love มหาวิทยาลัย วันวาเลนไทน์ วัยรุ่น ห้องสมุด

5 สถานที่พบรักสุดโรแมนติก ในมหา’ลัย ที่เราไม่ควรพลาด

Home / วาไรตี้ / 5 สถานที่พบรักสุดโรแมนติก ในมหา’ลัย ที่เราไม่ควรพลาด

ในที่สุดเดือนแห่งความรักมาถึงซักที ชาว Campus Star คนไหนยังต้องอยู่อย่างเหงาๆ แบบคนไร้คู่กันบ้างเอ่ย? อย่าเพิ่งเสียใจกันไปนะ เพราะว่าวันนี้เรามีพื้นที่พิเศษในรั้วมหา’ลัยมาแนะนำเพื่อนๆ กัน เผื่อว่าเพื่อนๆ จะลองไปนั่งหรือเดินเล่นใกล้ๆ พื้นที่เหล่านั้นดู แล้วจะได้เจอคู่แท้กันบ้าง ซึ่งเราก็มีมาแนะนำเพื่อนๆ ทั้งหมด 5 สถานที่ด้วยกัน และนอกจากนี้เรายังมีมุมมองความรักในแบบต่างๆ ของเพื่อนๆ แต่ละเพศมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกด้วย อยากรู้ว่าความรักมีกี่รูปแบบก็ต้องลองมาติดตามดูกันนะคะ

สุดยอด!! 5 สถานที่พบรักสุดโรแมนติก ในมหา’ลัย

มาเริ่มกันที่สถานที่พิเศษๆ ในมหาวิทยาลัยกันเลยดีกว่า เนื่องจากแต่ละมหาวิทยาลัยก็ต้องมีสถานที่ ที่น้องๆ ชอบไปนั่งแตกต่างกันไปออกไปใช่มั้ยล่ะ แต่ 5 สถานที่ ที่เราจะพูดถึงนี้รับรองว่าทุกมหาลัยต้องมีแน่นอน พอพูดถึงปุ๊บน้องๆ สามารถนึกออกเป็นฉากกุ๊กกิ๊กๆ และพูดออกมาว่า ฉันก็เคยไปยืนอยู่ตรงนั้นมาแล้ว อย่างแน่นอน มาดูกันเลยดีกว่า สถานที่ที่สามารถสร้างความรักให้เราได้…

ห้องสมุด
สถานที่แห่งแรกที่อยากจะแนะนำคือ ห้องสมุด! ใช่แล้วล่ะ ห้องสมุดที่มีบรรยากาศเงียบๆ นี่แหละ โรแมนติกอย่าบอกใครเชียว แต่ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มมาจีบสาว หรือสาวไปจีบหนุ่ม งานหินครั้งนี้ก็คือ บุคลิกของคนที่ชื่นชอบห้องสมุด เพราะหนอนหนังสือน่ะ จีบยากกว่าเด็กเที่ยวแบบสุดๆ ไปเลยน่ะสิ รึบางทีเด็กเรียนก็มักจะไม่สนใจอะไรพวกนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี ^^ ขึ้นชื่อว่าห้องสมุดมันก็ต้องงดใช้เสียงดังรบกวนคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นใช้เสียงของคุณให้น้อยที่สุด และหันมาใช้การเขียนแทน เขียนนี่แหละถูกใจบรรดาชาวหนอนหนังสือเขานักล่ะ

5 สถานที่พบรัก ในมหา’ลัย

ทีนี้หลายๆ คนก็คงจะมีฉากละครหลายๆ เรื่องผุดขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย ยื่นกระดาษพร้อมปากกาให้ หรือเสียบกระดาษคำพูดลงในหนังสือแล้วลองเอาไปวางไว้ให้ดู นี่ก็เป็นขั้นต้นในการสร้างความทรงจำดีในการจีบกันที่ห้องสมุด ใครอยากจะลองหาวิธีให้ลึกซึ้งกันกว่านี้แนะนำให้ดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง Sky of Love รักเรานิรันดร์ ถึงแม้ว่าตอนจบมันจะเศร้า แต่ในตอนต้นที่พระเอกค่อยๆ จีบนางเอกที่ห้องสมุดมันให้อารมณ์ฟินที่ดีจริงๆ

ใต้ตึกเรียน
สถานที่อีกที่หนึ่งที่คุณจะสามารถพบรักได้ง่ายๆ ก็คือ ใต้ตึกเรียน หรือ ใต้คณะของคุณนั่นเอง ไม่ไกลตัวเราเลยใช่มั้ยล่ะ ทำไมถึงต้องเป็นใต้ตึก? ก็เพราะว่าพอเรียนเสร็จทุกคนก็ต่างลงมายังที่แห่งนี้ เป็นที่รวมตัวที่ดีมากๆ หนุ่มๆ ก็จะนั่งจีบสาว แซวสาวกัน การเข้าไปจีบในสถานการณ์นี้ส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับความมึนงงก่อนเสมอ เริ่มต้นด้วยความเขิน แต่สุดท้ายอาจจะลงเอยด้วยดีก็ได้ แถมด้วยพยานความรักอีกเป็นสิบๆ แต่หนุ่มๆ ก็ต้องรู้ไว้นะ การแซวสาวไม่ใช่เรื่องที่สาวๆ ทุกคนจะชอบ จริงอยู่เขาเขินอายใส่เรา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีใจนะจ๊ะ ฉะนั้นต้องลุยแบบจริงใจ ลุยเดี่ยวได้ยิ่งดี จะจีบเขาแต่มัวมาเขินก็ใช่เรื่อง ใช้เพื่อนออกโรงก่อนก็ไม่แมนนะ สาวๆ ชอบให้หนุ่มๆ กล้าๆ เข้ามาหาเองโดยตรงมากกว่า

5 สถานที่พบรัก ในมหา’ลัย

คำเตือน การจีบกันใต้ตึกคณะอาจเป็นทอล์คออฟเดอะทาว รู้กันไปทั่วทั้งคณะเลยทีเดียว เนื่องจากหูตามันเยอะ แต่เหมาะที่จะเป็นที่ประกาศความรักให้ได้รู้กันไปเลยว่า เฮ้ย เราชอบคนนี้ และคนๆ นี้มีเจ้าของแล้วเฟ้ย ห้ามมาจีบแฟนฉันนะ!!

ฟิตเนสมหา’ลัย/สนามกีฬา
ฟิตเนส ที่หนุ่มๆ ชอบไปเล่นกีฬาบ่อยๆ หรือข้างสนามกีฬาเช่น สนามบาส สนามบอล ก็คงเป็นอีกหนึ่งที่ ที่สาวๆ สามารถไปนั่งดูหนุ่มๆ กันได้ นั่งโปรยเสน่ห์ได้เต็มที่ แต่ก็ต้องระวังลูกหลงจากในสนามกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล ลูกบาสที่สามารถพุ่งเข้าใส่มากระแทกหน้าเราได้ แต่ถ้าคนที่ทำให้ลูกบาส ลูกบอลเด้งมาใส่หน้าเราเป็นคนที่ปลื้มอยู่แล้วล่ะก็ เราก็ไม่ควรพลาดโอกาสอันดีนี้ไป รีบทำความรู้จักกันไปซะเลย อาจจะแกล้งๆ ก่อน แบบ “นายชื่ออะไร เราจะได้จำไว้ เผื่อนายทำลูกหลุดมาโดนเราอีก เราจะได้ว่าได้ไม่ผิดคน” จริงๆ ไม่ใช่ขาโหด แต่เป็นการทำให้เขาเริ่มจดจำเราได้ และเราเองก็จะได้รู้ชื่อหนุ่มที่เราแอบปลื้มไปด้วยซะเลย มาแผนสูงนะเนี่ย

5 สถานที่พบรัก ในมหา’ลัย

สำหรับใครที่คิดจะจีบหนุ่มนักกีฬาคงต้องขยันกันหน่อย ขยันไปนั่งบ่อยๆ ในวันที่เขามาเล่นกีฬา พอได้ทำความรู้จักสนิทสนมกันพอสมควรแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ซื้อน้ำไปให้เขา ไม่มีอะไรจะน่าชื่นใจเท่ากับการที่เล่นกีฬาเหนื่อยๆ แล้วมีคนมาเอาใจใส่ป้อนข้าว ป้อนน้ำให้ข้างสนามหรอกจริงมั้ย

โรงอาหาร/ฟู๊ดแฟร์
ในนี้รวมสาวๆ และหนุ่มๆ ทุกคณะไว้ได้เกือบหมดแล้ว ใครบอกว่าเป็นสถานที่ที่ไม่น่ามาจีบกันก็ขอเถียงใจขาดดิ้นไปเลย เพราะโซนโรงอาหารนี่แหละเป็นความโรแมนติกอีกอย่างหนึ่งที่เราสามารถเริ่มจีบคนที่แอบชอบได้ด้วยการ ซื้อน้ำ ซื้อขนมไปให้คนๆ นั้น เผลอๆ ถ้าโต๊ะมันแน่น แต่ที่ข้างๆ คนๆ นั้นว่างอยู่ คุณอาจจะใช้วิธีเดินเข้าไปแล้วขอนั่งข้างๆ ร่วมโต๊ะกับเขาไปเลยก็เป็นได้

จากผลสำรวจพบว่า โรงอาหารเป็นที่ๆ หลายๆ คนมักมานั่งจีบกันแบบกระหนุงกระหนิงให้อีกหลายๆ คนอิจฉาเล่นมากที่สุด คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าคำชวนอย่าง “เที่ยงนี้กินข้าวด้วยกันนะ” หรอกมั้ง ก็เหมือนๆ เวลาไปออกเดท คนเราก็มักจะเริ่มต้นด้วยการชวนไปกินข้าวด้วยกันก่อนเสมอนั่นแหละ

5 สถานที่พบรัก ในมหา’ลัย

ห้องกิจกรรมชมรม
ความรักของคนบางคนเริ่มด้วยการสืบว่า “คนที่ชอบอยู่ชมรมอะไร ชอบทำอะไร” แล้วจึงสมัครเข้าไปในชมรมนั้นด้วยกันแบบเนียนๆ เพื่อให้ได้ใกล้ชิด และทำกิจกรรมด้วยกัน อยู่ชมรมเดียวกันก็ต้องได้ทำงานร่วมกันบ่อยๆ มันก็ต้องมีได้พูดคุยกันด้วย ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเชียวล่ะ ทำให้มีโอกาสที่จะค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายกัน ในสิ่งที่ชอบเหมือนๆ กัน แถมห้องชมรมก็ยังเป็นพื้นที่ค่อนข้างคงความเป็นส่วนตัวไว้ได้ดีอีกด้วย เพราะว่าจะไม่มีคนนอกเข้ามายุ่งวุ่นวายแน่ๆ จ้า

 

line

นอกจากสถานที่พิเศษๆ แล้ว เรายังมีมุมมองความรักในแบบต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ ชาว Campus Star อีกด้วย โดยได้เพื่อนๆ จากรั้วมหา’ลัยมาช่วยกันแสดงมุมมองความรัก เป็นตัวแทนเพศต่างๆ มาแสดงความรักในรูปแบบที่ต่างกันไปให้เราได้รู้กันว่า แต่ละคนมีความรักในรูปแบบไหน และมีการแสดงออกยังไงกันบ้าง…

LEDY “รักแบบโรแมนติก”

ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง ความรักนั้นเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ผู้หญิงมักต้องการ การแสดงความรักที่ชัดเจน เช่น คำบอกรัก ของขวัญในวันสำคัญ ยิ่งเมื่ออยู่ในสังคมมหา’ลัยความชัดเจนถือเป็นสิ่งสำคัญ ผู้หญิงทุกๆ คนชอบที่จะได้มีคนมาจีบแบบตรงๆ แต่ไม่รู้ทำไมผู้ชายถึงชอบใช้เพื่อนให้มาขอเบอร์ หรือทำอะไรแทน อยากให้ผู้ชายทุกคนมีความกล้าที่มากกว่านี้ แล้วมาสร้างความรักโรแมนติกๆ ในมหา’ลัยกัน ^^

MAN “รักแบบเอาใจใส่”

สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็น่าจะเป็นการเอาใจใส่คนที่เราชอบ คือหมั่นดูแลกันและกันอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่ในเรื่องของคนที่เรารัก เช่น เรียนเป็นยังไงบ้าง รายงานหนักมั้ย การถามไถ่เพียงเล็กๆ น้อยๆ แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในแบบของเรา มันก็เป็นการช่วยผ่อนคลายให้คนที่เรารักรู้สึกว่า เขาสามารถระบายเรื่องราวเครียดๆ กับเราได้นะ และเขาจะมีเราคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ

GAY “รักแบบสนับสนุนกันและกัน”

สำหรับเรา เราคิดว่า ความรักแบบสนับสนุนกันและกันเป็นเรื่องที่ถือว่าจำเป็นที่สุด เมื่อคุณยังคงอยู่ในรั้วมหา’ลัย หน้าที่หนักของคุณคือการเรียน ฉะนั้นแล้วก็ไม่ควรที่จะชวนกันออกนอกลู่นอกทาง ช่วยกันสนับสนุนกันและกันในเรื่องเรียนให้มากที่สุด เชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่เห็นแบบนี้เขาต้องปลื้มใจแน่ๆ

HERMAPHRODITE “รักแบบสัญญาใจ”

เหมือนการรักโดยที่ไม่คิดที่จะครอบครอง เพราะความรักคือการเข้าใจซึ่งกันและกัน ไว้ใจ และผูกพันกัน โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมากจนเกินไป เพราะคนเรามักพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก เป็นรักแบบที่พยายามไม่ทำให้ตัวเองเจ็บได้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนรัก หรือคู่ของเราอยู่ข้างกาย แบบที่สามารถเปิดเผยได้ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่เดียวดายหรือถูกทอดทิ้งหรอกนะ

TOM “รักแบบละเอียดอ่อน”

ความรักแบบเราถือเป็นความรักที่มีความละเอียดอ่อน และงดงาม เพราะรักของเราใช้ความเข้าใจ และห่วยใยซึ่งกันและกัน เนื่องจากโดยส่วนมากเราจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เพราะพื้นฐานที่เป็นผู้หญิงเหมือนๆ กัน จึงทำให้สามารถที่จะเอาใจใส่ดูแลคู่ของเราได้มากกว่าเมื่อรู้ใจกันดี และยังมีความเสมอต้นเสมอปลายตลอดอีกด้วย

เพราะความรักไม่มีสิ่งที่ถูกหรือผิด ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว ทั้งรูปร่างลักษณะ อายุ ฐานะ การศึกษา หรือแม้แต่เพศก็ตาม แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าความรักของน้องๆ จะเป็นแบบไหน เมื่อยังอยู่ในวัยเรียนก็ต้องรักการเรียนไปด้วยนะคะ อย่ามุงแต่จะรักหาคู่อย่างเดียว เพราะการมีความรู้นั้นมีความสำคัญกับเราเช่นกัน และเพื่อไม่ทำให้คนที่บ้านของเราผิดหวังด้วย เราสามารถมีความรักควบคู่ไปกับการเรียนได้ค่ะ แต่ต้องไม่ทำให้เสียการเรียนไป ถ้ารักกันแล้วนำพากันไปในทางทีดีผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าใจอย่างแน่นอน

แล้วอย่าลืม 5 สถานที่สุดพิเศษของเราล่ะ อ่าน Campus Star เสร็จแล้วลองแวะเวียนไปสถานที่พวกนั้นดูนะจ๊ะ น้องๆ อาจจะเจอหนุ่ม หรือสาวที่ชอบ อาจได้เจอเฟิร์สเลิฟแบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ และสุดท้ายน้องๆ สามารถสร้างรูปแบบความรักได้ในแบบที่ตัวน้องๆ เป็น เพราะยังเป็นวัยรุ่น วัยที่มีความสดใสมากที่สุด ฉะนั้นสร้างความรักให้เป็นสิ่งที่ดีๆ และน่าจดจำที่สุดนะคะ สุขสันต์เดือนแห่งความรักค่ะ

 

line

 

ข้อมูลจาก นิตยสาร Campus star V.9 (กุมภาพันธ์ 2014)

เครดิตภาพหน้าปก จากภาพยนตร์เรื่อง Yes or No