ธรรมศาสตร์ เจ๋ง! โชว์นวัตกรรมสุดล้ำ เพื่อคุณแม่ยุค 4.0 เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผุด 2 นวัตกรรมสุดเก๋ตอบโจทย์คุณแม่ยุค 4.0 รับวันแม่แห่งชาติ 2561 คือ “เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์” นวัตกรรมช่วยวินิจฉัยและติดตามครรภ์คุณแม่มือใหม่ในทุกสภาวะ พร้อมแจ้งเตือนและเรียกคุณแม่เข้ามาพบแพทย์ได้ในทันทีหากเกิดอาการผิดปกติ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายต่อของแม่และทารกในครรภ์ จากการพบแพทย์ช้าเกินไป และ

“อาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วย” นวัตกรรมกระตุ้นน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วยแบบอัดเม็ด สูตรเข้มข้น ที่ช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ได้มากกว่าปกติ มาพร้อมกับคุณค่าทางโภชนาการที่ผสานเส้นใย และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีแคลอรี่ต่ำ เพราะใช้ความหวานจากสารสกัดหญ้าหวาน และอิทผาลัม

โชว์นวัตกรรมสุดล้ำ เพื่อคุณแม่ยุค จาก ม.ธรรมศาสตร์

เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์ กับ อาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่จากปลีกล้วย

ทั้งนี้ “เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์” ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ “อาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วย” อยู่ระหว่างการยื่นจดอนุสิทธิบัตร และเตรียมพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์เป็นลำดับต่อไป

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า

เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่า มธ. เป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของเอเชีย ที่มีความโดดเด่นด้านวิชาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ แต่ในอีกด้านหนึ่ง มธ. ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้นักวิจัยไทยสามารถสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ สามารถยืนยันได้จากการคว้า 28 รางวัลจากเวทีการประกวดนวัตกรรมนานาชาติครั้งที่ 46 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. กล่าวว่า

“เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์” (Smart Real-time Online Sensor for Fetal Monitoring and Uterine Contraction) คือนวัตกรรมที่นำศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมและการแพทย์มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน เพื่อใช้เป็นสื่อกลางการสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็วระหว่างสูตินรีแพทย์กับมารดามีครรภ์ ในการส่งข้อมูลทางกายภาพของมารดาที่จำเป็นต่อการวินิจฉัยและการเฝ้าติดตามสภาวะครรภ์ ได้แก่ การหดตัวของมดลูก ความดันโลหิตของมารดาและอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกและส่งผ่านจากเครื่องมือเข้าสู่แอปพลิเคชั่น และถูกส่งต่อไปยังสูตินรีแพทย์แบบเรียลไทม์ เพื่อประกอบการวินิจฉัยถึงความสมบูรณ์ของครรภ์มารดา หากเกิดความผิดปกติ แพทย์จะสามารถแจ้งเตือนและเรียกมารดาเข้ามาพบแพทย์ได้ในทันที เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายของมารดาและทารกในครรภ์จากการพบแพทย์ช้าเกินไป อีกทั้งข้อมูลดังกล่าว ยังสามารถเก็บเป็นข้อมูลทางสถิติประจำตัวของมารดา เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาในครั้งถัดไปและสามารถใช้เป็นชุดสาธิต รวมถึงสื่อการเรียนการสอนของแพทย์ พยาบาล และนักศึกษาทางการแพทย์

ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ กล่าวเสริมว่า

“เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์” เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาจากการเล็งเห็นถึงปัญหาที่พบมากในคุณแม่มือใหม่คือ การไม่เข้าใจถึงสัญญาณต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิ จังหวะการหดรัดตัวของมดลูก ความดันเลือดของมารดา และอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ ที่อาจเป็นสัญญาณการแจ้งเตือนถึงภาวะต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายและต้องพบแพทย์ในทันที อาทิ ภาวะการคลอดก่อนกำหนด หรือครรภ์เป็นพิษ

ซึ่งในบางกรณี ถ้าหากพบแพทย์ช้าอาจส่งผลให้เป็นอันตรายต่อมารดาและทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งนวัตกรรมดังกล่าวยังสามารถใช้ทดแทนอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศ จึงสามารถลดต้นทุนการนำเข้าได้อีกด้วย

โดยนวัตกรรม “เครื่องตรวจครรภ์เรียลไทม์” เป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ ดร.พัชราภรณ์ วงศ์ชาดากุล คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และนายศุภเกียรติ สุภสินธุ์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มธ. และได้รับรางวัลเหรียญทองแดง จากเวทีการประกวดนวัตกรรมนานาชาติครั้งที่ 46 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ด้าน ผศ.ดร.สุภกร บุญยืน ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. เจ้าของผลงานวิจัย “อาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วย” กล่าวว่า

ทีมวิจัย คิดค้นและพัฒนา “อาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วย” นวัตกรรมกระตุ้นน้ำนมแม่จากสารสกัดปลีกล้วยแบบอัดเม็ด สูตรเข้มข้น ที่ช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ได้มากกว่าปกติ ซึ่งมาพร้อมกับคุณค่าทางโภชนาการของปลีกล้วยที่มีสรรพคุณทางยา อีกทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำ เพราะใช้ความหวานจากสารสกัดหญ้าหวาน และอินทผาลัม ทั้งนี้ “ปลีกล้วย” จัดเป็นพืชที่อุดมไปด้วยแทนนิน สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ส่วน “หัวปลีกล้วย” เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กจากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง อีกทั้งมีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือด

ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าว อยู่ระหว่างการเตรียมออกแบบตัวอาหารเสริมเร่งน้ำนมแม่ฯ เพื่อผลิตจริงและทดสอบประสิทธิภาพในหญิงตั้งครรภ์ (Clinical Test) โดยอยู่ระหว่างการยื่นจดอนุสิทธิบัตร พร้อมพัฒนาต่อในรูปแบบของเพาเวอร์เจล หรือ เจลที่ให้พลังงานชนิดหนึ่ง ที่สะดวกต่อการบริโภคและพกพา รวมถึงดำเนินการเพื่อรับรองมาตรฐานอาหารและยา (อย.) เป็นลำดับต่อไป โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2562

อย่างไรก็ตาม “นมแม่” ถือเป็นแหล่งอาหารเริ่มต้นที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกครบถ้วน

โดยมีส่วนช่วยให้ลูกมีภูมิต้านทานโรค มีสุขภาพแข็งแรง และมีพัฒนาการที่เติบโตสมวัย โดยเด็กควรกินน้ำนมแม่นับตั้งตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ เด็กทารกที่ได้กินนมแม่จะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยน้อย รวมทั้งมีพัฒนาการด้านสติปัญญาและมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ (ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข) ผศ.ดร.สุภกร กล่าว …

ข่าวที่เกี่ยวข้อง