เส้นทางดีไซน์เนอร์ ร้านชุดวิวาห์ BUBPHAWEDDING ของคุณนิว พงษ์ศักดิ์

เดือนแห่งความรักกำลังเริ่มต้น ความรักหลายคู่เดินทางมาถึงจุดหมายหนึ่งที่จะมีฝันร่วมกันจนถึงขั้นที่เรียกว่า “แต่งงาน” ความฝันของหญิงสาวหลายๆ คนที่จะได้ใส่ได้ชุดวิวาห์หวานเก๋ในสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง และ “BUBPHAWEDDING” ก็เป็นหนึ่งในร้านชุดวิวาห์ที่เป็นที่รู้จัก ของเจ้าของร้านและดีไซเนอร์หนุ่มผู้มุ่งมั่นอย่าง นิว-พงษ์ศักดิ์ พิมเจริญ ที่เดินทางเข้าสู่เส้นทางการสร้างวิมานให้คู่บ่าวสาวมาไม่น้อยกว่า 13 ปี

เส้นทางดีไซน์เนอร์

INSPIRATION

เส้นทางของร้านวิวาห์ชื่อดังเริ่มต้นจากจุดที่ต้องสานต่อกิจการในครอบครัว ทำให้ลูกชายคนโตของบ้านต้องตัดสินใจที่จะเลือกเรียนต่อโรงเรียนแฟชั่นและการดีไซน์โดยตรง แม้แต่ว่าในช่วงแรกจะมีความใฝ่ฝันที่จะเรียนทางสายนิเทศฯ ก็ตาม แต่ด้วยความที่ได้มีโอกาสคลุกคลีกับงานในสายนี้มาตั้งแต่เด็กๆ บวกกับเมื่อได้ลงมือและเรียนรู้ลงลึกในงานออกแบบเสื้อผ้ามากขึ้นไปอีก ทำให้เขาค่อยๆ ตกหลุมรักงานในแฟชั่นดีไซน์ และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 ปีเทียบเท่ากับการเรียนในมหาวิทยาลัย

IMPORTANT IN A CAREER

“หลังจากเรียนจบ เราก็ลงมาบริหารร้านเต็มตัว และตัดสินใจขยายร้านจากสมุทรปราการมาที่กรุงเทพฯ ด้วย ทำตอนแรกสนุกมาก ได้บริหารจัดการหลายอย่าง ทั้งรับลูกค้า ดีไซน์แบบ ควบคุมขั้นตอนการทำงาน แต่ก็ต้องรักษาคุณภาพของงานมากๆ เพราะลูกค้าแต่งแล้วไม่ได้แต่งอีก ไม่เหมือนร้านอาหารที่ทานแล้วอาทิตย์หน้ามาทานอีกได้ แล้วก็พยายามออกคอลเลกชั่นใหม่ๆ ทุกอาทิตย์ ให้มันทันสมัยตลอดเวลา

ปัญหาที่เจอ ณ ตอนนี้คือลูกค้าจะรู้เยอะขึ้น เพราะตอนนี้ข้อมูลมันเข้าถึงได้หมด ลูกค้าก็จะมีการทำการบ้านมาก่อน สถานที่ก็ต่างกัน ชุดที่ใส่ในงาน OUT DOOR ทะเลหรือสวน ก็ไม่เหมือนชุดแต่งงานในโรงแรม โจทย์สมัยนี้มันค่อนข้างกว้าง เราก็ตามลูกค้าให้ทัน แต่ตลอดที่ทำมา 13 ปี แค่เห็นลูกค้ามาลองชุด เช่าชุด เวลาลูกค้ามาคืนชุดแล้วบอกว่ามีแต่คนชมว่าชุดสวย แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว ลูกค้าบางคนก็เป็นลูกค้าเราทั้งบ้านเลย คือพี่แต่งเสร็จ ก็แนะนำน้องมา เราก็รู้ไซส์ของที่บ้านเขาอยู่แล้ว ส่วนอนาคตที่แพลนเอาไว้ก็อยากจะขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น ให้มีชุดแต่งงานเลือกครบถ้วนทุกไซส์ทุกสีทุกโจทย์ให้มากที่สุด”

TRICK FOR TREAT

“ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาก็จะแค่แนะนำ แล้วก็เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองก่อน ได้แสดงความคิดเห็น อย่าไปยัดเยียดแบบให้ลูกค้า ที่สำคัญอีกอย่างคือการฟิตติ้งแก้ไขชุดให้สมบูรณ์แบบ ที่เราจะเน้นเรื่องตรงนี้มาก เพราะต้องการให้ลูกค้าใส่ชุดแต่งงานที่พอดีที่สุด สวยที่สุด แล้วก็สะอาดใหม่ที่สุด ส่วนเรื่องงานดีไซน์ในร้านก็มาจากทั่วทุกมุมโลก แล้วก็เอาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบ้านเรา แล้วก็ต้องดูด้วยว่าชุดทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเวลายืนข้างกันแล้วแตกต่างกันแค่ไหน เพราะว่าเจ้าสาวไม่ได้สวยคนเดียว เราต้องสวยและหล่อกันทั้งคู่”

THINKING TO CAMPUS

“เด็กรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้มาเปิดร้านกันเยอะนะ บางคนก็โทรมาขอคำปรึกษาเราบ้าง ก็ให้คำแนะนำกันไป แต่ผมว่าอันดับแรกที่ต้องดูเลย คือ ร้านของคุณเป็นร้านที่เช่าชุดแต่งงานมาเปิด หรือว่าคุณเป็นดีไซเนอร์เอง ตัดเย็บ มีทีมงานบริหารจัดการเอง ถ้าเป็นอย่างแรก คุณต้องแข็งแรงกับตัวเองเลย เพราะจะต้องเจอกับอุปสรรคในส่วนที่เราไม่ได้ทำเอง ซึ่งตรงนั้นเราจะแก้ปัญหายังไง แล้วก็กำหนดกลุ่มเป้าหมายของตัวเองด้วยว่าเราจะจับกลุ่มลูกค้าระดับไหน เพราะความรู้ของลูกค้ากลุ่มนั้นๆ จะเพิ่มเข้ามาจากระดับกลุ่มลูกค้าแน่นอน เราก็ต้องพยายามทำเองให้แอ็กทีฟตามด้วย อีกอย่างคือต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า ตกลงชุดว่าราคาเท่านี้ ได้เกรดเท่านี้ ก็ต้องทำไปตามนั้น อันนี้สำคัญนะ เพราะคนจะมองชุดของเราที่ไปแขวนอยู่ข้างนอกจากการใช้วัสดุคุณภาพที่สมน้ำสมเนื้อกับราคานี่แหละ”

ต้องรักษาคุณภาพของงานมากๆ เพราะลูกค้าแต่งแล้วไม่ได้แต่งอีก ไม่เหมือนร้านอาหารที่ทานแล้วอาทิตย์หน้ามาทานอีกได้