issue56 What the Duck คณะศิลปกรรมศาสตร์ คู่จิ้นสาววาย นิวเยียร์-กิตติวัฒน์ นิวเยียร์-โบ๊ท เอกการแสดง มศว

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์ จากเน็ตไอดอลสาววาย Y สู่การเป็นนักแสดงดาวรุ่งมาแรง

Home / วาไรตี้ / นิวเยียร์-กิตติวัฒน์ จากเน็ตไอดอลสาววาย Y สู่การเป็นนักแสดงดาวรุ่งมาแรง

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์ สวัสดิมิลินท์ ชื่อนี้หลายคนรู้จักในฐานะเน็ตไอดอลคู่จิ้นสาววาย แต่ก็ยังเป็นโอปป้าขวัญใจสาวๆ อยู่ดี เพราะนอกจากความหล่อแบบเกาหลีๆ แล้ว ความสามารถของหนุ่มคนนี้ก็มีไม่น้อยกับการเป็นนักแสดงหน้าใหม่มาแรงจากซีรีส์ What the Duck ที่จุดเริ่มต้นความฝันเป็นนักแสดง มาจากการได้เข้าไปเรียนอย่างเข้มข้นในเอกการแสดงและการกำกับการแสดง ที่ มศว

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์ เน็ตไอดอลสาววาย

Clip จาก Seeme.me/ch/campusstar

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

เลือกในสิ่งที่ชอบจริงๆ

ตอนจะเอนท์เล็งไว้อยู่สามคณะ คือ รัฐศาสตร์ ศิลปกรรม แล้วก็นิเทศฯ แต่ช่วง ม.6 สอบตรงคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะการแสดง จริงๆ ตอนนั้นแม่มองว่าเรียนการแสดงมันต่อยอดได้ยาก เขาอยากให้เข้ารัฐศาสตร์มากกว่า แต่เราก็คุยกับแม่ว่า เราสอบติดตรงนี้แล้ว มันเป็นสิ่งที่เราชอบ ไม่อยากฝืนตัวเอง แล้วเด็กสมัยนี้ ถ้าเรียนไปไม่มีความสุข มันไม่ชอบ ไม่อยากไปเรียน ก็ซิ่วกันง่ายมาก เพราะฉะนั้น เลือกสิ่งที่เราเรียนแล้วชอบจริงๆ ดีกว่า ก็โชคดี แม่ก็บอกโอเคถ้าอย่างนั้นเอาที่เรียนแล้วสายใจ

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

แต่พอไปเรียนปีแรก แอบสตั๊นเบาๆ ตรงที่คิดว่ามันจะเป็นการเรียนละครทีวี แต่ไปๆ มาๆ เรียนละครเวที  เหมือนเราเข้าใจผิดมาตลอด แล้วละครเวทีต้องเล่นใหญ่ ใช้บอดี้ ใช้พลังงานเยอะมาก แล้วเราคิดว่าเข้าไปจะได้เรียนการแสดงเลย แต่ปี 1 เรียนแต่ทฤษฎีอย่างเดียว ตอนนั้นก็คิดจะซิ่วเหมือนกัน แต่ปรากฏพี่รหัสบอกลองเรียนดูก่อน ปี 2 สนุกนะ ซึ่งพอขึ้นปี 2 มันก็เฮ้ย เริ่มสนุกขึ้นจริงๆ เราเรียนละครเวที ทำให้เราได้เรียนเขียนบท เบื้องหลัง กำกับการแสดง แอกติ้ง เมคอัพ แต่งหน้า รวมถึงเรียนจิตวิทยาด้วย เรียนครอบคลุมมาก แล้วได้เรียนปฎิบัติมากขึ้น ผมชอบปฎิบัติมากกว่าทฤษฎี

