สำหรับน้องนักศึกษาจบใหม่ที่มองหางานทำ นี่คือคำแนะนำและเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้เราได้งานทำ จริงอยู่ว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว คนเราเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น เสรีมากขึ้น แต่การทำสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ก็ยังเป็นการปูทางในการเริ่มต้นงาน เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง … การทำงานแบบมืออาชีพ ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน และนี่คือคำบอกเล่าจากแผนกบุคคลที่อยากแบ่งปันให้น้องๆ หายสงสัย ทำไมส่งอีเมลสมัครงานไปแล้วหายต๋อม
อยากได้งานทำ อย่าทำแบบนี้
ชื่ออีเมลที่ใช้สมัครงาน
1. ชื่อ Email : ชื่ออีเมล์แปลกๆ เช่น cartoonZaeiei@… หรือ Boatoki_________@… การใช้อันเดอร์สกอ หลายๆ ตัว
HR: ชื่อเล่น ชื่ออีเมล์แบบขำๆ หรือการใช้อันเดอร์สกอร์ หลายๆ ตัว สัญลักษณ์แปลกๆ บางทีอาจจะทำให้การส่งอีเมลล์ผิดพลาดได้ พยายามหลีกเลี่ยงนะคะ แนะนำว่าควรใช้ชื่ออีเมล์ที่เป็นชื่อจริง นามสกุลจริงของเรา จะดูดีและได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่า
หัวข้ออีเมล
2. Subject : อีเมล์ส่งมาแบบไร้หัวข้อ (subject) หรือบางทีก็บอกแค่สั้นๆ ว่า “สมัครงาน”
HR: จดหมายสมัครงานที่ดีควรมี subject ชื่อเรื่อง ของอีเมลล์ “สมัครงานตำแหน่ง………” คือระบุมาเลยว่าตำแหน่งอะไร ต้องการอะไร และการแนบ resume ควรระบุตำแหน่งที่สนใจ ระบุเบอร์มือถือ และ อีเมลล์ ลงในนั้นด้วย เพื่อสะดวกในการติดต่อกลับนะคะ
ภาษาที่ใช้
3. คำถูกผิด ความสุภาพของภาษา : “หวัดดีคับ อยากสมัครงานตำแหน่ง……..อ่ะ”
HR: การตรวจสอบความถูกต้องของอักษรที่พิมพ์ในจดหมายสมัครงานให้ละเอียด และควรใช้ภาษาที่เป็นทางการ หรือกึ่งทางการ (อันนี้พอรับได้ ) แต่บางครั้งเจอมาเป็นภาษาพูดนี่ก็ไม่ไหวนะคะ , เจอบางที่พูดเลยว่า ถ้าเห็นคนสมัครงาน ใช้ “คะ ค่ะ” ผิด นี่เลื่อนใบสมัครงานไปไว้ด้านหลังเลยนะคะ รอพิจารณาท้ายๆ เลย
การแนบไฟล์
4. การแนบไฟล์ PDF : แนบไฟล์ pdf มาด้วย แต่บางทีไฟล์เปิดไม่ได้ , บางคนแนบไฟล์ผลงานมา 50 กว่าไฟล์ และแยกไฟล์กันมาไม่รวมในก้อนเดียวกัน
HR: รวมไฟล์มาให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพิจารณาผลงาน ถ้าจะทำแบบเวอร์ชั่นสั้นกระทัดรัดไว้ 1 ชุด และอีกหนึ่งเวอร์ชั่นคือจัดต็มก็ยิ่งดีนะคะ เพื่อความชัวร์ ทำเสร็จแล้วจะอัพงานไว้ที่ drive สักที่ เช่น Google drive, dropbox แล้วส่งลิงค์มาให้ แบบนี้ก็ดีค่ะ เผื่อขาดเผื่อเหลือ
