เป็นสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาที่แยกสาขาวิชาช่างอุตสาหกรรมออกมา จาก “วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี” ซึ่งก็ถือได้ว่า “วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร” เป็นสถาบันอาชีวะที่มีประวัติที่เก่าแก่สถาบันหนึ่ง
วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร
ประวัติความเป็นมา
วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เดิมเป็นแผนกๆ หนึ่ง ที่เปิดทำการสอนอาชีพช่างไม้ และช่างจักสานให้กับนักเรียนชั้นประถมต้น ของโรงเรียนประชาบาลประจำตำบลทรายกองดิน แขวงมีนบุรี
พ.ศ. 2480 แยกตัวเองมาจากโรงเรียนประชาบาล ประจำตำบลทรายกองดิน มาใช้อาคารของหอทะเบียนที่ดินจังหวัดมีนบุรี ตั้งเป็นโรงเรียนแห่งใหม่ชื่อ “โรงเรียนประถมอาชีพช่างไม้มีนบุรี”
พ.ศ. 2481 กรมอาชีวศึกษา ได้จัดสรรงบประมาณ สำหรับสร้างอาคารเรียน และอาคารโรงฝึกงานบนเนื้อที่ 4 ไร่ บริเวณตรงข้ามที่ทำการเรือนจำมีนบุรี และได้ย้ายโรงเรียนประถมอาชีพช่างไม้มาอยู่สถานที่แห่งใหม่นี้ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนช่างไม้มีนบุรี”
พ.ศ. 2502 เนื่องจากโรงเรียนช่างไม้มีนบุรี มีสถานที่คับแคบ ไม่สามารถขยายเพิ่มชั้นเรียนและเปิดสอนสาขาวิชาใหม่ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม และความต้องการกำลังคนในงานด้านอุตสาหกรรมได้ กรมอาชีวศึกษาจึงได้จัดหาที่ดินผืนใหม่
จำนวน 20 ไร่ บนถนนสีหบุรานุกิจ แขวงเมืองมีนบุรี (สถานที่ตั้งวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีในปัจจุบัน) พร้อมกับจัดสรรเงินงบประมาณสำหรับสร้างอาคารเรียนและอาคารโรงฝึกงานเพิ่ม ขึ้น และได้ย้ายโรงเรียนช่างไม้มีนบุรี มาอยู่สถานที่แห่งใหม่แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น
” โรงเรียนการช่างมีนบุรี ” ในระยะแรกเปิดทำการสอน แผนกช่างไม้ และแผนกช่างก่อสร้าง ในระดับประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (สายอาชีพ)
พ.ศ. 2515 เปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ จากระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (สายอาชีพ) เป็นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และเปิดทำการสอนเพิ่มขึ้นอีก 2 แผนก คือ “แผนกช่างกลโรงงาน” และ “แผนกช่างไฟฟ้า”
พ.ศ. 2518 เปลี่ยนระบบการวัดผลใหม่จากเดิมที่คิดเป็นร้อยละ มาเป็นระบบหน่วยกิต พร้อมกับเปิดทำการสอน “แผนกช่างยนต์” ขึ้นมาอีกแผนกหนึ่ง
พ.ศ. 2519 ยกฐานะของโรงเรียนการช่างมีนบุรี เป็น “วิทยาลัยอาชีวศึกษากรุงเทพมหานครวิทยาเขต 2 มีนบุรี” และเปิดทำการสอน “แผนกช่างเชื่อมโลหะแผ่น” ขึ้นอีกแผนกหนึ่ง
พ.ศ. 2520 เปิดทำการสอนแผนกช่างวิทยุและโทรคมนาคม (ปัจจุบันใช้ชื่อแผนกวิชาอิเล็คทรอนิกส์) และเปิดทำการสอนภาคนอกเวลาทุกแผนก ทำให้สามารถรับนักเรียนนักศึกษาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และในปีเดียวกันนี้ กรมอาชีวศึกษาได้เปลี่ยนชื่อวิทยาลัยใหม่ เป็น
“วิทยาลัยอุตสาหกรรมกรุงเทพ วิทยาเขตมีนบุรี”
พ.ศ. 2521 เปลี่ยนชื่อจากวิทยาลัยอุตสาหกรรมกรุงเทพ วิทยาเขตมีนบุรี เป็น “วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี”
พ.ศ. 2522 เริ่มขยายการศึกษาให้มีระดับสูงขี้น จากประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในระยะแรกนี้ได้เปิดทำการสอน 2 แผนก คือ แผนกช่างยนต์ และ แผนกช่างกลโลหะ และวิทยาลัยก็ยังดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องจนในปีพ.ศ. 2524 สามารถเปิดทำการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค(ปวท.) สาขาเทคนิคเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกล และในปี พ.ศ. 2527 สามารถทำการเปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ได้ครบทุกแผนก
นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2527 เป็นต้นมา ประชาชนได้ส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เพิ่มมากขึ้น แต่สถานที่ของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี มีพื้นที่เพียง 14 ไร่ จึงไม่สามารถขยายพื้นที่ก่อสร้างอาคารให้รองรับนักเรียน จำนวน 3,000-4,000 คนได้ ด้วยเหตุนี้ ท่านผู้อำนวยการ “เสริญ หรุ่นรักวิทย์” จึงขอรับที่ดินจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดการอาชีวศึกษา จำนวน 2 แปลง คือ…..
แปลงที่ 1 นางนกคล้า รอดอนันต์ ได้บริจาคที่ดินบนถนนรามอินทรา (กม.11) จำนวน 56 ไร่ ติดกับสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์
ปัจจุบันกรมอาชีวศึกษาได้จัดตั้งเป็น “วิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพ”
แปลง ที่ 2 นางสาวโชติมา ปัทมนุช โดยความเห็นชอบจาก ร้อยเอกโชติ-นางบุญมาก ปัทมนุช ผู้เป็นบิดา-มารดา ได้บริจาคที่ดินในซอยวัดทองสัมฤทธิ์ ถนนสุวินทวงศ์ จำนวน 40 ไร่ ซึ่งผู้อำนวยการ เสริญ หรุ่นรักวิทย์ ได้ทำโครงการสร้างอาคารปฏิบัติการสาขาวิชาเทคนิคการผลิตขึ้น จำนวน 3 หลัง ได้รับความเห็นชอบจากกรมอาชีวศึกษา ให้ดำเนินการได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2532 โดยใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แห่งที่ 2”
พ.ศ. 2533 เนื่องจากสถานที่และอาคารเรียนของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี คับแคบ และมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนนักศึกษา
ประกอบ กับอาคารปฏิบัติการที่ก่อสร้างไว้ที่วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรีแห่งที่ 2 ที่ซอยวัดทองสัมฤทธิ์ ได้แล้วเสร็จเป็นบางส่วน วิทยาลัยฯ จึงได้
พิจารณา ย้ายแผนกช่างกลโรงงาน ไปจัดการเรียนการสอนก่อนแผนกวิชาอื่น ๆ และในปี พ.ศ. 2534 ได้ย้ายแผนกวิชาช่างเชื่อมโลหะแผ่น และ แผนกวิชาช่างยนต์ รวมเป็นสามแผนกวิชา โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากครู-อาจารย์ ทุกท่าน และทุกท่านได้ไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพราะสถานที่ห่างไกลจากชุมชน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ต่อมาวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ได้ของบประมาณสร้างอาคารหอประชุม โรงอาหาร และอาคารเรียนเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 หลัง
พ.ศ. 2536 จากการที่วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แยกจากการจัดการเรียนการสอนเป็น 2 แห่ง ทำให้การบริหารสถานศึกษาไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ประกอบกับกรมอาชีวศึกษาได้จัดทำโครงการเทอดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ พรรษา ขึ้น โดยกำหนดให้สถานศึกษาสังกัดกองวิทยาลัยเทคนิคใน 5 ภาค ภาคละ 1 แห่ง คือภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย ภาคตะวันออกที่จังหวัดสมุทรปราการ ภาคใต้ที่จังหวัดปัตตานี สังกัดกองการศึกษาอาชีพ 1 แห่ง ที่เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร และจัดตั้งสถานศึกษาเพื่อสืบทอดงานช่างสิบหมู่และเครื่องทองในพระราชสำนัก อีก 1 แห่ง คือ กาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง รวมเป็น 7 แห่ง วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แห่งที่ 2 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานศึกษาในโครงการประจำภาคกลางและได้รับการประกาศ จัดตั้งเป็น “วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร” เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2536 โดยมี นายประดิษฐ์ ธรรมเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เป็นผู้ประสานงานในการจัดตั้ง…..
พ.ศ. 2537 เพื่อให้การดำเนินงานจัดตั้งวิทยาลัยแห่งใหม่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี จึงได้ทำโครงการโอนอัตรากำลังครู-อาจารย์ ครุภัณฑ์ต่าง ๆ พร้อมปรับอัตราครู-อาจารย์ เป็นตำแหน่งบริหาร จำนวน 5 อัตรา ซึ่งกรมอาชีวศึกษาได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายศักดา จินตะเวช , นายสมพงษ์ พงษ์สวัสดิ์ , นายวรินทร์ รอดโพธิ์ทอง , นายศักดา สนิทศิริวัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 และแต่งตั้งให้ “นายประดิษฐ์ ธรรมเจริญ” ดำรงค์ตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัย เมื่อเดือนสิงหาคม 2537 เป็นการจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร โดยสมบูรณ์ และแยกการบริหารตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา
พ.ศ. 2541 ได้เปิดทำการสอนเพิ่มขึ้นมาอีกแผนกหนึ่งคือ “แผนกช่างไฟฟ้ากำลัง” และต่อมาในปี2546 ได้ทำการเปิดสอนในระดับปวช.ในสาขาช่างเขียนแบบเครื่องกล หลังจากที่รร.ได้เปิดในระดับปวท.ในสาขานี้มาร่วม22ปี
พศ. 2548 ทางวิทยาลัยเล็งเห็นถึงความสำคัญของศาสตร์ทางด้านพณิชยกรรม ที่ควรมีควบคู่ไปกับสาขาทางด้านช่างเทคนิค จึงได้เปิดทำการสอนขึ้นเป็นปีแรกใน “สาขา พณิชยการ”
พ.ศ. 2552 ได้เปิดทำการสอนเพิ่มขึ้นอีกแผนกหนึ่งคือ “แผนกช่างอิเล็คทรอนิกส์”
อัตลักษณ์ : สุภาพชน คนมีน้ำใจ
เอกลักษณ์ : เรียนดี มีคุณธรรม
สถานที่ตั้ง : 73 หมู่ 18 กม.7 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 โทรศัพท์ : 02 175 4046
เว็บไซต์ : http://www.ktcm.ac.th/index.php
Facebook : วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก-มหานคร-
ข้อมูลจาก http://www.ktcm.ac.th