สำหรับใครที่ผ่านช่วงชีวิตในวัยเรียนกันมาแล้วนั้น คงต้องรู้สึกว่าเราได้หลุดพ้นออกมาจากสิ่งที่ไม่ชอได้แล้ว ก็เพราะว่าวิธีการเรียนที่เราเคยเรียนกันนั้นจะเป็นการเน้นให้เราได้ท่องจำมากกว่าการได้ลงมือปฏิบัติจริง อ่านหนังสือกันอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะได้ผลการสอบในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม แต่สำหรับบทความนี้เราจะน้องๆ มารู้จักกับระบบการศึกษาของประเทศเดนมาร์กกัน ซึ่งเป็นประเทศที่ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุด อันดับ 3 ของโลก ลองมาดูกันเลยว่า อะไรที่ทำให้เด็กๆ ประเทศเดนมาร์กเรียนได้อย่างมีความสุข
5 เหตุผล ที่ทำให้นักเรียนประเทศเดนมาร์ก มีความสุขในการเรียนมากที่สุด
นักเรียนมีความสุขในการเรียน
1. คำว่า “ดีที่สุด” ไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต
การดูแลนักเรียนส่วนใหญ่ของประเทศเดนมาร์กนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการฝึกให้เด็กๆ สอบผ่าน ได้เกรด หรือคะแนนยอดเยี่ยมตลอด แต่ผลักดันให้เด็กๆ เกิดความอยากรู้อยากเห็น มีไหวพริบ เพื่อที่เด็กๆ จะได้พัฒนาความรู้ด้วยตัวเองได้ ซึ่งทางโรงเรียนจะมีการสร้างความเข้าใจให้กับนักเรียนว่าพวกเขาจะได้รับการประเมินจากคุณสมบัติส่วนตัวและความสามารถของแต่ละคน ซึ่งส่งผลทำให้เด็กๆ สามารถอยู่ในสังคมได้ โดยที่ไม่ต้องคอยเป็นกังวลว่าจะทำอาชีพอะไร
ซึ่งหลักสูตรนี้เกิดขึ้นจากความสงสัยที่ว่า นักเรียนส่วนใหญ่จะสามารถเอาใจใส่กับการเรียนได้หรือไม่? และผลที่ออกมาก็คือ นักเรียนสามารถผ่านการประเมินได้ทุกคน โดยระบบการเรียนการสอนแบบนี้ไม่ได้มุ่งเน้นให้นักเรียนประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต แต่เป็นการช่วยเหลือให้เด็กๆ ทุกคนให้รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ตัวเองชอบ จนสามารถประสบความสำเร็จในด้านที่ตัวเองถนัดได้ด้วยเช่นกัน
2. การพัฒนาบุคลิกภาพ มีความสำคัญเท่ากับการอ่านออก เขียนได้
ระบบการเรียนการสอนของประเทศเดนมาร์กจะสนับสนุนให้เด็กๆ พัฒนาบุคลิกภาพของตัวเอง ซึ่งได้ทำการระบุเป็นกฎระเบียบเลยว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น ไม่ควรจะให้แค่ความรู้เบื้องต้นและความสามารถกับเด็กเท่านั้น แต่จะต้องช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้อีกด้วย แม้ในช่วงการเตรียมความพร้อมก่อนจะเข้าสู่ระบบการศึกษาหลัก คือ ในช่วงอนุบาลหรือเตรียมอนุบาลนั้น เด็กๆ จะต้องได้รับการเตรียมตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา การทำความคุ้นเคยกับกฎระเบียบของโรงเรียน รู้จักการแบ่งปันให้กับผู้อื่น รวมถึงการมีส่วนร่วมในสังคมด้วย
3. ไม่ส่งเสริม การเรียนการสอนแบบท่องจำเพียงอย่างเดียว
เด็กๆ จะถูกส่งเสริมให้รู้จักค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อนำมาวิเคราะห์และตอบคำถามได้อย่างอิสระ เนื่องจากความเชื่อที่ว่า นักเรียนควรจะมีกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองมากกว่ามานั่งฟังอาจารย์สอนเพียงอย่างเดียว โดยที่เด็กๆ จะถูกสอนให้ตั้งข้อสงสัยกับคำกล่าวอ้างทุกคำ เพื่อที่จะได้คิดหาข้อเสนอแนะของตัวเองขึ้นมา ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้นั้น จะต้องมีการปลูกฝังให้เด็กๆ รู้จักเคารพตัวเองเสียก่อน รวมถึงเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย
ส่วนเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ การคิดไตร่ตรองอย่างมีวิจารณญาณและการคิดริเริ่ม ก็ถือได้ว่าเป็นความสามารถที่เป็นประโยชน์ และจำเป็นต่อการมีส่วนร่วมในสังคมเช่นกัน ซึ่งการสอนนักเรียนด้วยวิธีการแบบนี้ย่อมได้ผลดีกว่า เมื่อเทียบกับการจดจำประโยคหรือคำพูดต่างๆ จากหนังสือเรียนเพียงอย่างเดียว
4. ระบบการศึกษาไม่ได้วัดระดับความสามารถ จากคะแนนสอบหรือเกรดที่ดี
ประเทศเดนมาร์กสนับสนุนให้นักเรียนทั้งระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยนั้นเรียนอย่างมีความสุข สนุกสนานไปกับการเรียน โดยจะทำให้เด็กๆ เห็นว่าการเรียนนั้นไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและรอคอยให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น สำหรับวัยรุ่นชาวเดนมาร์ก ถ้าหากยังไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองนั้นจะทำอย่างไรต่อไปดี หรือว่ามีปัญหาในการเข้าสังคม ทางระบบการศึกษาจะช่วยสร้างโอกาสให้พวกเขาได้เรียนในคลาส After School วัยรุ่นที่มีอายุ 14-18 ปี จะใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี ในการเรียน
หลังจากนั้นค่อยมาตัดสินอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป และคลาสพิเศษนี้เปิดรับทุกส่วน ไม่ใช่แค่ในระบบโรงเรียนสามัญเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาจนสามารถค้นพบความสนใจและความสามารถของตัวเองได้ในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ งานฝีมือ หรือกีฬา ที่สำคัญคือพวกเขาจะได้รับการปลูกฝังให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อจะได้สามารถปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ในสังคมได้
5. ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ในการเลือกอนาคตตัวเอง
ในประเทศเดนมาร์ก การเลือกอาชีพที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขกับการทำงานนั้นขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของระบบการแนะแนวทางอาชีพด้วย จึงได้มีการบริการทางสังคมที่จัดขึ้นสำหรับให้คำปรึกษาเหล่านักเรียน เพื่อเตรียมพร้อมอนาคตข้างหน้า โดยพวกเขาจะได้รับการให้คำปรึกษาก่อนที่จะเลือกเรียนในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นไป หรือเลือกเรียนสาขาวิชารอง ซึ่งในการเรียนที่สูงขึ้นไป การนัดเจอกันระหว่างกลุ่มนักเรียนกับอาจารย์เพื่อปรึกษาวางแผนอนาคตของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องปกติ
จากการสำรวจพบว่า วัยรุ่นชาวเดนมาร์กกว่า 50% รู้สึกอิสระในการเลือกอนาคตของตัวเอง และพวกเขาคิดว่าตัวเองมีความสามารถมากพอที่จะทำอาชีพของตัวเองได้ดีมากๆ อีกด้วย ดังนั้นเดนมาร์กจึงเป็นประเทศที่ประชากรทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงจุดเริ่มต้นของชีวิตเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญคือ การศึกษาในประเทศเดนมาร์กนั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย เพราะทางรัฐให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทำให้นักเรียนทุกคนไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางการเงินของทางบ้าน อีกทั้งพวกเขาจะได้รับเงินอย่างเพียงพอ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งด้านการศึกษาและค่าใช้จ่ายในชีวิตอีกด้วย
——————————————————————
ที่มา : brightside และ daily.rabbit
