ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม นางแบบ นักแสดง พิธีกร ชื่อดัง วัยรุ่นในยุคนี้หลาย ๆ คนส่วนใหญ่อาจจะได้รู้จักผลงานของเธอจากการเป็นเมนเทอร์ในรายการ The Face Thailand สำหรับคนที่ชื่นชอบพี่ลูกเกด ในบทความนี้เรามีประวัติฉบับสรุปมาให้อ่าน เธอเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างดี ๆ ในการเลือกเดินบนเส้นทางที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก และการดูแลครอบครัว
ประวัติ ลูกเกด เมทินี – งานนางแบบ คือสิ่งที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก
ช่วงชีวิตแรกเกิดใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ก
ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม เกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา โดยเธอได้อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์กกับบิดา-มารดา (คุณอักษะ กิ่งโพยม และอาภรณ์ ปัจฉิมพิหงษ์) เธอนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกตามมารดา ในขณะที่บิดานับถือศาสนาพุทธ
ลูกเกดยังมีน้องชายอีก 3 คน ได้แก่ คริส กิ่งโพยม, ไมค์ กิ่งโพยม และ มาร์ค กิ่งโพยม (ไมค์และมาร์คเป็นฝาแฝด) นอกจากนี้ในวัยเด็กลูกเกดยังมีความฝัน อยากทำงานเกี่ยวกับการเดินแบบ ถ่ายแฟชั่น
ประวัติการด้านการศึกษา เรียนจบไฮสคูล-ส่งน้องชาย 3 คนเรียนจบ
ลูกเกดได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สาขาบริหารธุรกิจ 1 เทอม และกลับไปเรียนต่อที่ Fashion Industry High School ที่นิวยอร์ก ถึงแม้เธอจะเรียนจบระดับไฮสคูล แต่ก็รับผิดชอบการดูแลครอบครัว ด้วยการดูแลแม่ และส่งน้อง ๆ จนเรียนจบมหาลัย
โดย คริสเรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรม , มาร์คเรียนจบสาขา Geographic Sattellite จากมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล นิวยอร์ก และไมค์ เรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล และทำงานเดินแบบอยู่ที่เมืองไทย
เส้นทางวงการบันเทิง เริ่มจากมิสไทยแลนด์เวิลด์ 1992
ลูกเกดได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางวงการบันเทิงหลังจากที่ได้ครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 1992 แถมยังพ่วงตำแหน่ง Miss Continental Queens Asia & Oceania (ราชินีแห่งทวีปเอเชียและโอเซเนีย) ถึงแม้ในตอนนั้นจะมีกระแสวิจารณ์ว่า พี่ลูกเกดพูดไทยไม่ชัด และหุ่นก็ดูอวบไป แต่ด้วยความโดดเด่น ความสวย ความสามารถ ผลการตัดสินก็มอบมงให้เธอได้ครองตำแหน่ง จากนั้นเธอก็เริ่มมีงานเข้ามาทั้งถ่ายแบบลงนิตยสาร เดินแบบให้กับแฟชั่นโชว์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกเกดใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กด้วย
จากนางงามสู่เส้นทางการแสดง
ด้านผลงาน หลังจากได้ตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์แล้ว ก็ถือเป็นใบเบิกทางให้พี่ลูกเกดได้มีผลงานในวงการบันเทิง ทั้งงานแสดงละคร ภาพยนตร์ เดินแบบ ถ่ายแบบ วีเจแชนแนลวีไทยแลนด์
งานแสดงนั้นเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างมาก การันตีด้วยรางวัลตุ๊กตาทองดารานำหญิง จากภาพยนตร์เรื่อง “กล่อง” นอกจากนั้นก็มีผลงานละครที่มีชื่อเสียงอีกหลายเรื่อง อาทิ “สามหนุ่มสามมุม”, “แอบเก็บใจไว้ใกล้เธอ”, “สาวใช้หัวใจชิคาโก”, “ชายครับ..ผมเป็นชาย”, “เทวดาเดินดิน” และละครเรื่อง “มารยาริษยา” ที่ลูกเกดได้รับบทแสดงเป็นนางร้าย ทำให้คนดูเกลียดกันทั้งประเทศ ส่วนงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ในวงการใครๆ ก็รู้ว่าพี่ลูกเกดคือตัวแม่ !
ได้รับกระแสโด่งดังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก ในช่วงที่ได้รับหน้าที่เป็นเมนเทอร์ในการ The Face Thailand ด้วย นอกจากนี้ยังมีผลงานอีกหลายอย่าง เช่น …
– ด้านพิธีกร เป็นวีเจของ แชนแนลวีไทยแลนด์ รวมถึงเป็นพิธีกรในรายการโทรทัศน์หลายรายการ นอกจากนี้ในปี 2545 ได้พากย์มวยไทยในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ในรายการ “ศึกจ้าวมวยไทย” ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อย ร่วมกับ ซอนย่า คูลลิ่ง
– ปี 2543 เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก กับการถ่ายแบบลงนิตยสารรับปีมิลเลนเนียม 2000 ได้ทำปฏิทินคู่กับปทุมรัตน์ วรมาลี (เฮเลน) ออกขายรับปี 2000 รวมถึงร่วมหุ้นกับเฮเลนและบริษัทสามารถ เทเลคอม เปิดธุรกิจเว็บไซต์ www.thaisupermodels.com
– ปี 2543-2545 ได้ตำแหน่งสาวเซ็กซี่ 3 ปีซ้อน จากผลสำรวจของธุรกิจถุงยางอนามัยดูเร็กซ์
– เป็นนางแบบให้กับโฆษณาหลายชิ้น เช่น สบู่ลักซ์ เบียร์ลีโอ และนีเวีย
– ได้เป็นนางแบบคนแรกของเอเชีย ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางเมย์เบลลีน ออนแอร์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– เป็นตัวแทนนางแบบไทยเพียงคนเดียว ที่ร่วมเดินแบบกับ นาการ่า ฟอร์ จิม ทอมป์สัน และนางแบบนานาชาติในงานเลี้ยงต้อนรับภริยาผู้นำประเทศ ในการเข้าร่วมประชุม APEC ณ บ้านพิษณุโลก
– นอกจากนี้ยังเคยมีงานด้านการเขียนหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คชื่อ “Metinee’s Secret” เคล็ดลับดูแลสุขภาพ และรักษารูปร่างให้สวยอย่างถูกวิธี ซึ่งพิมพ์เป็นครั้งที่ 14 นับจาก มีนาคม 2546
– เป็น Executive Consultant ที่ปรึกษาโครงการ วีซีดี ซูเปอร์โมเดล ภายใต้ บริษัทค่ายนางแบบ Club F ในเครือแกรมมี่ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้น
ด้านความรัก แต่งงานกับนักธุรกิจชาวอังกฤษ
ช่วงปี พ.ศ. 2548-2549 ลูกเกด ได้คบหาดูใจกับนักธุรกิจชาวอังกฤษ ‘เอ็ดเวิร์ด ชาร์พเพิร์ล’ โดยต่อมาในปี 2550 ทั้งคู่ได้แต่งงาน หลังจากนั้นสองปี ก็มีทายาทด้วยกันคือ ด.ช.สกาย กิ่งโพยม ชาร์พเพิร์ล เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ที่มาจาก: gossipstar, th.wikipedia
ภาพจาก: metinee