2 นักศึกษา สาขาวิชาเกมและสื่อเชิงโต้ตอบ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ม.กรุงเทพ นายธนเดช พันธุ์วิมลชัย (เต้) และนายนรภัทร ลาภชูรัต (อาม) ทีม SANSER ALIVE สุดเจ๋ง คว้ารางวัลชนะเลิศ 4 ปีซ้อน จากการแข่งขันกีฬา Esport ในรายการ SkyfrontVR Esport Sponsored by Omen by HP
THE WIN 4 TIMES ”VR CHAMPION”
เริ่มสนใจเกมแนว VR ตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนแรกก็ตามข่าวด้านเทคโนโลยีเกมต่างๆ อยู่แล้ว แล้ว VR ก็เริ่มเข้ามา ซึ่งเรารู้สึกว่าเกมแนวนี้มันมีมูลค่า มีความน่าสนใจ ตอนนั้นที่ VR เข้ามาใหม่ๆ ก็ได้มีโอกาสเข้าไป Lab ของมหาลัย ไปช่วยอาจารย์แล้วก็ได้ลองเล่นเกมแนว VR ดูจริงๆ พอเล่นแล้วเราก็รู้สึกติดใจ เลยลองเล่นไปเรื่อยๆ หลายๆ เกม
ประเภทแนวเกมที่ทำให้สนใจ
มันมีหลากหลายแนวให้เราเลือกเล่นเลย แต่แนวเกมที่ผมสนใจก็คือเป็น First-person shooter เป็นเกมแนวยิงบุคคลที่ 1 พอเรามาเล่นกับเกม VR ก็เหมือนเรามองด้วยตาของเราเอง แล้วเราก็ได้ยิงปืน ได้สู้กับเพลเยอร์ (Player) คนอื่นๆ
จากแรกเริ่มแข่งขัน สู่การเป็นแชมป์
เราก็เริ่มจากที่ได้ลองเล่นมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งทราบว่ามีการจัดการแข่งขันเกี่ยวกับเกมแนวนี้ขึ้น เลยไปรวมทีมกับเพื่อนเป็นทีม 4 คน เป็นกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบเกมแนว VR เหมือนกัน เราก็จับกลุ่มแข่งไปเรื่อยๆ จนการแข่งครั้งล่าสุด เป็นงานที่ใช้ผู้เล่น 2 คน เราเล่นในเกมที่ชื่อว่า SkyfrontVR เป็นเกมแนวยิงบุคคลที่ 1 โดยการเก็บแต้มคิวแข่งกัน รูปแบบของเกม คือ ตัวละครเราจะบินอยู่บนท้องฟ้า ไม่มีแรงโน้มถ่วงอะไรเลย บินอยู่บนอากาศ แล้วก็ยิงศัตรู ใครมีแต้มที่เยอะกว่า คนนั้นจะชนะ คล้ายๆ ว่าเราเป็น Iron Man บินไปบินมา ยิงศัตรู รูปแบบการแข่งจะเป็นใครได้แต้มที่ดีที่สุดใน 3 แต้มจะชนะ สมมติว่าแข่ง 3 เกม ใครได้คะแนน 2 เกมก่อน คนนั้นเป็นฝ่ายชนะ
ก่อนแข่ง มีการซ้อมยังไงบ้าง
ซ้อมเยอะเลยครับ ด้วยความที่เราเป็นเด็กของ Lab มหาลัยอยู่แล้ว เราก็จะขออาจารย์เข้าไปซ้อมกัน ก็ซ้อมเยอะในระดับหนึ่งเลย เพราะการที่เราจะเล่นเกมเกมหนึ่งให้คล่องได้ ก็ต้องฝึกซ้อมกันจนจับจุดเกมนั้นได้ว่า ตรงนี้ทำอย่างนี้ได้ ใช้ทริคอะไรในการเอาชนะผู้ต่อสู้ได้ หรือมันสามารถใช้มุมนี้หลอกได้ เมื่อเกมนี้มาในแผนนี้ สามารถแก้เกมนี้ด้วยแผนนี้ได้อะไรประมาณนี้ครับ ผมคิดว่าจุดแข็งของทีมเราคงเป็นเรื่อง การไว้ใจกันครับ จะเป็นแนวที่ว่า เมื่อเพื่อนคนหนึ่งโดนรุม เพื่อนจะรู้ว่าเค้าสามารถปล่อยให้ตัวเองตายได้ เพื่อที่จะเสียแค่แต้มเดียว มันเหมือนเป็นการล่อคู่ต่อสู้ 2 คน เข้ามาอยู่ในจุดเดียว แล้วทำให้ผมหรือเพื่อนสามารถยิงคู่ต่อสู้ตาย 2 ตัวพร้อมกันได้ แล้วทำให้เราได้เปรียบกว่า ซึ่งมันก็จะเปลี่ยนเกมพลิกแพลงไปเรื่อยๆ พวกเราค่อนข้างที่จะเชื่อใจกัน รู้ว่าจังหวะกันและกัน
