ม.มหิดล สายบริหาร อาชีพ

ชี้เป้า 7 ความเชี่ยวชาญในสายบริหาร และสายการตลาดมาแรง ชวนเด็กรุ่นใหม่ อัปสกิลและรีสกิล

Home / วาไรตี้ / ชี้เป้า 7 ความเชี่ยวชาญในสายบริหาร และสายการตลาดมาแรง ชวนเด็กรุ่นใหม่ อัปสกิลและรีสกิล

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) ชี้เป้า 7 ความเชี่ยวชาญในสายบริหาร และสายการตลาดมาแรงครึ่งปีหลัง อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์การตลาด นักวางแผนการเงิน นักการตลาดดิจิทัล พร้อมเตรียมเปิดบ้าน ชวนเด็กรุ่นใหม่ อัปสกิลและรีสกิล ผ่านหลักสูตรปริญญาโท สุดอินเทรนด์จาก CMMU

ชี้เป้า 7 ความเชี่ยวชาญในสายบริหาร และสายการตลาดมาแรง

ดร.กฤษกร สุขเวชชวรกิจ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันการมีความสามารถด้านการบริหาร การจัดการ การวางแผนกลยุทธ์รวมถึงการตลาด ล้วนเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าตัวบุคคลและค่าครองชีพจากการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิม

จากปัจจัยดังกล่าวการเรียนปริญญาโทจึงเป็นทางเลือกสำคัญ ที่คนเจเนอเรชันใหม่ยังความให้ความสนใจเข้าศึกษาต่อเพื่อมุ่งอัปสกิลที่มีอยู่ให้โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะในด้านทักษะการเป็นผู้ประกอบการ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ทักษะที่จำเป็นสำหรับธุรกิจเฉพาะทาง ฯลฯ

7 สายอาชีพที่เป็นที่ต้องการ ของตลาดแรงงาน

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 นี้ มีหลายอาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการ ของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร การจัดการ และการตลาด ซึ่งเป็นสายที่มาแรงตลอดกาลและต้องการบุคลากรที่ครบเครื่อง ทั้งซอฟต์สกิลและฮาร์ดสกิล เพื่อรับมือกับเทรนด์เศรษฐกิจใหม่ๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต ได้แก่

1. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Specialist) ที่ต้องมีความสามารถทั้งในด้านการคัดเลือกคนเข้าทำงาน การพัฒนาบุคลากรให้สามารถผลิตผลงานได้อย่างมีคุณภาพ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานในองค์กรการควบคุมดูแลนโยบายด้านทรัพยากรบุคคลให้ตอบโจทย์องค์กร ดูแลด้านสวัสดิการ รวมถึงดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงาน เพื่อให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุข และอยู่กับองค์กรได้ในระยะยาว

2. นักวิเคราะห์การตลาด (Market Analysis) ที่ต้องเข้าใจตลาด สินค้า และพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำมาวิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูล และนำมาวางแผนทำการตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

3. นักวางแผนการเงิน (Financial Planner) ที่มีความรู้ด้านการเงินอย่างครอบคลุม สามารถให้คำแนะนำการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่องค์กรต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนพร้อมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ

ต่อด้วย 4. นักบริหารและจัดการกลยุทธ์ (Strategic Management) ที่ต้องมีความเข้าใจทุกมิติขององค์กร เพื่อนำมากำหนด และพัฒนาการวางแผนกลยุทธ์ โดยจะต้องมีความสามารถในการเชื่อมโยงกันระหว่างแผนการทำงานและกระบวนการทำงาน เพื่อกำหนดทิศทางองค์กรให้มีการดำเนินงาน ที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

5. นักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) อีกหนึ่งอาชีพยอดฮิตที่หลายองค์กรต้องการตัว เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่บนโลกออนไลน์ ซึ่งต้องมีความสามารถด้านการใช้สื่อออนไลน์ ยิ่งถ้ารู้จักและใช้งานได้หลากหลายสื่อ ยิ่งเป็นที่แย่งชิงในตลาดแรงงาน ที่สำคัญ ถ้ามีทักษะการวิเคราะห์ตลาดที่เฉียบคมแล้ว ยิ่งเพิ่มความได้เปรียบ

6. ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ (Management Consultant) มุ่งเน้นงานด้านการให้คำปรึกษาในเรื่องที่มีความเฉพาะทาง มีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถคิด วิเคราะห์ และวางแผนในการวางระบบ กำหนดนโยบาย คิดกลยุทธ์ หรือแม้แต่การวางโครงสร้างองค์กร

และ 7. ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ที่ในปัจจุบันต้องมีความสามารถในการออกแบบธุรกิจ คิดต่าง รู้จักการสร้างตัวตน สร้างแบรนด์และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แปลกใหม่ ควบคู่ไปกับการมีความคิดเชิงระบบ มีภาวะผู้นำ มองการณ์ไกล ก้าวทันกลธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความรู้ในการลงทุน กล้าเสี่ยง โดยสามารถนำทุกองค์ประกอบมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สินค้าหรือบริการสู่ตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จ

“ปัจจุบันหลักสูตรปริญญาโทมีความจำเป็นอย่างมากในการสร้างทักษะความสามารถที่โดดเด่นและแตกต่างให้กับตัวผู้เรียน เนื่องด้วยในยุคนี้การศึกษาระดับปริญญาตรีถือเป็นระดับมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ได้รับการรับรองกันเป็นจำนวนมากและอาจไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันของบางธุรกิจที่มีความเฉพาะตัว ฉะนั้นหากต้องการเสริมสร้างทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เจาะลึกเฉพาะสาขาหรือสร้างสกิลใหม่ ๆ การศึกษาปริญญาโทจึงตอบโจทย์และเป็นบันไดขั้นสำคัญ ในการก้าวไปสู่โลกแห่งการทำงานที่ได้ทั้งผลตอบแทนสูง และมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี

นอกจากนี้ CMMUยังเล็งเห็นถึงเทรนด์การศึกษาตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning ที่ต้องมีการปรับตัว เรียนรู้ตลอดเวลา และเรียนรู้ไม่สิ้นสุดจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสด้วยการสร้างสุดยอดหลักสูตรที่ถูกออกแบบให้ทันโลก ทันเหตุการณ์ สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ทำให้ผู้เรียนทุกคน มีความโดดเด่นและแตกต่างด้วยทักษะขั้นสูงในสายงานบริหารและเป็นที่ต้องการของตลาด”

CMMU พร้อมเดินหน้าส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ให้ผู้ที่สนใจเลือกเรียนได้ในหลากหลายสาขาตามความชอบและความถนัด ทั้งหลักสูตรไทย หลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตรอินเตอร์ ออนไลน์ หลักสูตรไทย ประกอบด้วย

สาขาการจัดการธุรกิจ (BM) สาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม (EI) สาขาทุนมนุษย์และการจัดการองค์กร (HO) สาขาการตลาด (MK) สาขาการเงิน (FN) สาขาการจัดการและกลยุทธ์ (MS) และสาขาการจัดการธุรกิจสุขภาพ (HBM) หลักสูตรนานาชาติ ซึ่งสามารถเลือกสาขาที่สนใจได้หลังจากสมัครเข้ามาเป็นนักศึกษาแล้ว ได้แก่ สาขา Corporate Finance (CF) Entrepreneurship Management (EN) General Management (GM) Healthcare & Wellness Management (HWM) Marketing and Management (MM) และ Double Degree International Management (GMDD)

นอกจากนี้ ยังมี หลักสูตรอินเตอร์ ออนไลน์ ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาแต่คุณภาพเหมือนเรียนออนไซต์ ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความเป็นอิสระและกำหนดเวลาเรียนได้ด้วยตนเอง ดร.กฤษกร กล่าวเพิ่มเติม

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลหลักสูตรเพิ่มเติมได้ในงาน CMMU Open House พร้อมเจาะลึกพูดคุยกับคณาอาจารย์ ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อจากแต่ละสาขาที่จะมาช่วยตอบทุกข้อสงสัย และแนะแนวเส้นทางการเดินหน้าสู่อาชีพในฝัน

ในวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 ณ อาคารมิว (ตึก CMMU) วิภาวดี-ดินแดง สำหรับหลักสูตรนานาชาติและหลักสูตรออนไลน์ นานาชาติ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป ส่วนหลักสูตรไทยสามารถ
เข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://admission.cm.mahidol.ac.th/onlineadmission/link/op/

ดร.กฤษกร สุขเวชชวรกิจ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล