อีกหนึ่งผลงานคุณภาพจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนสายเฮลท์ตี้ “นมข้าวข้นหวานเพื่อสุขภาพ” ที่ได้ไปสร้างชื่อบนเวทีโลก คว้ารางวัลเหรียญเงิน จากเวทีประกวดงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก ครั้งที่ 46 (46th International Exhibition of Inventions of Geneva) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ความน่าสนใจคือ นมข้าวข้นหวานตัวนี้ ปราศจากไขมันทรานส์ และทำจากน้ำนมข้าวหอมมะลิ และมีราคาไม่แพงมาก กว่าที่ผลงานจะออกมาได้นั้นมีขั้นตอนการคิดวิเคราะห์อย่างไรกันบ้าง ลองไปอ่านกันค่ะ
กว่าจะออกมาเป็น นมข้าวข้นหวานเพื่อสุขภาพ ที่ได้รางวัลระดับโลก
สถิติการเสียชีวิตด้วย โรคเบาหวาน (กลุ่มNCDs)
จากสถิติของกรมควบคุมโรค ฉบับ 2557 พบว่าคนไทยมีการเสียชีวิตด้วย “โรคเบาหวาน” หนึ่งในโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มทีเรียกว่า NCDs ในปี พ.ศ. 2556 มีผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรคนี้ถึง 349,090 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 75.2 ของการเสียชีวิตของประชากรไทยทั้งหมด สาเหตุจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและพฤติกรรมบริโภคที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การทานอาหารหวาน-มัน-เค็ม เกินพอดี มีอาการเครียดสะสม พักผ่อน และออกกำลังกายไม่เพียงพอ โดยกลุ่มที่อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่สุดก็คือ กลุ่มวัยรุ่น เหล่านี้จึงเป็นที่มาของการทำ นมข้าวข้นหวานเพื่อสุขภาพขึ้น จุดประสงค์ก็เพื่อเป็น ทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ ผู้สูงอายุที่รักสุขภาพ และกลุ่มคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
นมข้าวข้นหวาน จากข้าวหอมมะลิ ปราศจากไขมันทรานส์
ดร.กฤติยา เขื่อนเพชร อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. เผยถึงขั้นตอนการคิดค้นวิจัย นมข้าวข้นหวานเพื่อสุขภาพ ว่า ถูกพัฒนาขึ้นจากผลผลิตภายในประเทศที่มีอัตลักษณ์อย่างข้าวหอมมะลิที่ให้คุณค่าทางโภชนาการและมีกลิ่นหอม ร่วมกับน้ำเชื่อมพรีไบโอติกจากแก่นตะวัน อินูลิน และน้ำมันรำข้าว ที่ให้คุณค่าเชิงฟังก์ชัน ในรูปแบบ 3L คือ “Less Sugar – น้ำตาลน้อย” จากส่วนผสมของน้ำตาลที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์นมข้นหวานทั่วไปถึง 6 เท่า “Less Fat – ไขมันต่ำ” ด้วยส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม 0 เปอร์เซ็นต์ และ “Less Calories – แคลอรีต่ำ” จากส่วนผสมของน้ำเชื่อมพรีไบโอติกจากแก่นตะวันและอินูลินที่มีคุณสมบัติให้พลังงานน้อย โดยนมข้าวข้นหวาน 20 กรัม (1 หน่วยบริโภค) จะให้พลังงานประมาณ 30 กิโลแคลอรี่เท่านั้น
ลักษณะของเนื้อนม รสชาติ และประโยชน์
นมข้นหวานจากธัญพืช สูตรหวานพอดี-ไขมันต่ำ ปราศจากไขมันทรานส์ มีลักษณะคล้ายกับนมข้นหวานทั่วไป คือ มีความข้นหนืด รสชาติหวานมัน แต่มีกลิ่นหอมของข้าวหอมมะลิ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยวิธีการทำให้อาหารปลอดเชื้อโดยการใช้ความร้อน พร้อมบรรจุผลิตภัณฑ์ในถุงรีทอร์ทเพาซ์ (Retort Pouch) เพื่อให้สะดวกต่อการเก็บรักษา รับประทานและพกพา
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมขนมหวานเพื่อสุขภาพได้หลายรูปแบบ ทั้งการเป็นดิปสำหรับจุ่มแครกเกอร์ในมื้อเช้า ราดฉ่ำ ๆ บนเครปเค้กหลากสีสัน หรือเลือกโรยหวาน ๆ กับบิงซู (Bingsu) ก็ได้เช่นกัน คนทานหวานรับรองจะได้ฟินกับรสชาติแล้ว ข้อดีอีกอย่างคือมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจได้ ในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย เหมาะสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนักด้วยค่ะ
พัฒนา 2 ปี จดอนุสิทธิบัตร และได้รับรางวัลระดับโลก
กว่าจะออกมาเป็น นมข้นหวานเพื่อสุขภาพนี้ได้ ทางทีมวิจัยได้มีการพัฒนาโดย ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี นอกจากทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากทีมนักวิจัยร่วมสาขาฯ คือ ดร.สุธีรา วัฒนกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ในการพัฒนาสูตรและทดสอบการยอมรับของผู้บริโภค และทีมนักวิจัยของ รศ.ดร.สาโรจน์ ศิริศันสนียกุล คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการสนับสนุนองค์ความรู้และวัตถุดิบ คือ น้ำเชื่อมพรีไบโอติกจากแก่นตะวัน เพื่อทำการวิจัยและพัฒนา
ทั้งนี้ นมข้าวข้นหวานดังกล่าว ได้รับการจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อย พร้อมถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการที่สนใจต่อยอด เพื่อผลิตและวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ในราคาประมาณ 60 บาทต่อหลอดบรรจุ 180 กรัม และล่าสุด ผลงานชิ้นนี้ยังไปคว้ารางวัลเหรียญเงิน จากเวทีประกวดงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก ครั้งที่ 46 (46th International Exhibition of Inventions of Geneva) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบทานของหวานแต่ก็ไม่อยากทำลายสุขภาพของตนเอง ได้ฟินกับรสชาติหวานๆ แล้ว ยังได้บำรุงสุขภาพไปด้วยในตัว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถโทรขอคำปรึกษา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เลยนะคะ โทรศัพท์ 02-564-4440 ต่อ 2550 หรือทาง www.facebook.com/Foodsciencetu
ที่มา: thaipost, Foodsciencetu