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

ความประทับใจที่มีต่อชาวแก๊งค์การแสดง

ในรุ่นผมในเอกมีกันอยู่แค่ 24 คน เราอยู่กันแบบครอบครัว สิ่งสำคัญคือ เพื่อนดี สังคมดี มันก็มีความสุขที่จะเรียน ผมได้เล่นละครเวทีตั้งแต่ปี 1 ได้ทำละครรุ่นตอนปี 3 พอปี 4 ก็ได้ทำธีสิส ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดเหมือนกัน ธีสิสก็คือธีสิส ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ก็เป็นช่วงที่ผมซ้อมละครเวทีทั้งหมดแปดเดือน อย่างผมส่งคาแรกเตอร์ในบทไป ในเรื่องเป็นผู้ชายเลี้ยงผึ้งที่เป็นคนอังกฤษ อยู่ชนบทนอกเมือง ลุคส์ฝรั่งมีหนวดเครา ขายครูไปเยอะมาก ไม่ผ่าน เพิ่งมาเจอคาแรกเตอร์จริงๆ ตอนเทอมสอง ซึ่งอีกสองเดือนละครจะเล่นแล้ว ก็รู้สึกเฟลมาก แต่สุดท้ายก็ผ่านมาโอเคเลยครับ

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

ผมว่าคณะนี้สิ่งที่ดีอันดับแรกคือคุณครูดีมาก เก่งมาก ใครมาเรียนที่นี่บอกเลย เอาความรู้ไปจากเขาเยอะมาก สอนให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เมื่อออกไปนอกโลกแล้วโดนคนด่าก็ไม่รู้สึกว่า เออ โดนด่า เพราะเราอยู่ในคณะที่บอกเลยว่าเหตุและผลสำคัญมาก เราต้องโต้ตอบ เราต้องไฟท์ให้กับงานของเรา การส่งงานไม่ผ่านสองสามรอบเลยเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับที่นี่

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

จากเน็ตไอดอลสาววายสู่การเป็นนักแสดง

จุดเริ่มต้นการเป็นคู่จิ้นของผมกับพี่โบ๊ท (ณัฐพงศ์) คู่เราเป็นคู่ที่ไม่ได้คาดหวังว่าต้องมีชื่อเสียง แต่ไม่รู้ว่ามันคือจังหวะชีวิตมั้งที่พอแฟนคลับให้ความสนใจ มันก็เป็นกระแสขึ้นมา แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเน็ตไอดอล แต่แค่รู้สึกผมเป็นบุคคลที่มีคนติดตามมาก เราก็ต้องเป็นแบบอย่างให้กับสังคมด้วย ทุกวันนี้งานคู่เยอะ แต่หลังๆ ผมก็เริ่มมีงานเดี่ยวเข้ามา เริ่มถ่ายละครซีรีส์ เพราะผมเรียนการแสดงมา ผมก็ไม่อยากทิ้งตรงนี้ไป มันได้เอาไปใช้เยอะมาก ทั้งเรื่องความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเล่นที่มันต้องมาจาก Insideout รู้สึกจากข้างในแล้วถึงแสดงออกมา มันคือโอกาสที่เข้ามา ก็อยากจะทำให้เต็มที่

นิวเยียร์-กิตติวัฒน์

อีกเรื่องก็คือการทำธุรกิจ ผมพบว่าตัวเองชอบด้านการบริหารต่อยอดธุรกิจด้วย ตอนนี้ก็เลยมีธุรกิจชื่อ Mr. fruit เป็นทุเรียนอบกรอบ เป้าหมายอยากให้มัน Success ให้ถึงเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้ แล้วก็อยากมีคาเฟ่เป็นของตัวเองด้วย แต่ก็คงเป็นเรื่องของอนาคตที่กำลังมองเรื่องทำเลกับกลุ่มคนไปก่อน แต่อยากให้เป็นคาเฟ่ที่เด็กๆ เข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันอร่อย ราคาไม่แพง แล้วก็เน้นถ่ายรูปได้ คือจริงๆ ผมเป็นคนไม่ชอบหยุดคิดนะ ชอบต่อยอดความคิดตัวเองตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราไม่กระทำ เราก็ไม่ได้หรอก ต่อให้คุณไปดูดวงสิบหมอดูว่าคุณจะรวย แต่ถ้าคุณไม่ปฎิบัติ คุณก็ไม่มีทางรวยได้ ผมเลยคิดอย่างเดียวว่าเราต้องหาเป้าหมายของเราให้ชัดเจน แล้วลงมือทำ ทุกอย่างมันจะ Success เอง แค่ว่าระหว่างที่คุณเจออุปสรรค คุณก็ต้องอดทนให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเราเอง

 

ติดตามได้ในคอลัมน์ Interview ในนิตยสาร Campus Star No.56

www.facebook.com/campusstar

นิตยสาร Campus Star