คำศัพท์ ฝึกภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ อเมริกา

รวมคำศัพท์ด้านการศึกษา เกี่ยวกับระบบการเรียนมหาวิทยาลัย ในอเมริกา

Home / วาไรตี้ / รวมคำศัพท์ด้านการศึกษา เกี่ยวกับระบบการเรียนมหาวิทยาลัย ในอเมริกา

เกร็ดความรู้น่าสนใจเกี่ยวกับการเรียนการศึกษาหลายประเทศ ที่มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ วัฒนธรรม สังคม ในบทความความนี้มีความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ คำศัพท์ระบบการเรียนมหาวิทยาลัย ในอเมริกา มาฝาก

คำศัพท์ระบบการเรียนมหาวิทยาลัย ในอเมริกา

ภาคเรียน

เริ่มกันที่เรื่องของภาคเรียนกันก่อน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะแตกต่างกันออกไป โดยใน 1 ปีการศึกษานั้น คุณจำเป็นจะต้องเรียนในรูปแบบหนึ่งรูปแบบใด ใน 3 แบบ ดังนี้

  • 4 ภาคเรียน ประกอบไปด้วย Fall, Winter, Spring และ Summer (โดยภาค Summer เป็นภาคเสริมและถ้าจะเรียนจะต้องเสียค่าเล่าเรียนเพิ่ม)
  • 3 ภาคเรียน หรือ ไตรภาค ประกอบไปด้วย Fall, Winter และ Spring (โดยภาค Summer เป็นภาคเสริมและถ้าจะเรียนจะต้องเสียค่าเล่าเรียนเพิ่ม)
  • 2 ภาคเรียน หรือ ทวิภาค ประกอบไปด้วย Fall และ Spring ส่วนภาค Summer จะมีความยาวแตกต่างกันออกไป โดยเป็นภาคเสริมและถ้าจะเรียนจะต้องเสียค่าเล่าเรียนเพิ่ม

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

Quarter : ภาคเรียนยาวประมาณ 12 สัปดาห์

Semester : ภาคเรียนยาวประมาณ 18 สัปดาห์

Trimester : ภาคเรียนยาวประมาณ 14-16 สัปดาห์

Scantron : กระดาษตรวจข้อสอบสำหรับการสอบ multiple choice

G.P.A. หรือ Grade Point Average : คือมาตรฐานการให้เกรดที่ใช้กันในอเมริกา โดยมีเกณฑ์อยู่ระหว่าง 0.0 – 4.0 โดยที่ 4.0 คือเกรดที่สูงที่สุด

Sorority : การควบคุมความประพฤติสำหรับนักศึกษาหญิงระดับปริญญาตรี

Fraternity : การควบคุมความประพฤติสำหรับนักศึกษาชายระดับปริญญาตรี

Honor Society : การควบคุมเรื่องทุนการศึกษาที่มอบให้กับนักเรียนที่มี G.P.A. สูง

Major : วิชาเอกหรือการศึกษาที่เน้นหนักไปในสาขาใดสาขาหนึ่งในระดับปริญญาตรี นักเรียนจะต้องเลือกเรียนวิชาเอกและเรียนให้จบหลักสูตรฉบับสมบูรณ์เพื่อได้รับปริญญา

Double Major : การเรียนสองหลักสูตรไปพร้อมกัน

Minor : วิชาโท หรือการเรียนที่เน้นเป็นอันดับสองรองจากวิชาเอก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาและหน่วยกิตที่น้อยกว่าในการเรียนให้ครบหลักสูตร

Class : เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำว่า lecture โดย จะสอนโดย Professor, T.A. รวมถึง guest lecturer

T.A. หรือ Teaching Assistant : คือผู้ช่วยอาจารย์ซึ่งปกติแล้วจะเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับปริญญาโท โดยพวกเขาสามารถจะเป็นผู้ที่สอนในห้องเรียน และคอยช่วยเหลือ professorในระหว่างการเรียนการสอน