จุดที่ยาก อุปสรรคของเกม
มันจะมีความยากในหลายๆ ด้าน อย่างแรก คือ คู่ต่อสู้ในเกม ด้วยความที่บางทีเราก็ไม่เคยเล่น ไม่เคยแข่งกับเขามาก่อน ทำให้เราไม่เห็นการเล่นของเขา ก็จะทำให้จับจุดสู้กับเขายาก ซึ่งกว่าเราจะสามารถจับจุดนั้นได้ คือเราต้องเล่นกับเค้าไปสักประมาณแมทซ์หนึ่ง หรือสองแมทซ์ก่อน พอจับจุดได้แล้วเราจะมาแก้เกมเค้ายังไง มันก็ยาก เป็นเรื่องที่เราต้องคอยสังเกต เป็นอะไรที่ยากและตรึงเครียดมาก
อย่างที่สองเป็นเรื่องเทคโนโลยี VR ด้วยความที่มันยังเป็นของใหม่ การจะใช้อุปกรณ์ที่ดีๆ สำหรับการแข่งจริงๆ จังๆ ก็ต้องพึ่ง Lab เป็นส่วนใหญ่ตอนฝึกซ้อม อย่างสุดท้าย คือ เรื่องการ Setting อุปกรณ์ เรื่องนี้ก็สำคัญ VR ถ้าเราเล่นคนเดียวมันอาจจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่การที่เราเล่นพร้อมกันเป็นทีม ไม่ว่าจะ 4 คน หรือ 2 คน บางทีอาจเกิดปัญหาที่ว่าคอนโทรลเบี้ยวบ้าง ไม่ตรงบ้าง ซึ่งมีผลต่อการเล่นมากๆ บางทีเราไปเล่นหน้างานอาจจะเจอคอนโทรลเลอร์ไม่ตรง หรือคอนโทรลเลอร์หายไป ทำให้ไม่สามารถยิงคู่ต่อสู้ได้ จุดนี้ก็เป็นปัญหาที่ทำให้เราแก้เกมยาก โดยส่วนใหญ่ผู้จัดงานก็จะให้อิสระเราในการตั้งค่า Setting อุปกรณ์กันเองได้ตามที่เราถนัดใช้งาน
เคยเจอคู่แข่งโหดๆ ในทีมไหนบ้างมั้ย
เราเคยแพ้มั้ย? เคยแพ้ครับ คือ Event แรกที่เป็น 4 คนเนี่ย ผมเคยแพ้ทีมทีมหนึ่ง คือเขาไม่มีชื่อทีมเป็นหลัก แต่มีที่มา มาจากร้าน VRX ซึ่งเหมือนเขาเป็นโปรเฟสชั่นนอลด้าน VR อยู่แล้ว ได้สัมผัส VR ทุกวัน ทำให้เค้าสามารถจับจุดเกมได้ดีกว่า ซึ่ง Event ที่ผมแข่ง 4 คนรายการแรกเลยพวกผมก็แพ้ให้เขา
พอเราแพ้มาแล้ว ได้เห็นการเล่นของเขาแล้วครั้งต่อไปเราก็เหมือนว่าเริ่มจับจุดได้ ทำให้เรารู้ว่า เราแพ้เขาที่ตรงไหน พลาดที่ตรงไหน แล้วทำให้เราได้กลับมาแก้ไขด้านต่างๆ ที่เรายังบกพร่องอยู่ ทำให้ผลการแข่งครั้งล่าสุดเราก็แก้เกมจนชนะได้ จริงๆ อีกหนึ่งสาเหตุที่ยิ่งซ้อม ยิ่งปรับแก้แล้วทำให้จับจุดได้คงเป็นเรื่องการที่ทุกทีมเวลาใกล้แข่งแล้ว ต่างคนก็ต่างมาซ้อมหนักกันมากขึ้น แล้วเกมเราก็เล่นด้วยกัน มีโอกาสเจอกันในเกมเยอะมาก ซึ่งผมก็ยอมรับเลยว่าทีมคู่แข่ง หรือทีมอื่นๆ เป็นทีมที่เก่งมาก แต่ว่าเราเองก็ต้องพัฒนาเหมือนกัน เล่นไปแล้วก็ต้องมีการไปคิดแผนศึกษาการเล่นต่างๆ กับเพื่อนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสามารถแก้เกมของคู่แข่งได้
