คณะมหาโหด คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ นักศึกษา มหาวิทยาลัย

3 คณะมหาโหด หินสุดๆ สำหรับชาวมอ

Home / วาไรตี้ / 3 คณะมหาโหด หินสุดๆ สำหรับชาวมอ

หลายครั้งในช่วงชีวิตมหา’ลัยทำให้หลายๆ คนท้อใจ ไม่น้อยเลยทีเดียว และบางคนนั้นก็เกิดอาการถอดใจ เลิกเรียน Drop เอากลางคันก็มี เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การสอบเข้า การเรียน การทำโปรเจคต่างๆ ไหนจะเรื่องสอบในแต่ละเทอมอีก ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และหฤโหดเอามากๆ เลยล่ะ

4 ปี ในรั้วมหาวิทยาลัย ช่างยากลำบากเหลือเกินสำหรับนักศึกษามหา’ลัยหลายๆ คน แน่นอนว่าความยากลำบากของคณะที่ต่างกันก็ต้องแตกต่างกันไป และในแต่ละมหา’ลัยก็จะต้องมีคณะที่โหดที่สุด หรือเรียนหนักที่สุด หินที่สุดแตกต่างกันไปแน่นอน ฉบับนี้ Campus Star จึงขอนำเสนอ “คณะมหาโหด” 3 คณะที่เพื่อนๆ ชาว Campus Star ช่วยกันโหวตออกมาแล้วว่า โหดจริง! หินจริง!

3 คณะมหาโหด หินสุดๆ สำหรับชาวมอ!

Doctor

อันดับ 1 คณะแพทยศาสตร์
ไม่แปลกใจเลยที่คณะมหาโหด อันดับที่ 1 จะเป็นคณะแพทยศาสตร์ อย่างที่เราก็คงรู้กันว่า การเรียนในสายการแพทย์นั้น จบมาแน่นอนคนๆ นั้นต้องได้เป็นหมอ เป็นแพทย์ เพื่อรักษาคนไข้ รักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ซึ่งในคณะแพทยศาสตร์เอง ก็มีหลากหลายสาขาให้เลือกเรียนเช่นกัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าคณะนี้ ที่ได้อันดับ 1 มาครองเป็นเพราะอะไรกันนะ

ความโหดของ คณะแพทยศาสตร์ อย่างแรกเลยก็คือ การที่จะต้องเรียนมากกว่าคนอื่น ต้องใช้เวลาเรียนถึง 6 ปีด้วยกัน ในขณะที่คณะอื่นๆ ใช้เวลาเพียง 4 ปีเท่านั้นจึงจบ และในช่วงเวลาที่ต้องเรียน 6 ปีนั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่แทบไม่ได้หยุดพักกันเลย มีเวลาได้พักน้อยมาก เรียกได้ว่าโหดขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปีที่ได้เรียนแพทย์กันเลยเชียว การเรียนการสอนในช่วงแรก หรือ 3 ปีแรก จะเป็นในส่วนของ ทฤษฎี ที่เราต้องจำ แทบจะเป็นการท่องจำซะส่วนใหญ่ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจต่างๆ เช่น ปี 1 เราก็เริ่มจะได้สัมผัสกับชีวิตของแพทย์ตั้งแต่เริ่มต้นกันเลย คือ อาจารย์หมอจะพาเราไปเจอกับอาจารย์ใหญ่ (ที่หลายๆ คนคงจะพอรู้กันอยู่แล้วว่าคืออะไร) ซึ่งเราจะต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นกับอาจารย์ใหญ่นี้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าจะต้องผ่าตัด แค่ให้เป็นการทำความเคารพกับอาจารย์ใหญ่ที่เราจะต้องรู้จักไปตลอดการเรียนในคณะนี้ ส่วนวิชาที่จะเรียนในปีแรกก็เป็นการจำองค์ประกอบร่างกายต่างๆ ทั้งภายนอก ภายใน วิธีการประถมพยาบาล หรือขั้นตอนเบื้องต้นต่างๆ

พอขึ้นปี 2 เราถึงจะได้สัมผัสกับอาจารย์ใหญ่จริงๆ ในวิชากายวิภาคศาสตร์ มันก็เป็นอะไรที่น้องๆ จะต้องเตรียมใจ คนจะเรียนหมอจะมากลัวเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะผ่าตัดให้คนไข้ได้ยังไงล่ะ ปีต่อๆ มาก็จะเริ่มยากขึ้นเป็นลำดับ พอย่างเข้าปี 4 เป็นต้นไป น้องๆ จะได้รู้จักกับคำว่า อยู่เวร ต้องขึ้นวอร์ด ประจำตึกโรงพยาบาล ได้เข้าไปดูแลคนไข้ และสังเกตอาการจริง ปฏิบัติงานเหมือนหมอจริงๆ ระยะเวลา 6 ปีที่เรียนนั้นถือว่ากำลังดีเลยเพราะว่า การจะเป็นหมอนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจที่ดี และการปฏิบัติจริงก็ต้องแน่น ไม่เช่นนั้นคงจะออกมาเป็นหมอที่รักษาคนไข้ที่ดีไม่ได้ ถ้าผ่าตัดผิดนี่ก็ยุ่งเลยนะคราวนี้ ดังนั้นชาว Campus Star จึงขอโหวตให้ คณะแพทยศาสตร์ เป็นคณะมหาโหดอันดับ 1 ไปเล้ยยยย…

engineering

อันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ แค่ได้ยินชื่อคณะก็รู้แล้วว่าต้องเจออะไรหนักๆ แน่นอน แถมคณะนี้ใครๆ ก็ชอบคิดว่า ชายจะเรียนกันซะส่วนใหญ่ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็เรียนกันเยอะแล้วนะ ดูลุยๆ ดีด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ก็แบ่งเป็นหลายภาควิชาด้วยกัน และแต่ละภาควิชาก็ยังแบ่งย่อยเป็นอีกหลายๆ สาขาวิชาเช่นกัน เท่ากับว่า ในคณะวิศวกรรมนั้นมีอะไรให้เราได้เลือกเรียนกันอย่างมากมายทีเดียว

คณะวิศวกรรม เป็นคณะที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ผสมกับวิทยาศาสตร์ และอาศัยการคำนวณอีกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้เกิดความเที่ยงตรงต่องานอย่างสูงสุด แถมการคำนวณยังมีส่วนช่วยในการออกแบบ การจัดวางวัสดุโครงสร้าง และวางแผนกระบวนการทำงานต่างๆ เพื่อให้งานที่ออกมานั้นตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งาน และมีความปลอดภัย เชื่อถือได้ ดังนั้น การเรียนของคณะวิศวกรรม ในปี 1 ก็ต้องมีในส่วนของภาคพื้นฐาน อย่างวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เคมี ฟิสิกซ์ ที่เด็ก ม.ปลาย สายวิทย์-คณิต อาจได้เคยเรียนมาแล้วบางส่วน บวกกับวิชาพื้นฐานเบื้องต้นของสาขานั้นๆ

ตั้งแต่ปี 2 เป็นต้นไปก็จะมีในส่วนของการลงมือปฏิบัติงานจริง ความโหดของคณะนี้ก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละค่ะ งานของภาควิชาวิศวกรรมนี่ก็หนักหน่วงน่าดูเหมือนกันนะ แต่ละวิชาโหดหินทั้งนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เลยที่จะจำแต่ละอย่างได้ ถ้าพูดถึงการฝึกงานยิ่งแล้วใหญ่ มีเพื่อนๆ ชาว Campus Star กระซิบบอกมาว่า โหดสุดๆ ต้องไปฝึกกับโรงงานหรือบริษัท ในสายที่เราเรียนจริงๆ เข้าไปลุยทำงานจริงๆ ถ้าเราไม่มีข้อมูลที่ดีพอก็มีสิทธิ์ที่จะโดนเด้งออกไปก่อนที่จะฝึกงานเสร็จเสียอีก แล้วสายอาชีพนี้จะเน้นหนักเรื่องของการมีประสบการณ์จริงมากๆ ทำให้ต้องเรียนโดยภาคปฏิบัติซะส่วนใหญ่ ถ้าจะเรียนคณะนี้ก็ขอแนะนำน้องๆ กันสักนิดว่า น้องๆ ควรที่จะต้องส่งงานให้ครบ เข้าเรียนทุกครั้ง ถ้าทำได้ในจุดนี้ รับรองว่าตอนสอบก็ชิลล์ๆ แล้วล่ะค่ะ

อันดับ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งคณะ ที่ต้องใช้เวลาเรียนนานกว่าใครเพื่อน เกือบจะเทียบเท่ากับการเรียนคณะแพทยศาสตร์ แต่คณะนี้เรียนเพียง 5 ปี การเรียนก็โหดไม่แพ้กัน เพราะคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นคณะที่จะต้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของการออกแบบ ต้องคอยคิดโมเดลแบบใหม่ๆ อยู่เสมอๆ หรือตลอดเวลา การออกแบบก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีความคิดที่เป็นศิลปะ มีวัฒนธรรมที่ชัดเจน จะได้บอกได้ว่าเราจะออกแบบไปในทิศทางไหน และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ เอื้อต่อสภาพแวดล้อม หรือลักษณะภูมิประเทศด้วย

การจะออกแบบแต่ละครั้ง ต้องศึกษาทำความเข้าใจกับตัวแบบแปลนของตัวเองอย่างลึกซึ้ง การไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำหรือสร้างย่อมไม่เป็นผลดีแน่ๆ อาจจะทำออกมาได้ไม่ได้ หรือถ้าคิดในแง่ของการสร้างบ้าน สร้างห้องจริงๆ ความไม่สมดุลเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะให้บ้าน หรือห้องถล่มได้ (น่ากลัวจังเลย T T) คณะสภาปัตยกรรมศาสตร์จึงปูพื้นฐานอย่างดี เริ่มให้นักศึกษาออกแบบโมเดลกันได้ตั้งแต่ปีแรก คือปี 1 ที่ได้เข้าเรียนกันไปเลย และความโหดของเราก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ น้องๆ อาจจะท้อในช่วงที่ต้องเร่งทำโมเดลหลายๆ ชิ้นเพื่อนส่งอาจารย์ อาจไม่ได้นอนติดกันหลายๆ คืน เพื่อปั่นงานให้เสร็จทันตามเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ อันนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เด็กสถาปัตย์หลายคนคอนเฟิร์มมาว่า เป็นช่วงที่โหดที่สุดของการเรียนคณะนี้เลยทีเดียว

หลายๆ คนอาจคิดว่า จบสถาปัตย์มาจะต้องไปทำอาชีพเป็น สถาปนิกเพียงอย่างเดียว แต่จะบอกว่าตอนนี้มีหลากหลายสายให้น้องๆ ได้เลือกเรียนกันเยอะแยะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายรูป ภาพยนตร์ มัณฑนศิลป์ ออกแบบภายใน ออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งสาขาพวกนี้ก็ไม่ได้เรียนในเนื้อหาของสถาปัตย์ จำพวกเรื่องการออกแบบบ้านหรืออะไรมาก สรุปก็คือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นคณะศูนย์รวมของ ศาสตร์ ที่เกี่ยวกับศิลปะต่างๆ เท่านั้นเอง อยู่ที่ว่าน้องๆ จะชอบเลือกเรียนกันแบบไหนนะคะ และสำหรับระยะเวลา 5 ปีในการเรียนคณะนี้ไม่ได้นานเกินไปเลย เพราะกว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ครบถ้วนก็ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก เพื่อให้ออกมาเป็นสถาปนิกที่เชี่ยวชาญในเรื่องบ้านจริงๆ ในอนาคต และเพื่อให้สร้างบ้านออกมาให้ได้ดีที่สุด ใครจะอยากอยู่บ้านที่สร้างไม่ดีกันล่ะ จริงมั้ย?

 

line

 

เอาละค่ะ ก็รู้กันไปเรียบร้อยแล้ว กับคณะมหาโหด ที่เพื่อนๆ ชาว Campus Star ช่วยกันโหวตให้ว่าคณะไหน เป็นคณะมหาโหดที่สุด 3 อันดับ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่รู้ไว้ใช่ว่าจะให้กลัวนะจ๊ะ เป็นการให้รู้ไว้เพื่อเตรียมตัวตั้งรับกับอนาคตในสายวิชา หรือคณะที่น้องๆ ได้เรียนมาต่างหากล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ 3 อันดับนี้ที่เป็นคณะมหาโหดนะ คณะอื่นๆ ก็เป็นคณะมหาโหดได้เช่นกันค่ะ แล้วแต่ความรู้สึกของเรามากกว่าค่ะ

แต่จะยังไงก็ตาม ไม่ว่าคณะไหนจะมีการเรียน การสอนที่โหดแค่ไหน ก็ขอให้น้องๆ สู้ๆ ลุยกับมันให้เต็มที่ดีกว่านะคะ การพยายามทำอะไรแล้วออกมาอาจไม่ได้ดีดังที่หวังไว้ แต่มันก็คือ เราได้พยายามทำสิ่งนั้นตามแต่กำลังที่เรามีแล้ว ดีกว่าเราไม่พยายามที่จะทำอะไรเลย แล้วมาบ่นทีหลังว่า ควรจะพยายามให้มากกว่านี้ ตัดความคิดพวกนี้ออกไปซะ เพราะมันไม่มีประโยชน์ค่ะ เราต้องตั้งใจที่จะทำความเข้าใจกับมัน เมื่อไม่เข้าใจตรงไหนต้องรีบถาม หมั่นทบทวนบทเรียนเข้าไว้ให้มากๆ พี่เชื่อว่า น้องๆ เลือกเข้ามาเรียนคณะที่ตัวเองชอบ ที่ตัวเองรักแล้ว ก็ควรจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ในเมื่อมันเป็นคณะที่เรารัก จะ 4  หรือ 6 ปี มันก็แค่แป๊ปเดียวเท่านั้นเอง Campus Star เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนค่ะ สู้ๆ ( ^O^)

ข้อมูลจาก นิตยสาร Campus star V.2 (กรกฎาคม 2013)