ปัจจุบัน ‘ยานยนต์’ ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการเดินทางเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายคนใช้เวลาอยู่บนรถนานกว่าการทานข้าวสามมื้อ เทคโนโลยียานยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกมีการพัฒนาไอเดีย และสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาเทคโนโลยีที่ดีกว่า ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันสูง มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดย ดร. ณัฐดนย์ พรรณุเจริญวงษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์พัทยา และอาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasart School of Engineering : TSE) เปิดมุมมองการพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมยานยนต์ ที่ยังมีความต้องการจำนวนมหาศาลในอุตสาหกรรมนี้ กับ 6 เทรนด์ยานยนต์ ที่น่าจับตา
6 เทรนด์ วิศวกรรมยานยนต์ ปี 2019
1. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle)
จากแนวโน้มของคนทั่วโลกที่เริ่มให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน (Global Warming) ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทผลิตยานยนต์เกือบทุกค่าย หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทางเลือก พร้อมกับการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยปัจจุบันผู้ผลิตหลายค่ายเริ่มเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค เช่น รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย Tesla, Nissan, Hyundai และอื่นๆ
2. รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle)
ถือเป็นอีกเรื่องที่ทั่วโลกกำลังจับตา ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายเริ่มหันมาพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับของตนเองกันมากขึ้น อาทิ BMW, Audi, Toyota, Mercedes-Benz ฯลฯ รวมถึงบริษัทที่ไม่ได้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับกับรถยนต์อย่าง Apple ก็มุ่งสู่เทคโนโลยีนี้เช่นกัน อีกทั้งบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Google ได้พัฒนาโครงการ Self-Driving Coalition for Safer Streets ร่วมกับ Ford, Uber, Lyft และ Volvo เพื่อผลักดันกฎหมายและเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อเปิดทางให้กับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับในอเมริกา จึงมั่นใจได้เลยว่าในเร็วๆ นี้ เราจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับวิ่งบนถนนจริงๆ อย่างแน่นอน
3. รถยนต์บินได้ (Flying Car)
ปัจจุบันเรามักเห็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่เสมอ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ เพื่อสร้างความน่าสนใจและจุดขายให้กับแบรนด์ของตนเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการคิดนอกกรอบ เปลี่ยนรถยนต์วิ่งบนถนนสู่ “รถยนต์บินได้” ที่กำลังเป็นกระแสอยู่มากในขณะนี้ โดยปัจจุบันเริ่มมีบางบริษัทสามารถคิดค้นและสร้างสรรค์ จนสามารถใช้งานได้จริงออกมาแล้ว เช่น บริษัท AeroMobil, PAL-V Liberty, AirMule และ SkyDrive เป็นต้น ในอนาคตอันใกล้เรา
4. รถยนต์อัจฉริยะ (Smart Vehicle)
เมื่อย้อนกลับไป ตอนที่ยังเป็นเด็ก เรามักเห็นรถยนต์อัจฉริยะตามการ์ตูนหรือเกมต่างๆ ซึ่งปัจจุบันจินตนาการเหล่านั้น นำมาสู่การคิดค้นเรื่อยมาจนกระทั่งเกิดขึ้นจริงแล้ว โดยการนำเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะมาผนวกเข้ากับรถยนต์ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระบบจอดรถอัจฉริยะ (Automated Valet Parking) ระบบกระจกหน้าแบบแอคทีฟ (Active Window Display) ที่แสดงข้อมูลต่างๆ ระหว่างการขับขี่ บนกระจกหน้ารถแทนแผงหน้าปัด ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition) และระบบไบโอเมทริค (Biometric) ซึ่งสามารถสแกนนิ้วมือ ม่านตา หรือใบหน้าแทนการใช้กุญแจรถ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างประสบการณ์และสมรรถนะที่ดีขึ้นให้กับผู้ขับขี่นั่นเอง
5. ระบบความปลอดภัยสำหรับยานยนต์ (Security Systems for Vehicle)
“ระบบความปลอดภัย” มักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นในการพัฒนารถยนต์อยู่เสมอในทุกยุคสมัย อาทิ ถุงลมนิรภัย (Airbag) ระบบแจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัย (Intuitive Safety Features) เช่น การเตือนเวลาไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือตอนจอดรถ ฯลฯ ซึ่งในอนาคตระบบเหล่านี้ก็จะยังคงถูกพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งมีให้เห็นบ้างแล้ว เช่น ระบบสื่อสารระหว่างยานยนต์
(V2V: Vehicle-to-Vehicle Communication) ระบบตรวจวัดสุขภาพของผู้ขับ (Health Monitoring) ระบบแทรกแซงผู้ขับ (Driver Override System) ระบบติดตามรถยนต์ (Vehicle Tracking) ระบบตัดการทำงานจากระยะไกล (Remote Vehicle Shut Down)
6. ระบบอำนวยความสะดวกสำหรับยานยนต์ (Convenience Systems for Vehicle)
เทคโนโลยีในปัจจุบันได้เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตเราในทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องยานยนต์ ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ระบบไวไฟบนรถ (Wi-Fi in Car) ที่เข้ามาช่วยเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตภายในรถ หรือแผงหน้าปัดระบบดิจิทัล (Digital Dashboard) ที่สามารถแสดงผลข้อมูล โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ ตลอดจนแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานบนรถ อาทิ Perfect Match ที่ช่วยเล่นเพลงตามอารมณ์ของผู้ขับ โดยระบบที่ได้รับความสนใจอย่างมากตอนนี้ ต้องยกให้ระบบจีพีเอสทางการเงิน (Financial GPS) กล่าวคือการเชื่อมข้อมูลทางการเงินกับรถยนต์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกรรมการเงินต่างๆ บนรถ เช่น การจ่ายค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ การซื้ออาหารแบบ Drive Thru ฯลฯ สามารถสแกนเพื่อตัดเงินจากตัวรถได้เลย
ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการพัฒนาบุคลากรด้าน “วิศวกรรมยานยนต์” เพื่อที่จะเข้ามาเป็นมันสมองและกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ ยกระดับศักยภาพการผลิตในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ เติบโตตามนโยบายผลักดันระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งน้องๆ ที่สนใจเรียนต่อด้านวิศวกรรมยานยนต์ TSE มีอยู่ด้วยกัน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรเทคโนโลยียานยนต์ (V-TECH) และวิศวกรรมยานยนต์หลักสูตรภาษาอังกฤษ (AUTO-TU) สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ENGR.THAMMASAT
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th/ และ Facebook fanpage ของ TSE ที่ Facebook : ENGR.THAMMASAT