คิตตี้-พรสิริ วิลเลี่ยมส์ เมคอัพอาร์ติสท์คนไทย ความฝันระบายสี…สู่รันเวย์ระดับโลก

จากเด็กเนิร์ดในอดีตที่ไม่เคยมีพื้นฐานแต่งหน้ามาก่อน คิตตี้-พรสิริ วิลเลี่ยมส์ ค้นพบเส้นทางระบายสีสันความฝันที่ใช่ โดยการก้าวเข้าไปในเส้นทางเมคอัพอาร์ติสท์ระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จนได้แสดงความสามารถให้คนต่างชาติได้เห็นบนรันเวย์ลอนดอนแฟชั่นวีค และผลงานในนิตยสารชั้นนำต่างๆ การันตีโดยรางวัลชนะเลิศการประกวดแต่งหน้าในธีมเจ้าสาว และธีมแฟนซีในงาน National Makeup Award ที่ประเทศอังกฤษ

คิตตี้-พรสิริ วิลเลี่ยมส์ เมคอัพอาร์ติสท์คนไทย สู่รันเวย์ระดับโลก


จุดเริ่มต้นเป็นเมคอัพอาร์ติสท์

ย้อนไปในวัยเด็ก คิตตี้เป็นเด็กเนิร์ดที่เรียนจบปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาฟิสิกส์ ม.เกษตรศาสตร์ จากการเรียนตามใจคุณพ่อคุณแม่ เธอสามารถปรับตัวกับการเรียนสายวิชาการที่หลายคนมองว่ายาก ในขณะที่ก็ยังทำกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ดาวคณะ และเริ่มหลงใหลการแต่งตัวรักสวยรักงาม จนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ต่อยอดเข้าสู่เส้นทางการเรียนแต่งหน้าอย่างจริงจัง

กว่าจะมาถึงวันนี้ บนรันเวย์ระดับโลก

 “ตอนเด็กเหมือนเด็กทั่วไปที่ไม่รู้ว่าชอบอะไร แต่แค่ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ เลยไปเรียนสายวิทย์ แต่พอจะเข้ามหาวิทยาลัย บอกพ่อว่าอยากเรียนนิเทศฯ แต่พ่อบอกเรียนวิทย์มาแล้ว ก็เลยเรียนต่อดีกว่า แต่ตอนนั้นก็เริ่มแต่งตัวแล้ว ในกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่เนิร์ดน้อยที่สุด ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเพื่อนให้รักสวยรักงามตาม พอเรียนตรีจบบอกที่บ้านว่าไม่เอาแล้ว ขอเลือกสิ่งที่เราชอบ แล้วอยากได้ภาษา เลยไปต่อโทด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ประเทศอังกฤษต่อ ไปแรกๆ ภาษาไม่ได้เลย ร้องไห้ทุกวัน แต่ไม่ได้บอกคุณแม่ ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง สุดท้ายพอเราไม่ได้พูดภาษาไทย มันก็ได้เอง แล้วจากเรียนจากคำนวณก็ต้องมาเป็นบรรยาย เราบรรยายไม่เป็น เขียนกราฟไปส่งอาจารย์เลย เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง อาจารย์ก็ให้คะแนนเยอะอีก เฮ้ย มันแปลกแหวกแนว (หัวเราะ) จริงๆ แล้วคือบรรยายไม่เป็น พอเทอมหลัง เริ่มอ่านเยอะขึ้น สุดท้ายค่อยๆ ปรับตัวจนเรียนจบแค่ปีเดียว กลับมาเมืองไทย เอาเครื่องสำอางมาโชว์คุณแม่ คุณแม่เลยบอกว่า ถ้าเครื่องสำอางจะเยอะขนาดนี้ ไปเรียนแต่งหน้าเลยมั้ย อายุก็เยอะแล้ว ถ้าเรียนก็ต้องเรียนจริงจัง เลยไปเสิร์ชหาข้อมูล แล้วไปสมัครเรียนที่ Delemar Academy โรงเรียนสอนแต่งหน้า Top10 ของอังกฤษ การเรียนสนุกมาก สองเดือนแรกก็เริ่มทำงาน ไปขอแต่งหน้าฟรี ทำงานฟรี ได้ไปประกวดด้วย จนเรียนจบ ตอนนี้คิตตี้ทำงานที่นิตยสาร Fab UK และ i-ASiA รวมถึงเป็น INFLUENCER ให้กับ Women MThai  ด้วย แต่คิตตี้คิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ อยากจะพัฒนาฝีมือให้มากกว่านี้ ในวงการแต่งหน้าแข่งขันกันสูง แต่เราก็ไม่คิดจะแข่งกับใคร เราแข่งกับตัวเอง พยายามในทุกงานที่ทำ คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุดค่ะ”

วิธีการทำงานในแบบคิตตี้

เริ่มต้นเรียนเมื่ออายุ 30

“ตอนไปเรียนแต่งหน้าสองสามอาทิตย์แรก เครียดมาก มันยากมาก เพราะเราไม่เคยแต่งหน้าให้ใคร แล้วผิวคนเอเชีย บ้านเรากับบ้านเขาก็ไม่เหมือนกัน อีกอย่างคือมีแต่เด็กอายุ 17-18 แต่เราอายุ 30 แล้ว ก็คิดแค่ว่าเราต้องพยายามให้มากกว่าเขา เราไม่มีเวลาแล้ว แต่ทุกวันที่เรียนก็สนุกกับการเรียน เราชอบมัน เทคนิคต่างๆ ที่เขาสอนก็ดีมาก ทำให้เราได้มาอยู่ถึงจุดๆ นี้ได้”

เหนื่อยท้อ แค่เปลี่ยนวิธีคิด

“ช่วงแรก เคยมีเฟลบ้าง งานฟรีเราก็เหนื่อย ทำไมเราต้องทำงานฟรีบ่อยๆ แต่คิตตี้ก็ใช้วิธีเปลี่ยนความคิดใหม่ จากที่เราต้องเสียเงินค่ารถ เสียเวลา คิดกลับกันว่าเราก็ได้นางแบบมาฟรี เราได้รูปมาฟรี เราไม่ต้องไปจ้างช่างภาพมาทำให้ ถือเป็นพอร์ตและประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้”

แก้ปัญหาให้ได้ ซ่อนความกลัวไว้ข้างใน ฝึกฝนให้มากเข้าไว้

“เคยมีครั้งหนึ่งที่เขาให้วาดแทคทูตรงหน้าท้อง ตอนแรกคุยกันว่าวาดแค่มือ พอมาถึงบอก คิตตี้เธอต้องวาดตรงหน้าท้อง แล้วหน้าท้องคนจะหายใจตลอดเวลาถูกมั้ยคะ เราก็ต้องนิ่งมากๆ เราไม่เคยทำ เพิ่งมาทำครั้งแรก แต่ก็ต้องทำเหมือนกับเคยทำมาแล้ว ซ่อนความกลัวไว้ข้างใน แล้วตั้งใจทำ มันก็ทำได้ แต่ละงานมันใช้เวลาเตรียมตัวไม่เหมือนกัน อย่าง LONDON FASHION WEEK ใช้เวลาเตรียมงานเกือบเดือน เพราะไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่ยังมีลูกทีมของเราด้วย แต่บางงานก็ไม่มีเวลาให้เตรียมตัวเลย ส่งมาบอกว่าสามทุ่ม ชั้นมีงานพรุ่งนี้ รับมั้ย ถ้าไม่ โอกาสก็จะหลุดลอยไปหาคนอื่น ฉะนั้น เราก็ต้องรับ คิตตี้คิดแค่ว่าต้องทำได้ ก็คือตอบได้ทุกครั้ง จะบอกว่าคิตตี้ฝึกฝนเยอะมาก อยู่บ้านก็ฝึกฝีมือด้วยตัวเอง ฝึกทุกวัน มันก็ช่วยเราให้ทำงานเร็วขึ้น สไตล์ของที่โน่นเขาชอบคนตรงต่อเวลา ทำเร็ว ทำไว ทัศนคติในการทำงานก็ด้วย บางทีไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบงานเรา แต่สิ่งที่เขาถ่ายทอดมาให้เรากับในหัวเขาอาจจะคนละแบบ คิตตี้ก็โอเคเปลี่ยนให้ได้นะ เราไม่ได้อีโก้สูง ทำให้เขาชอบในส่วนนี้ด้วย”

แรงบันดาลใจ และเทรนด์ใหม่วัยรุ่น  

“แรงบันดาลใจบางทีมันก็อยู่รอบตัวเรา ทุกอย่างเอามาใช้ได้หมด อย่างเช่นเราเห็นสีดอกไม้ สีม่วงเขียวมันไปด้วยกันได้ เราก็สามารถเอามาแต่งสีสันบนใบหน้าได้ คิตตี้เคยอ่านเจอในหนังสือของเมคอัพอาร์ติสท์ชื่อดังอังกฤษ เขาเขียนว่า “GOOD MAKEUP ARTIST COPY” เมคอัพอาร์ติสท์ที่ดี คือ ก็อปปี้งานชาวบ้าน แต่ถ้าอยากเป็นเดอะเบสท์ เราต้องแปลงงานของคนอื่นให้เป็นของเรา ฉะนั้น เราดูงานของคนอื่นเยอะ แล้วเอาอันโน้นอันนี้มารวมกันให้กลายเป็นของงานได้เหมือนกัน ส่วนถ้าพูดถึงเทรนด์แต่งหน้าวัยรุ่นตอนนี้ จะเป็นสไตล์เกาหลีค่ะ โทนสีแนวเอิร์ธโทน ชมพู ส้ม น้ำตาล จะเหมาะกับสาวไทยมาก”

ฝากข้อคิดถึงน้องๆ

“ถ้าน้องๆ สนใจด้านนี้ อยากให้น้องๆ มีความพยายามตั้งใจให้มากๆ อย่าท้อ คิตตี้ก็เคยท้อ แต่เราก็ต้องข้ามจุดนั้นไปให้ได้ ต้องพยายามฝึกฝนทุกวัน อย่างตอนนี้คิตตี้ก็มีทำวิดิโอไว้ ให้น้องๆ ได้ฝึกฝนตัวเอง โดยที่ไม่ต้องไปเรียนคอร์สแพงๆ เราต้องหมั่นเรียนรู้ หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ตลอด แล้วเราจะพัฒนาขึ้น และทำได้ดีเอง”

Women MThai : http://seeme.mthai.com/ch/kittynoofah

FACEBOOK : Kitty Noofah

IG : Kitty Noofah

 

ติดตามคอลัมน์ worker ได้ในนิตยสาร Campus star no.49

www.facebook.com/campusstars

ข่าวที่เกี่ยวข้อง