวิทยาลัยภาคใต้” ซึ่งมีสำนักงานชั่วคราวของมหาวิทยาลัยอยู่ที่อาคารคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (อาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบัน)
หลังจากนั้น คณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ โดย พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ขอพระราชทานชื่อให้แก่มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่มหาวิทยาลัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ได้พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 ตามพระนามฐานันดรศักดิ์ของสมเด็จพระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงถือเอาว่าวันที่ 22 กันยายน ของทุกปีเป็น “วันสงขลานครินทร์”
2. มหาวิทยาลัยมหิดล (พ.ศ. 2512)
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสถาบันที่มีที่มาจากการเป็นโรงเรียนแพทย์ ณ โรงพยาบาลศิริราช ชื่อว่า “โรงเรียนแพทยากร” ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2432 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) หลังจากนั้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 จึงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “มหิดล” อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ใช้แทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งประกาศในราชกิจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2512
3. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ในปัจจุบัน (พ.ศ. 2515)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. 2514 โดยให้รวมวิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี และวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เข้าด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตครูอาชีวศึกษา ให้การศึกษาทั้งระดับต่ำกว่าปริญญาและระดับปริญญา และทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันได้รับโปรดเกล้าพระราชทานนามภาษาไทย “สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า” และภาษาอังกฤษ “King Mongkut’s Institute of Technology” เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2514
4. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (พ.ศ. 2517)
ในปี พ.ศ. 2516 ก่อนหน้าเหตุการณ์ 14 ตุลา ในช่วงเวลาที่ ศาสตราจารย์ ดร.สุดใจ เหล่าสุนทร ดำรงตำแหน่งอธิการวิทยาลัยวิชาการศึกษา คณาจารย์ นิสิต และข้าราชการ ได้ร่วมกันเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ปรับฐานะวิทยาลัยวิชาการศึกษาเป็นมหาวิทยาลัย และย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการไปขึ้นกับทบวงมหาวิทยาลัย ท่ามกลางการปกครองที่เข้มงวดรุนแรงของรัฐบาลทหารในขณะนั้น เพื่อความคล่องตัวในการพัฒนาโครงสร้าง การบริหาร และการเรียนการสอนที่จำกัด ไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยและการขยายตัวที่มีความหลากหลายวิชาชีพ ท้ายที่สุดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “มหาวิทยาลัยที่เจริญเป็นศรีสง่าแก่มหานคร” ได้สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุดใจ เหล่าสุนทร เป็นอธิการบดี โดยนามของมหาวิทยาลัย ได้รับพระราชทานนามจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยพระราชทานเพียงชื่อเต็มและความหมายของชื่อดังกล่าว
5. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (พ.ศ. 2521)
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (Sukhothai Thammathirat Open University; ชื่อย่อ : มสธ., STOU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐแบบไม่จำกัดรับจำนวน (มหาวิทยาลัยเปิด) แห่งเดียวของประเทศไทยและเป็นมหาวิทยาลัยเปิดโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกลแห่งเดียวในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจัดตั้งขึ้นเพื่อขยายและกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ประชาชน มีลักษณะเป็นมหาวิทยาลัยในระบบเปิด ดำเนินการดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกลซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช” ตามพระนามกรมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์ นำมาประกอบกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ กรุงสุโขทัย เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย
6. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (พ.ศ. 2531)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (Rajamangala University of Technology) เป็นระบบมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2518 ในชื่อ “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา” ต่อมาในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ว่า “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ซึ่งมีความหมายว่า “สถาบันเทคโนโลยีอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา” และได้ยกสถานะเป็น “มหาวิทยาลัย” เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2548 ปัจจุบันมีอยู่ 9 แห่งทั่วประเทศ ดังนี้
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
ทุกวันที่ 15 กันยายน ของทุกปี ถือเป็น “วันราชมงคล” ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในวันดังกล่าวเป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)
7. มหาวิทยาลัยนเรศวร (พ.ศ. 2533)
มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 ภายหลังจากการยกฐานะขึ้นจากวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยชื่อ “มหาวิทยาลัยนเรศวร” นั้น ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) เพื่อสดุดีและเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เนื่องด้วยพระองค์ประสูติที่เมืองพิษณุโลก และทรงเคยดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลกมาก่อน
8. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (พ.ศ. 2535)
ในปี พ.ศ. 2510 ชาวนครศรีธรรมราช เริ่มรณรงค์เรียกร้องให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2531 ให้จัดตั้งวิทยาลัยนครศรีธรรมราช สังกัดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศในอนาคต แต่ก็ได้ยกเลิกมติดังกล่าวในเวลาต่อมา และอนุมัติให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2534
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามว่า “มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์” อันเป็นสร้อยพระนามในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
9. มหาวิทยาลัยราชภัฏ (พ.ศ. 2535)
มหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยครู” หลังจากนั้น ได้รับพระราชทานนาม “ราชภัฏ” จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน พร้อมทั้ง พระราชทาน พระราชลัญจกรเป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีอยู่ทั้งสิ้น 38 แห่งทั่วประเทศ
1. กลุ่มรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพมหานคร)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (มจษ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (มร.พน.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (มรธ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.)
2. กลุ่มภาคกลาง
- มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (มรว.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (มรภ.อย.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (มรภท.)
3. กลุ่มตะวันตก(พจนก.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรภน.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (มรภ.กจ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (มร.มจ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (มรภ.พบ.)
4. กลุ่มภาคตะวันออก
- มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (มรภ.รพ.)
5. กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (มรภ.ชย.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มรภ.นม.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (มรภ.บร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (มรภ.สร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (มรภ.ศก.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (มรภ.อบ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (มรภ.มค.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (มรภ.รอ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (มรภ.ล.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (มรภ.อด.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (มรภ.สน.)
6. กลุ่มภาคเหนือ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (มรภ.ชม.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรภ.ชร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (มรภ.ลป.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (มรภอ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (มรภ.พส.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร (มรภ.กพ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (มรภ.พช.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นว.)
7. กลุ่มภาคใต้
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (มรภ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (มร.นศ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สข.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรย.)
10. มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (พ.ศ. 2553)
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (เดิมชื่อ มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร) เป็นแนวคิดตั้งแต่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกกับนักศึกษาสามารถศึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการเมือง ชุมชนเมืองหลวง และเพื่อตอบสนองความต้องการของเมืองหลวง แต่แนวคิดนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก และในสมัย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สานต่อแนวคิดดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้เปิดการศึกษาหลายระดับแล้วในระดับอุดมศึกษา 2 แห่ง คือ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ โดยเน้นแผนการศึกษาวิชาการที่ไม่ซ้ำซ้อนกับมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ในประเทศ และเน้นผลิตบุคลากรสาขาวิชาที่ขาดแคลน และเป็นที่ต้องการของกรุงเทพมหานคร
ซึ่งต่อมา หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยต่อมา ได้ขอพระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า “มหาวิทยาลัยภูมิพล” เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า “มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช” เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556
—————————————————————–
ข้อมูลและภาพจาก : คุณ Apisit Kaewprasert (สมาชิกเฟซบุ๊ก), วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, www.wu.ac.th, www.dek-d.com, https://teen.mthai.com, https://picpost.postjung.com, www.youtube.com, www.pn.psu.ac.th