ส่ง Email ซ้ำๆ กันพลาด
5. ส่งอีเมล์ 3-4 ฉบับในวันเดียว หัวข้อ-ตำแหน่งเดียวกัน หรือทุกตำแหน่งที่เปิดรับ
HR: บางคนเข้าใจว่าอยากได้งานทำ แต่…ในวันนั้นคุณส่ง resume เข้ามาประมาณ 3-4 ฉบับในวันเดียวกันและในตำแหน่งเดียวกัน เอาฉบับเดียวพอค่ะ บางคนส่งมาทุกตำแหน่งที่เปิดรับ ตั้งแต่แอดมินไปถึงผู้จัดการ ทั้งที่คุณลักษณะคุณบางข้อ ไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้นๆ แบบนี้โอกาสที่ HR จะไม่พิจารณาอีเมล์สมัครงานของคุณอาจจะสูงมาก เพราะคุณไม่มีความชัดเจนใจตัวเอง
นักศึกษา ขอฝึกงาน
6. นักศึกษา ขอฝึกงาน : แต่งชุดไปรเวทเข้ามาสอบถามเรื่องขอฝึกงาน, บางคนโทรมาสอบถาม แต่เสียงทางนั้นเป็นเสียงหยอกกันดัง หยอกกันอยู่ยังไม่พร้อมคุย, ไม่รู้ว่าทางคณะให้ฝึกส่วนไหนได้บ้าง หรือห้ามฝึกในส่วนไหน ไม่รู้แม้กระทั่งระยะเวลาในการฝึกของตัวเอง แต่เห็นเบอร์โทรเลยโทร. มาถามก่อน…
HR: การขอฝึกงานก็เช่นกัน ควรระบุลักษณะงานที่สนใจฝึก และระยะเวลาที่ฝึก
- หากเดินเข้ามาสมัครที่บริษัท (walk-in) ควรแต่งกายชุดนักศึกษามา เพราะเรามาขอฝึกงาน ไม่ใช่มาสมัครงาน จะดูดีกว่า
- บางคนมาขอสมัครฝึกงาน แต่ยังไม่รู้ว่าทางคณะให้ฝึกส่วนไหนได้บ้าง หรือห้ามฝึกในส่วนไหน แม้กระทั่งระยะเวลาในการฝึกของตัวเองน้องยังไม่รู้ แล้วมาเร่งขอคำตอบว่ารับเด็กฝึกงานได้ไหม คือน้องยังไม่รู้อะไรเลยแต่มาเร่งเรา แบบนี้ก็ไม่ใช่นะ
การแต่งกายมาสัมภาษณ์งาน
7. การแต่งกาย : การแต่งตัวไปสัมภาษณ์งาน ต้องบอกว่า ในสมัยนี้ค่อนข้างเปิดกว้างกว่าแต่ก่อนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียบร้อยสุดๆ เราสามารถแต่งตัวในแบบที่เรามั่นใจได้ แต่ทั้งนี้ให้พึงนึกถึงความเหมาะสม มีกรณีการแต่งกายมาสัมภาษณ์งานมาฝาก…
– บางท่านที่มาสัมภาษณ์งานไม่รีดเสื้อแบบเห็นได้ชัดมาก / HR: แม้เสื้อผ้าจะไม่สกปรก แต่การรีดให้เรียบสักหน่อยก็ดีนะคะ
– สาวๆ บางคนใส่เสื้อแหวกลึกกว่า Ocean deep // HR: ก็แอบมองกันเพลิน อุ้ยยยย
– รองเท้า บางเคสเจอแบบใส่แตะมาสมัครและสัมภาษณ์งาน // HR: ขอร้องเลยค่ะ..ไม่เอา-ไม่ทำนะคะ อย่างน้อยก็ควรใส่รองเท้าคัทชู รองเท้าผ้าใบก็ยังดีค่ะ
*หมายเหตุ HR : Resume สามารถส่งได้ทั้งภาษาไทย และ Eng ค่ะ
ภาพจาก www.flaticon.com