6 สิ่งสำคัญ สำหรับนักศึกษาไทย ที่ตั้งเป้าเรียนแพทยศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ เปิดทำการสอนแก่นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยด้วยหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต 4 ปีสำหรับนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และหลักสูตร 5, 6 และ 7 ปี สำหรับนักเรียนที่เข้าใหม่ และผู้ที่มีความสนใจเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้น ว่าจะพบประสบการณ์อะไรบ้างในระหว่างการศึกษา ทาง SGU ได้รวบรวม ข้อแนะนำและมุมมองจากแพทย์ ผู้สำเร็จการศึกษามาให้ ซึ่งมีประโยชน์และมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาไทย ที่ตั้งเป้าจะเป็นนักศึกษาแพทย์ในปี พ.ศ. 2566 และในอนาคต

6 สิ่งสำคัญ สำหรับนักศึกษาไทย ที่ตั้งเป้าเรียนแพทยศาสตร์

1. เริ่มเตรียมการสำหรับการสอบใบอนุญาตตั้งแต่เริ่มต้น

สำหรับนักศึกษาแพทย์ใหม่ การสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาต United States Medical Licensing Examination (USMLE) ดูเป็นเรื่องที่อยู่ออกไปไกลในอนาคต และไม่มีความจำเป็นจะต้องเริ่มคิดตั้งแต่ปีแรก แต่จากประสบการณ์ของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่จบจากมหาวิทยาลัย SGU นี่เป็นสิ่งที่คุณควรที่จะเริ่มคิดตั้งแต่แรกการเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณสามารถทำสิ่งที่จำเป็นได้ครบก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้นจริง

2. คณะแพทยศาตร์แต่ละแห่งมอบผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป

หลักสูตรแพทยศาสตร์แต่ละแห่ง ไม่ได้มีการสอนและฝึกฝนนักศึกษาแพทย์ในแบบเดียวกัน หลักสูตร ประสบการณ์ชีวิตจากคณะ ความคิดริเริ่มในการวิจัย และวิธีที่ใช้ในการเรียนการสอน ย่อมมีความแตกต่างกัน ทำให้ ความสำเร็จของการเรียนอยู่ในระดับที่แตกต่างกันออกไปด้วย วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจ คือการพูดคุยกับนักศึกษาเก่า เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ที่จะได้รับ การติดต่อพูดคุยกับนักศึกษาเก่าจะช่วยให้คุณได้ตั้งคำถาม เกี่ยวกับประสบการณ์ของการเรียนแพทยศาสตร์ของที่นั้นๆ

3. การจัดตารางเวลาอย่างดีเป็นเรื่องสำคัญ

ในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย นักเรียนหลายคนเอาตัวรอดผ่านการสอบครั้งสำคัญ ด้วยการอ่านหนังสือมากมายในช่วงเวลาสั้นๆ  หรืออ่านเพียงผ่านๆ เพื่อให้สอบได้ การบริหารจัดการเวลาแบบเฉพาะหน้านี้ ใช้ไม่ได้ผลกับวิชาแพทยศาสตร์ ในการเป็นนักศึกษาแพทย์คุณต้องซึมซับตำรามากมายในช่วงระยะเวลาสั้น ดังนั้นการสร้างนิสัยในการเล่าเรียน ด้วยความขยันหมั่นเพียร และการจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างดีจึงมีความสำคัญ

4. อย่าเปรียบเทียบตัวคุณเองกับเพื่อนร่วมคณะ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักศึกษาแพทย์จะรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อเริ่มต้นเรียน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นักเรียนเหล่านั้น จะเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนร่วมคณะ แต่การกระทำนี้อาจไม่เกิดประโยชน์ต่อผลการศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ คุณต้องนึกเสมอว่าเพื่อนร่วมคณะคือเพื่อน ไม่ใช่คู่แข่งขัน และสิ่งที่ดีสำหรับคนอื่นอาจจะไม่ได้ผลสำหรับคุณ เป้าหมายที่สำคัญคือ การหาเทคนิคในการเรียนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณให้พบ

5. ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญให้กับเวลาส่วนตัว

เวลาแต่ละวันในชีวิตของนักศึกษาแพทย์หลีกเลี่ยงที่จะเกี่ยวข้องกับการเรียนอย่างหนักไม่ได้ แต่คุณไม่สามารถและไม่ควรใช้เวลาทุกวินาทีไปกับตำราเรียน การจัดสรรเวลาในการทำสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขหลังการเรียนในแต่ละวันเป็นเรื่องจำเป็นเสมอ การรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตเป็นส่วนสำคัญในการที่จะป้องกันไม่ให้คุณหมดเรี่ยวแรงในระยะยาว และการสร้างนิสัยเหล่านี้ในคณะแพทยศาสตร์จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จตลอดเส้นทางวิชาชีพแพทย์

6. การขอความช่วยเหลือไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอ

คณะแพทยศาสตร์เป็นสาขาการเรียนที่มีความเข้มข้นมากที่สุดสาขาหนึ่ง นักเรียนหลายๆคนต้องต่อสู้อย่างมากในการเรียน และหากนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่คุณดิ้นรนตามลำพัง คณะแพทยศาสตร์ที่ดีมีความเข้าใจสิ่งที่นักเรียนจะต้องพบเจอ และเข้าใจว่านักเรียนต้องการความช่วยเหลืออย่างไร การเรียนรู้ที่จะขอความช่วยเหลือระหว่างการศึกษาจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในฐานะแพทย์ประจำบ้าน

ทั้งนี้ นักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ สามารถเลือกที่จะเริ่มต้นการศึกษาแพทยศาสตร์ ในเกรนาดาหรือสหราชอาณาจักร สำหรับนักศึกษาไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้นที่จะศึกษาในระดับพรีคลีนิก ที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลในประเทศไทย ก่อนที่จะศึกษาต่อหลักสูตรแพทยศาสตร์ 4 ปีที่มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ

สำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลายในประเทศไทย สามารถอ่านได้ที่ www.sgu.edu

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง