The University of Utah การแข่งขัน นักศึกษา เกม

ม.แห่งยูทาห์ เปลี่ยนการเล่นเกมธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการแข่งขันสุดมันส์

Home / ข่าวการศึกษา / ม.แห่งยูทาห์ เปลี่ยนการเล่นเกมธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการแข่งขันสุดมันส์

The University of Utah เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่มีชื่อเสียงติดอันดับ TOP 100 ของมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1850 ประกอบด้วย 75 สาขาวิชาในระดับปริญญาตรี และมากกว่า 90 สาขาวิชาในระดับปริญญาโท

ม.แห่งยูทาห์ มอบทุนสำหรับผู้แข่งขันเกม

มหาวิทยาลัยแห่งยูทาห์ จะเปลี่ยนการเล่นวิดีโอเกมธรรมดาๆ ของเหล่านักเรียน นักศึกษาทั้งหลาย ให้กลายมาเป็นเหมือนการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพื่อเป็นการชิงทุนการศึกษาในโครงการ “esports” โดยเป็นโครงการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล Salt Lake City

ส่วนตัวแทนทีมแรกของมหาวิทยาลัยยูทาห์ที่จะลงแข่งในลีกคือ “Riot Games” เกมที่นำมาใช้แข่งในครั้งนี้ก็คือ “League of Legends” เป็นเกมยอดนิยมที่กำลังมีผู้เล่นมากที่สุดอีกหนึ่งเกมเลยทีเดียว

สำหรับยูทาห์เป็นมหาวิทยาลัยแรกในกลุ่ม “Power Five” ที่จัดการแข่งขันทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกันในงานของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการมอบทุนการศึกษาและเป็นการรองรับอุตสาหกรรมทางด้านเกมที่กำลังจะเติบโตขึ้นไปในอนาคตอีกด้วย

โดยทาง A.J. Dimick ผู้ดำเนินการโครงการ esports ได้กล่าวว่า “เราต้องการให้สถาบันการศึกษาแห่งอื่นเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้กับเราเป็นอย่างมาก” สำหรับเงินทุนในครั้งนี้จะได้มาจาก Utah Arts Entertainment & Engineering ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้สร้างโปรแกรมออกแบบวิดีโอที่ดีที่สุดในประเทศออกมาแล้วตั้งแต่ปี 2016 โดยให้ชื่อว่า “The Princeton Review” ซึ่งได้ออกแบบมาให้ทุกคนสามารถใช้งานได้จริง 

A.J. Dimick ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เขาได้วางแผนระยะยาวไว้แล้ว สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ และสำหรับนักศึกษาที่จะได้รับทุนการศึกษามีทั้งหมด 35 คนด้วยกัน”

ถึงแม้ว่าจะยังเป็นช่วงเริ่มต้นสำหรับมหาวิทยาลัย แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้นักศึกษาได้ประสบการณ์การเรียนรู้มากที่สุด พร้อมทั้งนี้มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมได้แก่ University of California, Irvine เพิ่งสร้างสนามกีฬาที่เฉพาะเจาะจงในมหาวิทยาลัยและเครือข่ายทรทัศน์ Big Ten Conference ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านก็ได้มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันในครั้งแรกไปเป็นทีเรียบร้อยแล้ว

————————————-

ที่มา : bloomberg