อุล-ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา พิธีกรหนุ่มหล่อเซอร์สายฮาเจนเนอเรชั่นใหม่จากช่อง 23 เวิร์คพอยท์ จากการเรียนสายบริหารธุรกิจที่ไม่ตรงกับบุคลิกของตัวเอง จนมาค้นพบความถนัดทางด้านเอนเตอร์เทนเนอร์ในตอนที่เรียน แต่กว่าจะตามหาความฝันจนได้ทำในสิ่งที่รักเป็นอาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ภายใต้เบื้องหน้าที่เฮฮา เบื้องหลังกลับไม่ฮาอย่างที่คิด
อุล-ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา เบื้องหลังการทำงานใต้คราบน้ำตา
พิธีกรช่อง 23 เวิร์คพอยท์
นักศึกษาหนุ่มหล่อผมยาวคณะบริหารธุรกิจ
จบจากคณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการ ม.เกษตรศาสตร์ ด้วยความที่ตอนเลือกมหา’ลัยที่บ้านทำธุรกิจอยู่ แล้วก็ไม่รู้จะเรียนอะไร ก็เรียนไปเผื่อทำงานต่อที่บ้าน ไปปีแรกๆ นี่ไว้ผมยาวเท่าราวนม ทุกคนชอบมาทักว่าเรียนศิลปะหรือเปล่า ไม่เข้ากับบุคลิกเลย แต่พอปี 3 เริ่มตัดผม ก็มีโมเดลลิ่งติดต่อให้ถ่ายโฆษณา เราก็ค้นพบความถนัดของตัวเองว่า ชอบเอนเตอร์เทนท์คน เพื่อนก็อยากให้เราไปอยู่ในกลุ่ม วิชาความรู้ไม่ค่อยมี อาศัยเฝ้าโน้ตบุ๊คได้ ไปซื้อกับข้าวได้ เอามันไปพรีเซ้นท์งาน (ฮา)
แต่เรื่องเรียนตอนแรกไม่ชอบบัญชีเลย มันยากมาก โชคดีได้เพื่อนดี เพื่อนติวให้ ก็พากันไปจนรอด ผมว่าสิ่งสำคัญคือการคบเพื่อน เราต้องมีเพื่อนที่รักดี เราอาจจะสนุกไปด้วยกันได้ แต่เขาไม่ได้พาไปเกเร ไปหลงผิด แต่ต้องพากันไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ก็คือการศึกษาหาความรู้และคว้าใบปริญญาไปฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ได้
จุดหักเหชีวิตพิธีกรสายฮา
จุดหักเหชีวิตมาจากรายการเดี่ยวดวลไมค์ เวทีนี้เหมือนได้ปล่อยของ ในทุกๆ รอบที่เข้าไป ก็ได้เจอทีมงานที่เก่งมาก ได้เรียนการพูด ได้เจอครูเงาะคือสุดยอด ก็ได้รองแชมป์มา แล้วเวิร์คพอยท์ก็เริ่มให้ผมเข้ามาเป็นพิธีกรรายการต่างๆ ซึ่งรู้สึกตัวเองโคตรโชคดีมาก ผมได้วิชาจากพี่หม่ำ ได้เป็นพิธีกรคู่กับพี่โอ๊ต ผมได้อยู่กับสองปรมาจารย์ทั้งทางตลกคาเฟ่กับตลกเน็ตไอดอล ชีวิตผมมีความสุขมาก เหมือนเราได้เรียนรู้ไปด้วย ไม่ใช่ทำตัวชิลๆ สบายไป ผมรู้สึกว่า ผมต้องทำตัวเองให้มันเหมาะสมกับที่เขาให้โอกาสเราทำ เราต้องฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ
เบื้องหลังความฮาที่ซ่อนน้ำตาไว้
ช่วงแรกที่เข้าไปอยู่ในชิงร้อยชิงล้าน โคตรเกร็งเลย ความเป็นตลก เราพยายามไม่ได้เลยนะ ถ้าเราตั้งใจเกินไป มันตาย แล้วมันยากมากที่ต้องไปอยู่เคียงข้างพี่เท่ง พี่โหน่ง พี่หม่ำ เหมือนคนเตะบอลเลียบทางด่วนที่ต้องไปเตะบอลกับโรนัลโด เขาเล่นดีกันอยู่แล้ว จังหวะเขาได้ จะไปสุ่มสี่สุ่มห้าเลี้ยง ส่งบอลให้เขาทางไหนดี สุดท้ายยืนเฉยๆ คนก็ด่าอยู่ดีว่ามายืนทำอะไร มันเกร็งไปหมด
จนได้พี่หม่ำช่วย ทุกวันนี้ก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ในโลกออนไลน์ก็ยังมีคนด่าอยู่ แต่ผมรู้สึกว่า มันเป็นเหมือนบันไดขั้นหนึ่งที่เราต้องผ่านไปให้ได้ เวลาเจอปัญหาเราจะแข็งแรงขึ้น สิ่งเดียวที่ผมทำ คือ ผมพยายามสู้ไม่ยอมแพ้ ท้อได้ แต่อย่าเพิ่งถอย ถ้าผู้ใหญ่เขาให้เราทำ ก็แปลว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างในตัวเรา ผมก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด สักวันหนึ่งเราต้องทำได้ สู้ต่อไป ทาเคชิ นี่คือคติสอนใจของผม (ยิ้ม)
Gallery
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ
อ่านนิตยสาร Campus Star No.65 ได้ที่นี่ หรือติดตามที่ www.facebook.com/campusstar