E : คือเกรดที่ต่ำที่สุด เท่ากับ 0.0ใน G.P.A ซึ่งจะถือว่าเรียนไม่ผ่านและไม่ได้หน่วยกิตใดๆ

Finals, Final หรือ Finals Week : มักจะหมายถึงสัปดาห์สุดท้ายของที่จะปิดเทอม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการสอบปลายภาค รวมถึงการกำหนดส่งเรียงความด้วย

Winter Break : ปิดเทอมภาคฤดูหนาว จะประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากจบภาค fall ซึ่งจะเป็นช่วงคริสต์มาสและปีใหม่พอดี

Spring Break : ปิดเทอมภาคฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะเป็นการหยุดสั้นๆเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากจบภาค winter และก่อนที่จะเปิดเทอมใหม่ คือ ภาค spring

Homecoming : เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองจากการเรียนจบในเทอมแรก และยังเป็นช่วงเวลาที่ศิษย์เก่าจะกลับมาและหวนรำลึกถึงวันเก่าๆ ของพวกเขา

Resume : เอกสารใช้ในการสมัครงาน ที่แสดงถึงการศึกษาและทักษะที่จำเป็น

Social Security Number : หมายเลขประกันสังคม โดยชาวอเมริกันทุกคนจะต้องมีเพื่อใช้ในการเสียภาษี ส่วนนักเรียนต่างชาตินั้น จะสามารถขอหมายเลขนี้ได้ เพื่อใช้ในการทำงาน

Freshman : เด็กใหม่หรือนักเรียนปีหนึ่ง

Sophomore : นักเรียนปีสอง

Junior : นักเรียนปีสาม

Senior :  นักเรียนปีสี่ ซึ่งกำลังจะเรียนจบ

Professor : อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่สอนวิชาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย

Advisor : อาจารย์ที่มีคุณสมบัติที่ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำนักเรียนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิชาเอก, ที่พัก, วิชาที่ควรเรียน รวมถึงปัญหาอื่นๆ มากมาย

Syllabus : เอกสารที่เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย, วันเวลาในการสอบ รวมถึงสิ่งที่จะได้รับจากการเรียน โดยแต่ละวิชาจะต้องมี Syllabus เป็นของตัวเองโดยจะเขียนขึ้นโดย T.A. หรือ Professor ประจำวิชานั้นๆ

Prerequisite : วิชาบังคับทั่วไป เป็นวิชาที่นักเรียนทุกคนจะเป็นจะต้องเรียนและผ่านก่อน ถึงจะสามารถเข้าเรียนในวิชาเอกต่างๆ ได้ โดยวิชาบังคับเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละมหาวิทยาลัย

Paper/Term Paper : คำเรียกของ essay การเขียนรายงานทางวิชาการ

Associate’s Degree : อนุปริญญาที่ใช้เวลาในการเรียนประมาณ 2 ปีและได้จากการเข้าเรียนที่ Community College (วิทยาลัยชุมชน)

Bachelor’s Degree : ปริญญาตรี ใช้เวลาในการเรียน 4 ปี และได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัย

Master’s Degree : ปริญญาโท ใช้เวลาในการเรียน 2-4 ปี (ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา) และได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัย

PhD ย่อมาจาก Doctorate of Philosophy หมายถึง การทำวิจัยเชิงวิชาการ และได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนระยะเวลาในการเรียนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิชาและสถาบัน

Community College : วิทยาลัยชุมชนที่เน้นการสอนในการทำอาชีพ และไม่ได้มีสภาพแวดล้อมหรือสังคมเหมือนมหาวิทยาลัย

College/University : มหาวิทยาลัย คือ สถาบันการศึกษาสำหรับการเรียนในระดับปริญญาตรีเป็นต้นไป

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่มา Top 100 US universities : www.topuniversities.com , news.stanford.edu , ภาพจาก www.pexels.com

บทความแนะนำ