5 สาเหตุ ที่ทำให้เราไม่อยากเรียน และไม่ตั้งใจอ่านหนังสือ

นอกจาก สภาพแวดล้อมหรือปัจจัยภายนอก ที่จะทำให้เราไม่ตั้งใจเรียนหรือไม่ตั้งใจอ่านหนังสือแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย ก็คือ “ตัวเอง” เพราะถ้าหากตัวเราเองไม่มีความขยัน ตั้งใจ หรือความพยายามแล้ว ก็ไม่สามารถทำให้เราเก่งหรือเรียนได้ดีหรอก ดังนั้น เราควรที่จะค้นหาสิ่งที่ทำให้เราไม่ตั้งอ่านหนังสือให้ว่า เกิดมาจากสาเหตุอะไร? แล้วเราจะต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านั้น เพื่อเป็นผลดีต่อตัวเอง…

5 สาเหตุ ที่ทำให้เราไม่อยากเรียน และไม่ตั้งใจอ่านหนังสือ

สาเหตุ ที่ทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่องสักที!!

1. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

เราทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า การนอนหลับพักผ่อนน้อยย่อมมีผลต่อการเรียนรู้ เพราะเมื่อเรานอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ในเวลากลางวันหลังกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเริ่มเรียนในช่วงบ่ายเราก็มักที่จะมีอาการง่วงนอนหรืออ่อนเพลีย (เรียกง่ายๆ ว่าอิ่มท้องหนังตาก็หย่อน ทำให้เราเกิดอาการง่วงนอนนั่นเอง) จนทำให้เราเกิดอาการขี้เกียจไม่อยากเรียนหรือเรียนไม่รู้เรื่องเลย ดังนั้น วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้เราเข้านอนได้เร็วยิ่งขึ้นและเป็นเวลามากยิ่งขึ้น ก็คือการตั้งฬิกาเอาไว้นั่นเอง โดยที่เราอาจจะตั้งนาฬิกาเอาไว้ 30-45 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้านอน เช่น เข้าห้องน้ำก่อน แปรงฟัน เป็นต้น และก็ห้ามลืม!! ที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนเช้าด้วย ไม่งั้นได้ตื่นสายแน่นอน ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการนอนให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็อยู่ที่ 7-8 ชั่วโมง

2. วางแผนในการเรียนผิด!!

เรามักที่จะชอบวางแผนหรือตั้งเป้าหมายในชีวิตมากจนเกินไป จนทำให้เราเครียดและโกรธตัวเองเวลาที่ทำตามแผนที่วางไว้ไม่ได้ ซึ่งเราต้องรู้ก่อนว่าการที่เราวางแผนการเรียนเอาไว้เป็นสิ่งที่ดี แต่เราก็ควรที่จะมองการณ์ไกลเอาไว้ด้วย ไม่ใช่ดูที่ผลระยะสั้นเท่านั้น และอีกหนึ่งเรื่องที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือ เรื่องของเวลา เช่น บางคนอาจจะวางแผนเอาไว้ว่า จะให้เวลาในการอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนวันละ 8 ชั่วโมง แต่เรากลับไม่คิดว่าจริงๆ แล้วเราอ่านได้เพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เพราะนอกจากที่เราจะต้องอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเวลาของการกินข้าว ออกไปซื้อของ ออกกำลังกาย คุยกับเพื่อนๆ เป็นต้น ดังนั้น เราควรที่จะตัดเวลาออกไปหรือแบ่งเวลาใหม่ เช่น เราอาจจะลดการอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน เหลือเพียง 4 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือก็ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น เป็นต้น ซึ่งการที่ทำแบบนี้จะยิ่งช่วยทำให้เราไม่เครียดจนเกินไป แถมยังทำให้เราได้พักผ่อนสมอง เตรียมการเรียนรู้ในวันถัดไปได้ดีอีกด้วย

3. คนเราเรียนรู้ได้เหมือนกัน แต่รับได้ไม่เท่ากัน

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า คนเราสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกัน พร้อมกัน แต่การรับรู้หรือความเข้าใจในสิ่งที่เรียน มีไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเรียนภายในครั้งเดียวก็เข้าใจเลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการอ่านทบทวนอีกรอบหรือเรียนรู้อีกหลังครั้งจึงจะเข้าใจในบทเรียน สมมติว่า เราจะต้องเรียนวันละ 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยที่อาจจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 2 ชั่วโมง ต่อจากนั้นก็เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา คอมพิวเตอร์ ตามลำดับ เราจะสังเกตได้เลยว่า จะเห็นเพื่อนๆ บางคนที่เรียนแบบนี้ทั้งวันไม่มีอาการเครียด เบื่อ หรือเรียนไม่รู้เรื่องเลย แต่สำหรับเพื่อนๆ บางคนกลับมีอาการเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ตั้งแต่วิชาที่ 3 เป็นต้นไป จนทำให้เกิดอาการขี้เกียจไม่อยากเรียนต่อ เพราะเรียนไปยังไรก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี ดังนั้น สำหรับคนที่อาการเป็นแบบนี้ ควรหาตัวช่วยในการเรียนอย่างเร่งด่วนเลย โดยการที่หลังจากที่เรียนเสร็จในแต่ละคาบเรียน ควรที่จะลุกเดินออกมาลองมองสิ่งอื่นบ้างหรืออาจจะเดินล้างหน้าที่ห้องน้ำก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนี้แล้วยังช่วยไม่ได้ เราก็ควรที่จะต้องกลับมาสาเหตุอีกครั้งว่า เพราะอะไรถึงทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่อง เช่น อาจจะเกิดการนอนไม่พอ หรือวิชาที่เรียนเราไม่ชอบจึงทำให้เราไม่สนใจที่เรียนต่อ ฯลฯ

4. เรามีวิธีการเรียนที่ผิด

เราหลายๆ คน อาจจะเข้าใจผิดว่า การจดโน๊ตตามที่อาจารย์สอน จะช่วยทำให้เราเข้าใจบทเรียนได้มากยิ่งขึ้น และจดไว้เผื่อกลับมาทบทวนอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในระหว่างที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นั้น ก็คือ การฟังและทำความเข้าใจไปในตัวต่างหากที่มีความสำคัญกว่าการจดโน๊ตตามอาจารย์ ดังนั้น เวลาเรียนเราควรที่จะต้องทำความเข้าใจไปด้วยพร้อมๆ กับฟังที่อาจารย์สอน ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามอาจารย์ให้เข้าใจไปเลยในห้องเรียน หลังจากนั้น เราค่อยกลับมาทำสรุปเรื่องที่เรียนไปอีกครั้ง พร้อมทั้งฝึกทำโจทย์ไปด้วยในบางวิชาที่เป็นคำนวณ แค่นี้ก็ช่วยทำให้เราเข้าใจบทเรียนและไม่ต้องมาลำบากช่วงเวลาใกล้สอบได้แล้ว

5. เรามักจะรอเวลา ทำอะไรช่วงใกล้ๆ สอบ

บางคนอาจจะคิดว่า อ่านหรือทบทวนช่วงนี้ไป เดี๋ยวช่วงเวลาใกล้สอบก็ต้องลืม ต้องกลับมาอ่านใหม่อีกครั้งอยู่ดี ดังนั้น จึงค่อยมานั่งทบทวนบทเรียน หรืออ่านหนังสือใกล้ช่วงสอบกัน ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเลย เพราะอาจจะทำให้เราอ่านไม่ทันแล้ว ยังทำให้สิ่งที่อ่านเข้าไปไม่เข้าสมองอีกด้วย จำอะไรไม่ได้เลย สืบเนื่องมาจากที่เราอ่านหลายๆ วิชาในเพียงไม่กี่วันและรีบอ่านจนเกินไป วิธีการแก้ไขง่ายๆ เลยก็คือ ให้เราสร้างแรงผลักดันให้กับตัวเอง โดยที่ให้คิดอยู่เสมอว่า เราเรียนไปเพื่ออะไร? ต้องการเกรดเท่าไหร่? แล้วต้องการสอบเข้าเรียนต่อในคณะ/สาขาวิขชาไหน? เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีความอยากอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนแล้ว เพื่อทำตามในสิ่งที่หวังเอาไว้

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง