เกรซ-รัชย์ณมนทร์ จากสาวน้อยวิศวะสุดห้าว สู่การเป็นนางเอกหนัง “The Pool นรก 6 เมตร”

จากเด็กวิศวะสุดห้าว มาเป็นสาวน้อยเสียงใสในรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 6 เกรซ-รัชย์ณมนทร์ รัชย์จิราธรรม หรือเกรซ เดอะสตาร์ กับวันนี้ ณ ปัจจุบันที่ได้มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต “The Pool นรก 6 เมตร” ค่าย T Moment มาดูการเติบโตที่ท้าทายในการก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์เต็มตัวของเธอกันดีกว่า

เกรซ-รัชย์ณมนทร์ กับการเป็นนางเอกหนังเรื่องแรก “The Pool นรก 6 เมตร”

แรงบันดาลใจความเป็นเด็กสายช่าง

ตอนเด็ก หนูเป็นเด็กเรียน อยากเรียนให้ได้ 4.0 ช่วงม.ต้นขึ้นม.ปลาย ที่โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย นครปฐม เขาจะมีโควตาให้เด็กต่างจังหวัดเข้าไปเรียนที่เตรียมอุดมได้ เราก็อยากเข้าไปเรียนไง เลยตั้งใจเรียนตั้งแต่ม.1 รักษาเกรดให้ดีที่สุด สุดท้ายได้ 4.00 มา แต่ไม่ได้โควตา เพราะอยู่ดีๆ เขาก็ตัดโควตาออกไป ก็เสียใจมาก แล้วพอไม่ได้ทุน เราก็ลองไปสอบที่เตรียมอุดมเอง แล้วรู้สึกว่าเราไม่ชอบบรรยากาศที่มันอึดอัด แข่งขันกัน เลยคิดว่าโชคดีแล้วที่เราไม่ได้เข้าไปอยู่จุดๆ นั้น เลยเปลี่ยนมาเรียนสายช่างเลยดีกว่า เรียนปวช.ทางวิศวะไฟฟ้า พอมาเรียนจริงๆ แล้วการเรียนสนุกมาก จนเรียนจบ ก็คือต่อมหา’ลัยทางด้านนี้เลย สอบตรงเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต ม.เกษตรศาสตร์

ประสบการณ์เรียนรู้สังคมอินเตอร์ในมหา’ลัย

เลือกเรียนสายอินเตอร์ค่ะ เพราะอยากได้ภาษาอังกฤษด้วย ก็ได้มาเจอเพื่อนๆ ทั้งที่เป็น Exchange ต่างชาติที่เขาจะอายุเยอะแล้ว ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดกัน ทำให้เราเปิดโลกกว้างมากขึ้น แล้วก็สนิทกับเพื่อนอินเตอร์ที่เป็นคนไทยด้วย จริงๆ ที่เราเลือกอินเตอร์เพราะว่าอยากจะสอบชิงทุนไปเมืองนอก แต่เสียดายที่ช่วงนั้นติดงานในวงการพอดี ก็เลยไม่ได้สอบ แต่คือที่นี่ก็ทำให้เราได้ประสบการณ์ทั้งในเรื่องการเรียน การทำโปรเจค การทำงานกับกลุ่มเพื่อนๆ การแบ่งเวลาทำงานไปด้วย

ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเกรซ

ก็มีคนชวนให้ไปแคสหนังเรื่องนี้ พอได้มาเล่นก็ดีใจมาก เป็นประวัติการณ์ในชีวิตเรา เกิดมาได้เล่นภาพยนตร์ของผู้กำกับ พี่พิง ลำพระเพลิง ที่เราก็นับถือพี่พิงที่เขาฝ่าฟันเรื่องต่างๆ ที่ไม่ได้มาง่ายๆ พอได้มาเล่นเรารู้สึกตื่นเต้นไปหมด จำซีนแรกได้เลยว่า ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะยกแขนซ้ายหรือขวาดี เวลาเดินจะก้าวขาไหนก่อน แต่สุดท้ายก็คือตัวทำธรรมชาติ ภาพยนตร์คือการทำตัวปกติ เพราะจอมันใหญ่มาก รายละเอียดมันเยอะ เราไม่ต้องให้รายละเอียดเพิ่ม ก็ทำให้เราสบาย สนุกไปกับมัน ทุกคนในกองก็น่ารัก เราได้เห็นโปรดักชั่นกล้องตัวใหญ่ที่มันส่ายไปมา แล้วก็เทคโนโลยีต่างๆ ของหนัง ได้ถ่ายฉากใต้น้ำ จมอยู่ในโลเคชั่นเดียว ก็ผูกพันเลย ไม่อยากให้การถ่ายทำหยุดลง มันคือความตื่นเต้นในทุกอย่าง ทุกโมเม้นท์ของตัวละครมันมี Meaning หมด แล้วเราจะต้องทำการบ้าน ทำอารมณ์ยังไงให้มันคนดูประทับใจในซีนๆ นั้นในหนังให้ได้

หนังเล่นกับการเอาตัวรอด และความกลัวของมนุษย์ แล้วความกลัวในชีวิตจริงของตัวเองล่ะ

อย่างในหนังจะเป็นเรื่องของการเอาตัวรอด และความสูง ส่วนตัวไม่กลัวความสูง แต่ตอนโดดลงมาก็แอบมีเสียวนิดๆ ถ้าให้โดดจากที่สูงก็ไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าเรื่องที่กลัวที่สุดในชีวิตของตัวเองคืออะไร มันจะเป็นไปตามช่วงเวลามากกว่า เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เคยกลัวว่าจะสอบได้คะแนนน้อย แต่ถ้าตอนนี้เรื่องที่มาแรงแซงทางโค้ง คือ กลัวเล่นหนังแล้วไม่ประสบความสำเร็จ กลัวคนดูไม่ชอบ คือหนูเป็นคนชอบคิดมาก คิดไปเรื่อยๆ ก็ต้องพยายามปล่อยวางตัวเอง โดยการอ่านหนังสือธรรมะที่ให้แง่คิดบวก มันให้กำลังใจเรา ช่วยเราได้จริงๆ

 

อ่านนิตยสาร Campus Star No.65 ได้ที่นี่

www.facebook.com/campusstar

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง