7 ตำนาน เรื่องเล่าผี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ภาค1) มช.

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ เรียกกันสั้นๆ ว่า มช. เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือที่มีอายุเก่าแก่กว่าครึ่งศตวรรษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2507 อีกทั้งยังตั้งอยู่ ณ ดินแดนล้านนา อันเป็นแหล่งสะสมวัฒนธรรมอันล้ำค่ามานานนับ 700 ปี และที่นี้ยังเคยเป็นสนามรบอีกด้วย ดังนั้นจึงมีตำนานเก่าแก่ที่รุ่นพี่เก่าๆ เล่าต่อๆ กันมา บวกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งบางเรื่องน่ากลัวจนเป็นที่รู้จักเกือบทุกมหาวิทยาลัย หรือบางเรื่องก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ได้ยินมาขนาดนี้แล้ว ต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า มันจะชวนสยองขวัญ น่าขนลุกขนาดไหน….

7 ตำนาน เรื่องเล่าผี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

1. มิตรภาพอยุ่เหนือความตาย …  ป๊อก… ป๊อก… ครืด

เรื่องผีสุดสยองอันดับหนึ่งของมหาลัยเชียงใหม่ที่ใครๆ ต้องเคยได้ยิน เพราะความน่ากลัวถึงขั้นนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว เรื่องราวที่เล่าต่อๆ กันมาโดยไม่ทราบระยะเวลาเกิดเหตุที่แน่นอน แต่เรื่องราวสุดสยองเรื่องนี้ได้เริ่มต้นขึ้นที่หอหญิงในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่รู้จักกันดีคือ หอ 7 ซึ่งในสมัยนั้นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนหนทางยังไม่ค่อยดีนัก การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะเป็นถนนลูกรัง เวลาฝนตกก็เต็มไปด้วยโคลน รถไปมาลำบาก ตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยมีแสงไฟ…

เรื่องเกิดขึ้นกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอ 7 ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบพอดีนักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้อง ตอนหัวค่ำแล้วรูมเมทชวนไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่จึงไปไม่ไหวอยากพักผ่อน รูมเมทอีกคนเห็นเพื่อนสาวไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่า “เดี๋ยวจะไปทานข้าวเอง แล้วจะซื้อข้าวมาฝาก”

หลังจากนั้นนักศึกษาสาวที่ป่วยก็เผลอหลับไป และสะดุ้งตื่นมาอีกทีกลางดึก ก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องยังไม่กลับมา สักพักก็ได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่างทางบันได “ป๊อก…ป๊อก…ป๊อก…ครืด…ครืด…ค..รื…ด” เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง สักพักหนึ่งก็มีเสียงเคาะห้อง “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” แล้วเงียบไป

นักศึกษาหญิงตกใจคิดว่าไม่ใช่เพื่อนอย่างแน่นอน ถ้าใช่เพื่อนต้องเปิดประตู้เข้ามาแล้ว จึงได้เดินออกไปเพื่อเปิดประตูดูว่าเป็นใคร ก็พบว่าตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ข้าวแขวนอยู่ ก็แปลกใจว่า “แล้วเพื่อนอยู่ไหน? ทำไมไม่กลับมา?” มีแต่รอยเปียกน้ำ เป็นทางจากบันได คิดต่างๆ นานา แต่แล้วก็แกะข้าวออกมาทานเสร็จก็ทานยาตาม ได้ซักพักก็หลับไป

พอรุ่งเช้า… มีคนมาเคาะประตูห้องแล้วบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทางคาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ สภาพศพแขน และขาทั้งสองข้างหัก อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาด ไม่แน่ใจว่าเป็นฝายหิน หรือตลาดต้นพยอม หลังจากทานข้าวเสร็จทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดยเพื่อนฝากซื้อข้าว คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ “แล้วอาหารที่มาแขวนหน้าห้องเมื่อคืนล่ะ?”

ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด แต่จากที่ฟังกันมา คือหลังจากที่ตายไปแล้วด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ที่ไม่สบาย และยังไม่ได้รับประทานอาหาร จึงนำข้าวที่เพื่อนฝากซื้อไปส่งให้ แต่แขนหักขาหักหมดแล้ว จึงใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยถนนพาตัวเองมาจนถึงหอพัก และลากตัวเองขึ้นบันไดมา เป็นเสียง ป๊อก…ป๊อก และเสียง…ครืด ที่ได้ยินคือ เสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน หลังจากส่งข้าวให้ได้แล้วก็หมดห่วง ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาหญิงคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนัก และลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา ทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ และทำให้เรารู้ว่า “มิตรภาพอยู่เหนือความตาย” อ่านแล้วขนลุกมากๆ ซึ้งด้วย

