การสอบ TOEFL มีกี่แบบ แต่ละแบบคืออะไร? เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ มีหลากหลายแบบ ข้อสอบหนึ่งที่นิยมใช้กันตามหลักสากลก็คือ TOEFL การสอบ TOEFL เป็นการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งคะแนนสอบนี้สามารถนำไปใช้ยื่นสมัครเรียนต่อ สอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้งในไทย และต่างประเทศได้ แต่ข้อสอบ TOEFL ก็มีตัวย่อ ของรูปแบบในการสอบที่หลากหลาย จะมีแบบไหนบ้างมาดูกัน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ การสอบ TOEFL

ข้อสอบ TOEFL เป็นการสอบวัดผลภาษาอังกฤษ ตามมาตรฐานภาษาอังกฤษแบบอเมริกา ซึ่งคะแนนสอบนี้จะสามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อในต่างประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น แต่รูปแบบการสอบ TOEFL จะมีตัวย่อต่อท้ายที่แตกต่างกันถึง 4 แบบ แต่ละแบบจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

TOEFL iBT

ย่อมาจาก internet-Based Testing เป็นรูปแบบการสอบ TOEFL ที่มีการจัดสอบ ในประเทศไทย เนื้อหาของการสอบมี 4 ส่วนคือ Reading, Listening, Speaking, Writing และพิเศษไปกว่านั้นจะมีบททดสอบบางข้อ ที่รวมเอาทักษะหลายๆ อย่างไว้ด้วยกัน เช่น มีคำถามให้อ่าน แต่ต้องตอบด้วยการพูด ช่วงคะแนนสอบแบบ iBT อยู่ที่ 0-120

TOEFL PBT

ย่อมากจาก Paper-Based Testing จะเป็นการทำแบบทดสอบกับกระดาษ การสอบแบบ PBT จะประกอบไปด้วย Listening, Structure, Listening โดยมีคะแนนตั้งแต่ 310-677 คะแนน ส่วนการสอบ Writing (รู้จักกันในชื่อ TWE) สามารถเลือกที่จะสอบ หรือไม่สอบก็ได้ การคิดคะแนนในส่วนนี้จะแยกออกไปต่างหากจากส่วนอื่นๆ โดยมีคะแนนตั้งแต่ 0-6 คะแนน

TOEFL CBT

ย่อมากจาก Computer-Based Testing จะเป็นการสอบกับคอมพิวเตอร์ เนื้อหาในการสอบเหมือนกับ TOEFL PBT แต่จะมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ แบบ CBT ผู้สอบทุกคนจะต้องสอบ Writing ช่วงคะแนนอยู่ที่ 0-300

TOEFL ITP

ย่อมากจาก Institutional Testing Program ซึ่งก็คือข้อสอบ TOEFL ที่องค์กรต่างๆซื้อมาจาก ETS หรือองค์กรจัดสอบ TOEFL อีกที ดังนั้นเนื้อหาในการสอบก็จะมีทั้ง Listening, Structure, Listening หรือ Writing คล้ายกับข้อสอบ TOEFL แบบอื่นๆ แต่แบบทดสอบ TOEFL ITP จะใช้ได้กับสถาบันเฉพาะเจาะจง ที่ซื้อข้อสอบไปเท่านั้น เช่น TOEFL Mahidol หรือ TOEFL ITP ที่ MUIC ซื้อข้อสอบมา ก็จะนำผลคะแนนนี้ไปยื่นสมัครเข้า ม.มหิดล ได้ทีเดียว

ที่มา : www.aims.co.th