แจ้งเกิดจากการเป็นนักร้อง จากการประกวด KPN AWARD ปี 2009 และบทบาทในปัจจุบันกับการเป็นผู้ประกาศข่าวในช่อง WORKPOINT23 แต่หนุ่มอาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ มาเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็ตอนไปออกรายการ The Mask Singer ภายใต้หน้ากากระฆังนั่นเอง 10 เรื่องเหล่านี้จะทำให้เรารู้จักตัวตนของอาร์มมากขึ้น
รู้จัก”อาร์ม-กรกันต์” มากยิ่งขึ้น
10 เรื่องภายใต้หน้ากากระฆัง
1. หนุ่มน้อยปากหวาน ในครอบครัวสุดอบอุ่น
ผมเป็นลูกคนโต มีน้องชายคนหนึ่ง ที่บ้านอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่อบอุ่น คุณแม่จะเป็นผู้หญิงเก่งและแกร่ง ส่วนคุณพ่อก็เป็นคุณพ่อที่สุดยอดมาก ใจเย็น ใจดี แล้วตอนเด็กจะปากหวานมาก เวลาไปบ้านญาติผู้ใหญ่ที่ไหน เราจะชอบชม…ห้องน้ำสวยจังครับ แล้วก็ชอบทำบุญด้วย เพราะคุณตาชอบตักบาตรทุกเช้า
2. เด็กเนิร์ดเป็นที่รักของเพื่อนๆ
ที่รร.จะเป็นเด็กเนิร์ด เข้าห้องสมุด ทำกิจกรรม แล้วตอนนั้นเป็นเด็กดีที่เพื่อนรัก เคยได้เกียรติบัตร “เพื่อนที่ดีของชั้นเรียน” เป็นความภาคภูมิใจมาก แล้วก็เป็นต้นฉบับของเพื่อนๆ เวลาเพื่อนจะไปไหน ทำอะไร จะอ้างผมไว้ก่อน เพราะเวลาผมบอกอะไรครู ครูก็จะเชื่อหมด
3. หลงรักดนตรีไทยเป็นสิ่งแรกในชีวิต
เข้าชมรมแรก คือ ชมรมดนตรีไทย ตอนป.4 ทำให้ผมได้รู้จักกับระนาดเอก ตอนนั้นที่รร.มีเครื่องดนตรีไทยอย่างละชิ้น แล้วรร.จะมีเชือกกั้นไว้ห้ามเล่น แล้วก็ประหลาดมาก เราเป็นเด็ก เห็นป้ายห้ามเล่น ก็อยากเล่น พอดีมีครูมาฝึกสอนจากจุฬาฯ จำได้ ผมยกมือขอเล่นเลย และเป็นจุดเริ่มต้นให้เล่นได้มาจนถึงทุกวันนี้
4. จุดเริ่มต้นการร้องเพลง
หลังจากฝึกดนตรีไทยอยู่สักพัก ช่วงนั้นเปลี่ยนครูฝึกสอน เหมือนเด็กติดครู เห็นครูออก แล้วเห็นเพื่อนร้องเพลงก็ย้ายไปอยู่ชมรมร้องเพลงแทน ประกวดครั้งแรกเพลงค่าน้ำนม ก็ไม่ติด เสียใจบอกแม่เลยว่าขอไปเรียนร้องเพลงข้างนอก หลังจากนั้นก็เริ่มเดินสายประกวดร้องเพลงล่าถ้วย จนมางานที่ทำให้เราได้เข้าวงการก็คืองาน KPN AWARD 2009 ปีนั้นเป็นปีที่ 5 คนสุดท้ายพูดได้เลยว่าจิ้มใครได้ที่ 1 ก็ไม่ผิด พี่ๆ อีก 4 คนเก่งมาก ส่วนผมเด็กสุด แต่ก็ภูมิใจที่ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในนั้น
5. เด็กเนิร์ดกดดันตัวเองให้ได้เข้านิเทศ จุฬาฯ