สิ่งที่ได้รับจากการแข่งขัน
หลักๆ เลยคือ “เพื่อน” เพื่อนทำให้เรารู้ว่า ในวงการเกมที่เราเล่นอยู่เนี่ย มันมีคนหลากหลายประเภท แล้วเราสามารถรู้ได้ว่าคนที่เราเห็นอยู่ เขามีนิสัยเป็นยังไง เฟรนลี่เป็นกันเอง หรือยิ่งเล่นเกมแล้วดูหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสีย ชอบด่าคนอื่นแต่ในชีวิตจริงเวลาเราได้คุยกับเขา หรือได้ร่วม Event กับเขามันจะทำให้เราได้เจอตัวตนที่แท้จริงของเขา ทำให้เรารู้ว่าคนๆ นี้เราสามารถที่จะเป็นเพื่อนกับเขาได้ หรือว่าไม่ควรคบ การเล่นเกมก็ทำให้เราได้เพื่อนมากขึ้นด้วย
ความแตกต่างของ VR ที่พิเศษกว่าเกมแนวอื่น
มันทำให้รู้สึกว่าเราได้ใช้ไหวพริบร่างกาย เหมือนเราเข้าไปอยู่ในเกมนั้นจริงๆ ทำให้เรามีส่วนร่วมในเกมมากกว่าที่เราจะนั่งกดอยู่หน้าคีย์บอร์ด เพราะเราได้ขยับร่างกายจริง เหมือนเราได้เห็นภาพทุกอย่างด้วยตาของเราเอง ตัวละครต่างๆ มันพุ่งเข้ามาหาตัวเราในเกมได้ดูสมจริงมากๆ
ในอนาคตอยากให้ VR พัฒนาไปในด้านไหน
ถ้าเรื่องพัฒนา ผมก็ไม่ได้อยากให้มันพัฒนาไปทางด้านเกมแล้วครับ ผมอยากให้มันพัฒนาไปได้ทุกรอบด้าน เพราะ เกม VR มันก็เป็นเกมที่เสมือนจริง ถ้าเราเอาไปต่อยอดพัฒนาทางด้านอื่นๆ เช่น ด้านการแพทย์หรือด้านไหนก็ตามที่ช่วยเอื้อประโยชน์ ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยให้เราไม่ต้องศูนยเสียอะไรไป นำเอา VR มาทำเป็นวิธีศึกษาทดแทนได้ก็จะดีมาก ไม่อยากให้มันเป็นแค่การเล่นเกม หรือเพื่อการแข่งขันเพียงอย่างเดียว
แนะนำน้องๆ ที่ชอบเล่น หรือสนใจเกมแนว VR
อยากให้น้องๆ คอยติดตามข่าวการแข่งขันต่างๆ ที่เขามีการจัด Event แข่ง ซึ่งในงานเขาจะมีการจัดเตรียมสถานที่ให้ซ้อมแข่ง และเล่นเกมแนว VR ได้ ก็จะทำให้น้องๆ ได้ไปสัมผัสเครื่องเล่น VR กันจริงๆ หรือถ้าอยากลองไปเล่นเองก็มีร้าน VA Café ให้เราไปเล่นกัน ถ้าใครเป็นนักศึกษา ถ้าที่มหาลัยมีเครื่องมือสนับสนุนเราด้านนี้ก็ไปลองดูได้เช่นกัน จริงๆ มันก็ซื้อเองได้เหมือนกัน แต่ราคามันค่อนข้างสูง สำหรับใครที่คิดว่ามันสามารถไปต่อยอดอื่นๆ ได้ มันก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ขอแนะนำว่าไปพวก Event ต่างๆ จะดีกว่า เพราะจะได้ทั้งไปทดลองเล่น และได้ไปดูเกมการแข่งจริงๆ เราจะได้ประสบการณ์ที่มากกว่า
.
ติดตามคอลัมน์อื่นๆ ได้ที่นิตยสาร Campus Star No.72
Facebook : www.facebook.com/CAMPUSSTAR