มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น คุมการรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนเข้ม

ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นประเทศหนึ่ง ที่คนนิยมไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพราะญี่ปุ่นระบบการศึกษาที่ดี อีกทั้งยังมีทุนการศึกษาจำนวนมาก แต่ไม่นานมานี้ก็พบว่า มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น มีนักศึกษาต่างชาติหายไปอย่างปริศนาจำนวนกว่าพันคน ทำให้กระทรวงศึกษาญี่ปุ่นออกมาคุมเข้มในเรื่องนี้มากขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่มีการลดโควตาเด็กต่างชาติให้เข้าเรียนน้อยลง เพียงแต่จะมีระบบเอกสารยืนยันตัวตนที่คุมเข้มมากขึ้นเท่านั้น

มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น เพิ่มมาตรการคุมเข้มเอกสารรับรอง นศ. ต่างชาติ

กระทรวงศึกษาของญี่ปุ่นพบว่า ในช่วงระหว่างปี 2016 – 2018 มีนักศึกษาต่างชาติหายไป 1,610 คน จากที่เคยรายงานไว้ในตอนแรก ทำให้ทางการออกมาตื่นตัวในเรื่องของการจัดการปัญหานี้ เพราะจำนวนนักศึกษาที่หายไปจากที่แจ้งมีจำนวนมาก ซึ่งนักศึกษาที่หายไป ทางการไม่รู้เลยว่าบุคคลเหล่านี้หายไปไหน

และในข่าวก็ไม่ได้แจ้งว่านักศึกษาที่หายไปนั้นหายไปไหน อาจอยู่ปะปนกับประชากรญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้ว หรืออาจจะไม่มีตัวตนจริงตั้งแต่แรก คล้ายกับสถานการณ์ของการศึกษาไทย ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่ง ตามรายชื่อที่เขียนขึ้น เพื่อให้โรงเรียนไม่ถูกยุบ แต่เมื่อไปตรวจจริง ก็เป็นเพียงรายชื่อที่กล่าวอ้างขึ้น และไม่ได้มีนักเรียนครบตามจำนวนที่สถานศึกษาได้บอกไว้

ต้นเหตุของปัญหานี้คาดว่าเกิดจาก มหาวิทยาลัยบางแห่งในญี่ปุ่น มีการรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนง่ายเกินไป และมีการจัดการเรื่องของ การลงทะเบียนนักศึกษาต่างชาติอย่างไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดปัญหานักศึกษาหายตัว เป็นผลทำให้เกิดบุคคลที่เข้ามาอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น และนอกจากนี้ สิ่งที่พบในการไปลงตรวจมหาวิยาลัย ที่รับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียน ก็พบว่ามหาวิทยาลัยบางแห่งมีการจัดการอาคาร และสถานที่ของสถานศึกษาไม่เหมาะกับการเรียน

คุมเข้มมหาลัย แต่ไม่ลดจำนวนการรับนักศึกษาต่างชาติ

ดังนั้นกระทรวงศึกษาของประเทศญี่ปุ่นจึงออกมาขอหลักฐาน การรับนักศึกษาต่างชาติที่เข้มงวดขึ้น จากมหาวิทยาลัยทั่วญี่ปุ่น และหลักฐานเหล่านี้จะต้องส่งภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ถึงจะมีปัญหานี้เกิดขึ้น ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ลดจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียน ที่ประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียน ในญี่ปุ่นให้ถึง 300,00 คนภายในปี 2020 อีกด้วย

ที่มา :  the pie news

ภาพ : read01.com

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง