issue53 TOKYO EYE 2020 ดาราเรียนจบนอก พิมฐา ฐานิดา เน็ตไอดอล

พิมฐา ฐานิดา เน็ตไอดอลสาวที่หลงรักในการเดินทาง และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

Home / วาไรตี้ / พิมฐา ฐานิดา เน็ตไอดอลสาวที่หลงรักในการเดินทาง และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล เน็ตไอดอลสาวสุดน่ารัก สดใส ที่หลงรักการเดินทางไปท่องเที่ยว และได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ให้ได้รับบทเรียนครั้งใหม่ พร้อมทั้งยังได้ค้นพบการทำงานในสายบันเทิงที่นำไปสู่ในสิ่งที่ใช่สำหรับตนเอง

พิมฐา ฐานิดา กับการเดินทางตามความฝัน จากสิ่งที่ตนเองชอบ

และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ขอพาย้อนไปอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษของไอดอลสาวสุดน่ารักคนนี้มาให้แฟน ๆ ได้อ่านกัน

พิมฐา ฐานิดา 

ความฝัน… เรียนต่อในต่างแดน

ตอนเด็กก็ฝันเยอะ ตั้งแต่อนุบาลเลย ทั้งความฝันเล่น ๆ ด้วย อยากเป็นนักแข่งรถ นักดับเพลิง แอร์โฮสเตส เพราะพ่อเป็นสจ๊วต แต่ที่ชัดเจนจริง ๆ คือ สัตวแพทย์ค่ะ แต่มันมาตายตรงนี้ (หัวเราะ) ช่วงวัยรุ่นเราเน้นกิจกรรมมาก ไม่ได้ตั้งใจเรียนทางคณิตศาสตร์ เอนจอยกับภาษาอังกฤษมากกว่า แล้วพอดีช่วง ม.ปลาย ได้ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ความฝันเริ่มเปลี่ยนอยากเป็นเชฟ ลองสอบด้านฟู้ดไซน์ติดแล้วด้วย

แต่ด้วยโชคชะตาลองสอบชิงทุนของมหาวิทยาลัย APU ที่ญี่ปุ่น ด้านสิ่งแวดล้อมติดอีก เพราะพอไปเรียนออสเตรเลีย ทำให้เราชอบวิทยาศาสตร์มากขึ้น ก็รู้สึกโอเคตัดสินใจมาเรียนด้านการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมดีกว่า พอมาเรียนจริง ๆ การเรียนที่นี่ไม่ได้เจาะลึกมากนัก อัปเดตกับสถานการณ์ใหม่ ๆ มากกว่าเน้นการจำในตำรา มันก็เลยมีความสนุกมากกว่าความยาก คือมันเริ่มเข้าใจได้ มีจุดที่เราพลิกแพลงได้

พิมฐา ฐานิดา 

การปรับตัว/เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ในรั้วมหาลัยญี่ปุ่น

สังคมที่ญี่ปุ่นเขาจะมีความเป็นตัวของตัวเอง ต่างคนต่างมีทางเดินที่ชัดเจน ไม่ค่อยเกาะกลุ่มกันไปไหน แต่จะแยกกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เหมือนเราต้องเข้มแข็งเราเลือกเอง ไม่มีใครมาซัพพอร์ตแล้วนอกจากตัวเราเอง จริง ๆ ตอนนั้นมีความตั้งใจว่าจะต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่น พูด-อ่าน-เขียน เหมือนคนญี่ปุ่นให้ได้ แต่พอไปถึงจริง ๆ มันก็มีอะไรที่เราสนใจมากกว่านั้น ก็เลยไม่ได้ต่อยอดไปถึงระดับที่ตั้งใจ แต่ก็ถือว่าจบสามปีครึ่ง

พิมฐา ฐานิดา

กว่าจะจบก็ธรรมดาของนักศึกษามีขี้เกียจบ้าง ใกล้จบก็มีสิ่งที่เราต้องทำเสนออาจารย์แบบทำไปร้องไห้บ้าง (หัวเราะ) แต่สุดท้ายได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ และคนรอบข้างที่เชื่อว่าเราต้องทำได้ แล้วก็สู้ต่อ คำว่าจบมันคือสิ่งที่เราต้องทำให้ได้ พอมันจบปุ๊บเรารู้สึกภูมิใจอะ มันคือสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้ แต่ตอนสุดท้ายก็ทำได้

เราได้ความรับผิดชอบกลับมา เนื้อหาชั่วโมงเรียนเป็นอะไรที่จำกัดอยู่แล้ว ครูเขาอยากจะให้ทุกอย่างที่เขารู้ในชีวิตเขา แต่เขาก็ทำได้แค่ผิวเผิน แต่สิ่งที่เราสนใจจริง ๆ เราควรจะไปศึกษาค้นหาเอาเองค่ะ เวลาเจออะไรยาก ๆ อย่าไปคิดว่ามันยาก จริง ๆ คุณก็ทำได้

พิมฐา ฐานิดา

ท่องเที่ยวต่อยอดความฝัน สู่การเป็นเน็ตไอดอลสุดฮอต

ด้วยความที่เราเป็นชอบท่องเที่ยว ออกภาคสนามอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี 2 ก็เริ่มเห็นช่องทางในโซเชียลมีเดียว่าเราสามารถทำรายการเองได้ พอใกล้จบทุกอย่างมันชัดเจนขึ้นว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบ สำหรับหนูการอยู่บนโซเชียลมีเดียก็เหมือนยืนอยู่ในที่สว่าง

ซึ่งมันสร้างความกดดันในชีวิตประจำวัน แต่ทุกวันนี้เราก็ผ่านสิ่งที่ยากมาแล้ว เราก็เข้มแข็งขึ้น เอามาเป็นกำลังใจในการทำงานที่ดีกว่าเดิมต่อไป สิ่งที่เราสื่อออกมาเราก็ต้องกรองต้องระวังเป็นพิเศษ อะไรที่มันไม่สร้างสรรค์กับทั้งตัวเราและคนอื่น อย่างที่ผ่านมามีได้เป็นพรีเซนเตอร์ โฆษณา หนังสั้น แล้วก็พิธีกรรายการท่องเที่ยว

พิมฐา ฐานิดา 

อย่างล่าสุดกับ TOKYO EYE 2020 ที่ญี่ปุ่นเลย บอกตรง ๆ ตอนเด็กเป็นคนชอบอยู่ติดบ้าน แต่พอมีเหตุการณ์ทำให้เราต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ก็ทำให้เราโตขึ้น ก็รู้สึกว่าการได้ท่องเที่ยว เหมือนไปทริปสั้น ๆ

ถ้าเราไปที่ ๆ เราไม่เคยไป มันจะได้อะไรใหม่ ๆ กลับมาเสมอ แล้วสิ่งนั้นมันจะเปลี่ยนตัวเราไม่มากก็น้อย เหมือนมันไม่วันจบสิ้น เราจะได้อะไรกลับมาตลอดเวลา อนาคตก็คงจะเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้ต่อไป โซเชียลมีเดียมันปูทางให้เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำจริง ๆ ซึ่งอาจจะมีสิ่งที่เรารักมากๆ อย่างอื่นที่เราอยากทำอีกในอนาคตก็ได้

พิมฐา ฐานิดา

พิมฐา ฐานิดา

พิมฐา ฐานิดา

รวมภาพ พิมฐา ฐานิดา

เครดิตภาพ IG : @pimtha

บทความแนะนำ

ติดตามคอลัมน์ Interview ได้ใน Campus Star No.53

www.facebook.com/campusstar

campus-star