7 เครื่องมือดิจิทัล สำหรับเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด

7 เครื่องมือดิจิทัล สำหรับเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด ตัวช่วยดีๆ ให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพ

Home / บทความการทำงาน / 7 เครื่องมือดิจิทัล สำหรับเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด ตัวช่วยดีๆ ให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพ

ในสภาวะที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดอย่างหนัก หลายองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อย่างเร่งด่วน สิ่งหนึ่งที่สำคัญ และมีความปลอดภัยสูง ได้ถูกนำมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจนั่นคือ เทคโนโลยี ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่ ต้องมีเครื่องมือด้านเทคโนโลยี (Technology Toolkit) ที่สร้างสรรค์เเละเเก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าในอดีต ที่ใช้เพียงการสื่อสารผ่านอีเมล์หรือข้อความ

7 เครื่องมือดิจิทัล สำหรับเจ้าของธุรกิจ ในยุคโควิด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ให้คำเเนะนำแก่ผู้ประกอบการมากกว่า 3.4 ล้านรายทั่วโลก ในการใช้เทคโนโลยีจัดการธุรกิจเเละการบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่นขอเเนะนำ 7 เครื่องมือดิจิทัล ที่ช่วยผลักดันธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติ

ตัวช่วยดีๆ ให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพ

1.การบริการลูกค้า (Customer Service)

เรากำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีครั้งสำคัญ ผู้คนรับ-ส่งข้อความต่อเนื่องไม่รู้จบ อีกทั้งเวลาดูเหมือนถูกเร่งให้เร็วขึ้น ดังนั้นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที จึงเป็นสิ่งสำคัญ จากการวิจัยล่าสุด พบว่า 82% ของผู้บริโภคคาดหวังการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากแบรนด์ต่างๆ

ดังนั้นการก้าวนำเทรนด์ของลูกค้าผ่านเครื่องมือดิจิทัล ที่ล้ำสมัยจะช่วยให้คุณได้เปรียบคู่แข่ง เครื่องมือไลฟ์แชต (Live Chat) ถูกนำมาใช้ตอบคำถามพื้นฐาน กับลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์ เเละยังมีอีกหลากหลายเครื่องมือ ที่ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย มีทั้งเเบบมีค่าใช้จ่ายเเละใช้งานฟรี รวมถึงซอฟต์แวร์ Zoho Desk ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

2.การสื่อสารและการประสานความร่วมมือ (Communication and Collaboration)

แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) หรือวีดิโอแชตเกิดขึ้นมากมาย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 62 ล้านครั้ง โดยผู้ประกอบการใช้เพื่อติดต่อพูดคุยกับพันธมิตร คู่ค้า และลูกค้า นอกจากจะใช้ในการประชุมแล้ว ยังใช้ในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ในกลุ่มธุรกิจ หรือกลุ่มเครือข่ายทางธุรกิจได้อีกด้วย

โดยผู้ประกอบการสามารถแยกเป็นห้องประชุมย่อยออนไลน์ สำหรับการประชุมกลุ่มย่อยได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดทำ Webinar ขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับพันธมิตรหรือคู่ค้า พร้อมทำการบันทึกกิจกรรมแล้วนำไปสร้างเป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรืออีเมล์ เพื่อช่วยผลักดันสร้างยอดขายเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างเเอปพลิเคชั่นการประชุมออนไลน์เเบบไม่มี ค่าใช้จ่ายอย่าง JOIN.ME สามารถเข้าร่วมประชุมได้สูงสุด 10 คน

3.การใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media)

โซเชียลมีเดียไม่ได้ใช้เพียงแค่แชร์วีดีโอ รูปภาพ หรือเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่สำคัญสำหรับธุรกิจเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook Twitter Linkedin YouTube และ Instagram ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจเป็นเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ ข่าวสารต่างๆ หรือข้อมูลสินค้า

แต่การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียหลายอย่างพร้อมกัน และส่งไปหากลุ่มลูกค้าทุกอาทิตย์ อาจสร้างผลเสียได้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือของโซเชียลมีเดียที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ ช่วยกำหนดวันและเวลาในการโพสต์เนื้อหาได้อัตโนมัติ โดยเครื่องมือที่เเนะนำ อาทิ Hootsuite ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการบริหารคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหลายๆช่องทางในการติดต่อ ซึ่งซอฟต์แวร์ Zoho Social หรือซอฟต์แวร์ Buffer ก็ทำได้เช่นกัน

4.การใช้โปรแกรมสนทนา Slack

ผู้ประกอบการในหลายองค์กรเลือกใช้โปรแกรมสนทนา Slack ในการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น เพราะใช้งานง่าย เป็นเสมือนสื่อกลางในการทำงาน โดยใช้แทนอีเมล แชต และอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการอัพเดตข้อมูล ข่าวสาร คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการเข้าถึงระหว่างลูกค้าและแบรนด์มากยิ่งขึ้น

5.การจัดเก็บข้อมูล (Storage)

การประมวลผลระบบคลาวด์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เสมือนเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลสำคัญได้อย่างปลอดภัย ปกป้องข้อมูลสำรอง เเละสามารถเเชร์ข้อมูลได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Google Drive, Dropbox หรือ Microsoft Sharepoint การย้ายข้อมูลในการทำงานไปยังระบบคลาวด์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ยังง่ายต่อการแชร์ข้อมูลให้กับลูกค้าอีกด้วย

6.การตลาดผ่านช่องทางการส่งอีเมล (Email Marketing)

หนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ คือ การทำการตลาดผ่านอีเมลล์ การส่งจดหมายข่าวที่ถูกออกแบบสวยงามเหมาะสมเพื่อให้ข้อมูลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและไม่มีค่าใช้จ่าย คือ MailChimp ที่สามารถส่งอีเมล์ข้อความทางการตลาดให้กับลูกค้าอย่างน้อย 12,000 ข้อความต่อเดือน หรือมีผู้ติดตามอย่างน้อย 2,000 บัญชี จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในเวลานี้

7.การตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)

วิกฤตครั้งนี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยหันไปเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านผ่านแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ซึ่งลูกค้าคาดหวังที่จะได้รับบริการที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เลือกใช้มากมาย อาทิ Shopify ที่ให้บริการแก่ผู้ประกอบการสำหรับการสร้างหน้าร้านออนไลน์อย่างครบวงจร มีทั้งเทมเพลตหลายรูปแบบสามารถปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจได้ตามต้องการ สามารถส่งข้อความถึงลูกค้าได้โดยตรง อีกทั้งยังติดตามสถานะการสั่งสินค้า และส่งใบแจ้งหนี้ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงนำไปใช้งานบนแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Amazon ได้อีกด้วย ซึ่ง Shopify เปิดให้ทดลองใช้งานได้ฟรีถึง 14 วัน

สุดท้ายนี้ ขอเเนะนำว่า การมีปฏิสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโทรศัพท์หาลูกค้า การรับสายจากลูกค้า การประชุมผ่าน zoom การส่งอีเมล์หาลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน  เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็ก ทำงานได้เหมือนองค์กรใหญ่ แต่ความท้าทายคือการทำให้เทคโนโลยีเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ได้อย่างครบทุกมิติ ถึงเเม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการสื่อสารและผลผลิต แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ในเรื่องปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ ดังนั้นการผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคนี้

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น สามารถติดตามข้อมูล พร้อมพบกับเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ดีได้ที่ www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial

บทความแนะนำ