ตอนม.ปลายเข้าไปอยู่ในกลุ่มเด็กเนิร์ด ก็กดดันตัวเองสูงมากว่าต้องเข้านิเทศ จุฬาฯ ให้ได้ คะแนนก็สูงเหลือเกิน ก็ไปติว ทำทุกวิถีทาง แล้วก็ติด คุ้มค่าที่รอคอยมาก ที่อยากเข้าไป เพราะมีความฝันอยากเล่นละครนิเทศฯ เข้าไปก็ทำกิจกรรมหนักมาก แต่ก็ตั้งใจเรียนด้วย จบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง ก่อนจะเข้าเคยคิดว่าอยากเป็นผู้กำกับ ตอนนั้นเลือกเรียนสายฟิล์ม แต่ก็ได้แต่เรียน เอาจริงๆ ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ เพราะมันเป็นงานหนักมาก นอนน้อย ต้องถึกจริงๆ แต่เราไม่ถึก
6. ทุกบทบาทที่ทำถือเป็นความท้าทาย
ตั้งแต่เรียนจบก็มีโอกาสได้เข้าสู่งานละครเวที มีร้องเพลงบ้าง จากนั้นก็มาเป็นผู้ประกาศข่าวให้เวิร์กพอยท์เพราะรู้สึกอยากมีความมั่นคงในชีวิต ก็ภูมิใจกับทุกอย่างที่เราได้ทำ แต่ก็รู้สึกว่าอยากจะโฟกัสอะไรสักอย่างให้ได้ดีแล้วเปรี้ยงๆ ไปเลย แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคงเป็นร้องเพลง ส่วนอย่างอื่นที่ทำก็ถือเป็นความท้าทายที่ต้องพัฒนากันต่อไป
7. เทคนิคการร้องเพลงสไตล์หน้ากากระฆัง
เวลาขึ้นเวทีเป็นคนเชื่อโชคลาง ต้องก้าวขาซ้ายขึ้นเวทีก่อนเสมอ ก่อนประกวดตั้งแต่เด็กๆ จะตื่นเต้นมาก ต้องให้แม่ไปหายาแก้ตื่นเต้นให้กิน ทุกวันนี้ก็ยังตื่นเต้นอยู่ แต่ไม่ต้องกินยาแล้ว (หัวเราะ) อย่างตอนประกวด The Mask Singer กลัวที่สุด คือ กลัวเปิดหน้ามาแล้วกรรมการไม่รู้จัก แต่ก็โชคดีที่เปิดหน้ามาแล้วมีกรรมการอยู่หลายท่านที่เคยรู้จักอาร์มบ้างจากหลายๆ เวที
8. ตัวตนในแบบของอาร์ม-กรกันต์
ภายนอกผมอาจจะดูเป็นเด็กเนิร์ด เด็กเรียน แต่จริงๆ เป็นคนไฮเปอร์ คือวิธีรีแล็กซ์ของผมจะประหลาดไม่เหมือนชาวบ้าน เวลาวันว่างผมจะอยู่บ้านไม่เป็น ต้องวิ่งไปฟิตเนส ไปเดินห้าง ไปเดินๆ อย่างนั้นให้เหนื่อยแล้วกลับ ไม่ซื้อของด้วย เป็นคนซื้อของยาก ประหยัดมาก เดินเอาบรรยากาศอย่างเดียว
9. สาวที่มีเป้าหมายในชีวิต ไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน
ช่วงนี้ก็มีคนคุยๆ อยู่ ไลฟ์สไตล์ก็คล้ายกับผม เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวกลางคืน มีเป้าหมายในชีวิต นำพาชีวิตที่ดีให้กันและกัน แต่เวลาเหนื่อยก็ขอมีมุมน่ารักๆ แบบโอเคทิ้งตัวเป็นกำลังใจให้กันได้ (หัวเราะ)
10. อนาคตเจ้าของธุรกิจที่ต้องเรียนรู้ใหม่
ความฝันอีกอย่างก็อยากทำธุรกิจนะ จริงเคยเปิดร้านอาหารแล้วเจ๊งไป แต่ก็ยังไม่เข็ด (หัวเราะ) คือตอนนั้นทำเป็นร้านกาแฟ จริงๆ กาแฟดีมาก แต่เราใหม่เรื่องอาหารมาก มีปัญหาหลายอย่าง ก็เลยขายหุ้นทิ้งไป แต่ตอนนี้อยากกลับมาเรียนรู้ใหม่ แต่ก็คงต้องดูว่าเปิดเป็นแนวไหนดี ต้องดูที่จังหวะแล้วก็ทำเลด้วย
ติดตามบทสัมภาษณ์อาร์มได้ในคอลัมน์ Q&A STAR นิตยสาร campus star no.50