2. หอนาฬิกา วนครบ 3 รอบเจอดีแน่

อันเนื่องจากตรงที่ตรงนี้เคยเป็นป่าช้า และลานประหารเก่ามาก่อน ทำให้เรื่องเล่าเรื่องผีทั้งเก่า และใหม่มีมากมาย เรื่องนี้อยู่ที่หอนาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังม.เชียงใหม่ ตรงนั้นจะเป็นวงเวียนสี่แยก ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นคณะศึกษาศาสตร์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือเป็นหอ 4 (ชาย) และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหอ 6 (หญิง) เรื่องนี้เล่ากันว่า ตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของ อาจโดนดีได้

วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืนให้ไปขับรถวนทวนเข็มที่หอนาฬิกา 3 รอบ (ปกติวงเวียนจะให้รถขับวนตามเข็มนาฬิกา) เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้นไม่เคยมีใครขับรถทวนเข็มนาฬิกาได้ครบสามรอบซักคน ผู้มีประสบการณ์เล่าว่าในขณะที่วนรถอยู่นั้น จะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ วนไปรอบสองก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอมาถึงตอนจะวนครบสามรอบเท่านั้นแหละ จู่ๆ ก็มีเสาสองต้นมาตั้งขวางถนน ทำให้ต้องหักรถหลบ รถล้มบ้างแฉลบบ้างไปตามๆ กัน ใครอยากรู้ก็ลองดูนะ

อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อยๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักชาย 4 และหญิง 6 ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา มักได้ยินเสียงแหลมๆ เล็ก ดังมาจากทางหอนาฬิกา สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิตไม่มีการทำกิจกรรม และคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็ไม่มีกิจกรรม หรือการก่อสร้างใดๆ และที่สำคัญบางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน?

3. ป้าลูซี่ คณะมนุษยศาสตร์

ป้าลูซี่ เป็นใครมาจากไหน ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า เขาคอยห่วงใย ดูแลเราอยู่ไม่ห่าง โดยเฉพาะช่วงเวลารับน้อง พวกเราจะเจอป้าลูซี่ทุกครั้ง…. บริเวณตึกคณะมนุษยศาสตร์ มช. จะมีเนินหญ้าที่เชื่อมระหว่างธารน้ำเล็กๆ และมีสะพานเดินข้าม ซึ่งเป็นบริเวณใกล้กับสถานที่รับน้องของคณะ ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จะเป็นช่วงสุดท้ายของการรับน้อง ก่อนที่จะปล่อยกลับเข้าหอพัก ก็มีนศ.ชายคนหนึ่งเกิดไม่สบาย เป็นหอบ รุ่นพี่จึงพาไปยังห้องพยาบาล ซึ่งอยู่บริเวณเนินหญ้า หลังจากที่ปล่อยนศ.หญิงกลับหอพัก ส่วน นศ.ชาย อยู่รับน้องต่อ จนกระทั่งมีเสียงหมาหอนดังขึ้นเป็นระยะๆ หลายคนสงสัยแต่ไม่มีใครพูดอะไร

จนกระทั่งงานรับน้องจบลง มีนศ.น้องใหม่คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว ยืนดูอยู่กิจกรรมรับน้องอยู่นาน แต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะคิดว่า คงเป็นอาจารย์ที่เดินมาดูแลความเรียบร้อย บางคนก็บอกว่า รู้สึกเหมือนมีคนมาลูบหัว จนกระทั่งเหตุการณ์นี้ ได้คลายความสงสัยลง เมื่อรุ่นน้องที่อยู่ในห้องพยาบาล ซึ่งรับรู้เรื่องแบบนี้ หรือเรียกว่า มีจิตที่สัมผัสได้ ก็ทักขึ้นมาว่า “เมือคืนหนักเลยละซิ เขา (ผู้หญิงใส่ชุดขาว) เป็นห่วงกลัวเด็กๆ เกิดอันตราย เลยต้องมาดูแลอยู่ไม่ห่าง”

4. ผีห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์

ที่ห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์ ที่เก่าๆ หน่อย ลองไปหาดูเอาเองนะ ลักษณะห้องน้ำคือ ประตูทางเข้าอยู่ตรงกลาง เมื่อเข้าไปแล้วโถฉี่จะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนอ่างล้างหน้ากับกระจกส่องหน้าจะอยู่ทางขวามือ รุ่นพี่ที่อยู่คณะสังคมฯ เล่าว่า มีคนเล่าให้ฟังมาอีกต่อว่า ตอนกลางคืนช่วงใกล้สอบ ได้ไปอ่านหนังสือที่คณะสังคมฯ แล้วปวดฉี่เลยไปฉี่ที่ห้องน้ำแห่งนี้ ไปเข้าห้องน้ำคนเดียว คนอื่นๆ ก็นั่งอ่านหนังสือต่อ คนไปฉี่ก็เข้าไปฉี่ตามธรรมดา ในห้องน้ำมีโถฉี่สองอัน คือ อันแรกติดประตู อันที่สองอยู่ด้านขวาถัดไปข้างในอีก เขาบอกว่า ตอนจะฉี่ก็จะฉี่ที่โถแรก เพราะใกล้ แต่ไม่รู้นึกยังไง เดินเลยไปฉี่ที่โถด้านใน ตอนกำลังฉี่ก็ยังไม่มีอะไร แต่ตอนฉี่เสร็จแล้ว มองออกไปที่กระจก ภาพในกระจกสะท้อนให้เห็นว่า กำลังมีคนยืนฉี่อยู่ที่โถฉี่อันแรก! (แต่หันหลังให้) นึกว่าตาฝาดเพราะหันไปดูก็ไม่มีอะไร แต่พอไปดูในกระจก ก็เห็นเหมือนเดิม

5. วงเวียนธรณี

ต้องขอโทษคนที่ผ่านทางวงเวียนธรณีเป็นประจำด้วยนะ จุดนี้มีเรื่องเยอะจริงๆ นานมาแล้วมีนักศึกษา 2 คนกินเหล้าเมากันมา พอมาถึงข้างตึกธรณี คนขี่มอเตอร์ไซต์มองไปทางข้างตึกอังกฤษ เห็นคนหัวขาดยืนอยู่

ตกใจจึงหยุดรถขยี้ตาดูอีกที แล้วสะกิดถามเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันว่า “เห็นอะไรหรือเปล่า” เพื่อนตอบกลับมาว่า “ไม่เห็นอะไรเลย” พอมองไปอีกทีก็ไม่มีแล้ว แต่พอหันกลับมาข้างหน้าก็ปรากฏว่า มีลวดเส้นเล็กๆ ขึงอยู่ ระดับคอห่างออกไปเมตรเดียว ถ้าไม่หยุดรถคง!… แน่นอน

6. ก๊อกน้ำนิติเวช

อาคารเรียนรวมแพทย์ มีคนไปอ่านหนังสือกัน 2 คน พอดึกๆ ก็ไปซื้อไก่ทอดมากิน พอกินเสร็จแล้วก็หาที่ล้างมือ ไปเจอก๊อกน้ำข้างตึก จึงเดินไปล้างมือที่นั่น ตอนที่ล้างมืออยู่เพื่อนอีกคนก็ทำหน้าตกใจมากแต่ยังไม่พูดอะไร? คนที่ทำหน้าตกใจรีบจูงมือเพื่อนกลับมาใต้ตึก แล้วถามว่ารู้มั้ยเมื่อกี้เห็นอะไร อีกคนบอกไม่รู้ คนนั้นจึงบอกว่า เห็นผมของอีกคนซึ่งผมยาวชี้ขึ้นมากระจุกหนึ่งเหมือนมีคนจับขึ้นมา รู้ทีหลังว่าตรงนั้นเป็นที่ล้างศพ!

7. ทางเดินคณะวิศวกรรมศาสตร์

ทางเดินคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีนศ. 4 คนเข้าไปเล่นผีถ้วยแก้วตรงทางเดินยาวตรงข้ามหอ 5 ชาย วันนั้นฝนตกด้วย มีผีผู้ชายเข้ามา พอถามว่าชื่ออะไร “ไม่ตอบ” เลยถามต่อว่า “มาคนเดียวใช่รึไม่ใช่” ก็ตอบว่า “ไม่ใช่” จึงถามต่อว่ามากันเท่าไหร่ “เค้าก็ตอบว่าเก้า (ไปเลข 9)”

คนเล่นรู้สึกกลัวขึ้นมาจึงเชิญออก แล้วรีบกลับมาที่หอ มีเพื่อนถามว่าไปไหนกันมา ก็บอกว่า “ไปเล่นผีถ้วยแก้วในคณะวิศวกรรมศาสตร์มา” เพื่อนก็ว่า “อ๋อที่ยืนมุงเยอะๆ ตรงทางเดินน่ะนะ”

ที่มา :  http://www.manager.co.th

อ่านเพิ่มเติม >> เรื่องเล่าผี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ภาค2)

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง