แนะอุดมศึกษาเร่งปรับ 4 บทบาท รับแนวโน้มตัวเลขนักศึกษา – วัยแรงงานมีอัตราส่วนลดลง

รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน จำนวนของนักศึกษาและวัยแรงงาน จะลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร แต่หน้าที่ของอุดมศึกษากลับมีมากขึ้น ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อยกระดับความสามารถ ของกำลังคนในประเทศ โดยเฉพาะวัยแรงงานภาคการผลิตและบริการ เพื่อให้สามารถก้าวข้ามกับดักทางรายได้อย่างยั่งยืน

แนะ อุดมศึกษาเร่งปรับ 4 บทบาท

คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา จึงได้เร่งดำเนินการและติดตามผลการดำเนินงาน ตามกรอบนโยบายอย่างใกล้ชิด ผ่าน “การปฏิรูปอุดมศึกษา” ซึ่งถูกบรรจุใน “แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาที่5” (Big Rock 5) ที่เน้นการพัฒนาคนในระดับอุดมศึกษาและวัยแรงงาน ผ่านการสร้างคุณค่าและความหมายต่อสังคม ในมุมที่มากกว่าการผลิตบัณฑิตอย่างในอดีตที่ผ่านมา จึงมีข้อเสนอแนะในการปรับบทบาทหน้าที่ใน 4 ด้านของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อเร่งพัฒนาระบบให้สอดคล้อง กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้

4 บทบาท ที่ อุดมศึกษา ต้องเร่งปรับ

1. สร้างคนให้ตรงโจทย์ สถาบันการศึกษาต้องพัฒนาศักยภาพวัยทำงาน / วัยแรงงาน ให้สอดคล้องกับความต้องการภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญไปไม่น้อยกว่า การพัฒนาบัณฑิตใหม่ ผ่านการยกระดับการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้สำหรับคนวัยทำงาน ในรูปแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต

2. สนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม ผลักดันการคิดต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลงานวิจัยหรือโปรดักส์ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในภาพรวม

3. เพิ่มบริการวิชาการแก่สังคม การทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนโดยรอบ ในลักษะการลงพื้นที่ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้กับชุมชน ซึ่งนอกจากจะเป็น การส่งเสริมทักษะการสื่อสารกับคนต่างวัย การทำงานร่วมกับผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการยกระดับศักยภาพชุมชน / คนในท้องถิ่น ให้ตรงต่อความต้องการของประเทศ

4. เสริมการพัฒนาวัฒนธรรม นอกเหนือจากการบ่มเพาะนักศึกษา ให้พร้อมด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญ ในสาขาเฉพาะทาง มีหลักคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มงานวิจัย ตลอดจนส่งต่อความรู้สู่ชุมชนแล้ว การพัฒนานักศึกษาให้เข้าใจถึงวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่ตั้งสถาบัน จะช่วยส่งเสริมค่านิยมอนุรักษ์ ตลอดจนสืบสานประเพณีท้องถิ่นแก่นักศึกษาในรุ่นต่อไปอีกด้วย

นอกจากนี้ การจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันอุดมศึกษา โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถือมีส่วนสำคัญยิ่ง ในการกระตุ้นให้สถาบันอุดมศึกษา ดำเนินการปรับตัว หรือเร่งเครื่องการปฏิรูปอุดมศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยหลักการจัดสรรงบฯ ดังกล่าว จะอิงข้อมูลตามหลักการ “ความต้องการกำลังคน” (Demand-Side Financing) ที่ระบุไว้ในระบบฐานข้อมูลประเมินความต้องการ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของแต่ละสถาบันอุดมศึกษา เพื่อความสะดวกต่อการจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม หรือที่เรียกว่า “การยึดหลักการตัดสินใจบนหลักฐานเชิงประจักษ์” (Evidence-Based)

ยุค Disruption

ทั้งนี้ ในยุค Disruption ที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อีกทั้งยังถูกกระตุ้นด้วยสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุดมศึกษา ที่ต้องปรับบทบาท และกลไกในการพัฒนากำลังคนให้สอดคล้อง กับความเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบโจทย์สังคมและประเทศ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย ไม่ได้ต้องการคนที่อยู่ในระบบการศึกษา แต่ต้องการคนที่อยู่ในระบบแรงงาน การพัฒนากำลังคนวัยทำงานทั้งในภาคการผลิตและบริการ

การพัฒนาทักษะ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)

จึงเป็นภารกิจสำคัญและเร่งด่วนไม่น้อยไปกว่า การพัฒนาบัณฑิตใหม่ โดยเฉพาะการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานยุคใหม่ อาทิ การสื่อสารระหว่างบุคคล การทำงานร่วมกับผู้อื่น การจัดสรรเวลาให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อนำไปสู่การยกระดับ การพัฒนาทักษะ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) รศ.ดร.ศักรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรม ของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ได้ใน 4 ช่องทาง ดังนี้ เว็บไซต์ www.thaiedreform2022.org เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaiedreform2022 ยูทูบช่อง “thaiedreform2022” และทวิตเตอร์ Thaiedreform22

รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง