การประกวด ประกวดเรียงความ เรียงความ

ฮีโร่ในใจของเยาวชนไทย ที่ชนะการประกวดเรียงความ ธนาคารไทยเครดิตฯ

Home / กิจกรรม / ฮีโร่ในใจของเยาวชนไทย ที่ชนะการประกวดเรียงความ ธนาคารไทยเครดิตฯ

ฮีโร่ในความคิดของคุณเป็นเช่นไร ต้องมีพลังวิเศษกอบกู้โลกใช่หรือไม่ แต่สำหรับเยาวชนบุตรหลานพ่อค้าแม่ค้า ที่ชนะการประกวดเรียงความ ชิงทุนการศึกษาจำนวนรวมกว่า 1,000,000 บาท ในโครงการ “คิดเพื่อน้อง บ่มเพาะลูกไม้ใต้ต้น” ปีที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “ฮีโร่ของฉันอยู่ในตลาด” ซึ่งจัดโดย ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ฮีโร่ของพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา เป็นพ่อแม่หรือยายที่ทำงานหนัก เพียงต้องการให้คนในครอบครัว และเด็กๆ เหล่านี้ได้มีการศึกษาที่ดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งได้มีพิธีประกาศและมอบรางวัลทุนการศึกษา ให้แก่ผู้ชนะตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาถึงอุดมศึกษาทั่วประเทศ ณ ธนาคารไทยเครดิตฯ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก

ฮีโร่ในใจของเยาวชนไทย ที่ชนะการประกวดเรียงความ ธนาคารไทยเครดิตฯ

วิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ธนาคารไทยเครดิตฯ เข้าใจถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อค้าแม่ค้า ที่ต้องทำงานหนักเพื่อหารายได้มาจุนเจือในครอบครัว โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของลูกๆ จากเรียงความกว่า 900 เรื่อง ที่ส่งเข้ามาประกวดในโครงการ “คิดเพื่อน้อง บ่มเพาะลูกไม้ใต้ต้น” ชิงทุนการศึกษา โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “ฮีโร่ของฉันอยู่ในตลาด”

ได้สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ต้องดิ้นรน เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น มีหลายปัญหาที่ใครไม่เห็น แต่เราเห็น ตอกย้ำจุดยืนของธนาคาร ภายใต้แนวคิด “ทุกคนคือคนสำคัญ” จึงอยากมีส่วนร่วมในการแบ่งเบาภาระหลัก และสนับสนุนด้านทุนการศึกษา โดยมีความเชื่อว่า การศึกษาที่ดีจะเป็นพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่ธนาคารฯมุ่งมั่นสนับสนุนลูกค้าให้สามารถเติบโตทางธุรกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี”

ด้าน มร.รอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ธนาคารมอบรางวัลให้แก่เยาวชนโดยให้คุณค่าและชื่นชมเด็กนักเรียน นักศึกษาที่ช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานในขณะที่ต้องตั้งใจเล่าเรียนหนังสือด้วย โดยต้องเสียสละเวลาของตัวเองและมีความกล้าหาญ เป็นกำลังเสริมให้กับพ่อแม่ในยามพ่อแม่ลำบาก และรู้คุณค่าของอาชีพบิดามารดา โครงการนี้เป็นการปลูกฝังค่านิยมให้เยาวชนเห็นความสำคัญของการศึกษาและเห็นคุณค่าของความพากเพียร อดทน และภาคภูมิใจต่อผู้มีพระคุณที่มีอาชีพค้าขาย”

ส่วนหนึ่งของเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวดเรียงความในโครงการฯ จากจำนวนกว่า 900 เรื่องที่ถูกส่งเข้ามา โดย ด.ญ.ศรสวรรค์ แซ่ลิ้ม อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเยาวลักษณ์วิทยาธนบุรี เผยถึงคุณแม่ซึ่งเป็นฮีโร่ของเธอเช่นกันว่า “ฮีโร่ในใจหนูคือ คนที่แข็งแกร่ง ทำทุกอย่างช่วยเรา และแม่เป็นแบบนั้น แม่เป็นฮีโร่ของหนู ตั้งแต่จำความได้ เห็นแม่ทำทุกอย่าง เพื่อดูแลหนูและพี่อีก 2 คน ทั้งทำกับข้าวแต่เช้า ไปส่งที่โรงเรียน แล้วค่อยไปขายรองเท้า หนูจะไม่ดื้อ ทำตามที่แม่สอน โตขึ้นหนูอยากเป็นครูสอนภาษาไทย เพราะชอบ เรียนทุกครั้ง สนุกทุกครั้ง”

น.ส.วริศรา วิเศษศิริ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช บางเขน ที่คุณยายเป็นฮีโร่ของเธอ โดยเผยว่า “ฮีโร่ของเรา คือ คนที่ดูแล ช่วยเหลือ ซับพอร์ตเราทุกอย่าง ยายเป็นฮีโร่ของเพชร แค่ขายข้าวแกงก็เหนื่อยแล้ว ยายขายต้มเลือดหมูและโจ๊ก เพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงเรามากขึ้น บ้านเราอยู่กัน 3 คน ยาย แม่และหนู แต่แม่ จะกลับมาช่วงวีคเอนด์ เพราะทำงานใจกลางเมือง หนูมีเป้าหมายที่จะสอบเป็นพยาบาลทหารอากาศ เป็นข้าราชการอาชีพที่มั่นคง รู้สายวิชาชีพ มาดูแลยายและแม่ หรือเรียนต่อวิศวกรรมไฟฟ้า เพราะชอบเรียนฟิสิกส์ ชอบคำนวณค่ะ”

น.ส.สตรีรัตน์ บุญนำ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพสุวรรณภูมิ เผยว่า “ลักษณะของผู้ที่จะเป็นฮีโร่ได้ ต้องแข็งแกร่ง อดทน มุ่งมั่น ซึ่งแม่หนูมีคุณสมบัตินี้ทั้งหมด แม่ขายอาหารตามสั่งค่ะ สู้ชีวิต สู้งานมาก และเป็นผู้ให้เสมอ ตอนเด็กหนูอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัด โดยมีแม่ทำงานในกรุงเทพฯ และส่งเงินกลับไปให้เรียน จนเข้ามหาวิทยาลัยถึงได้มากรุงเทพฯ และอยู่ดูแลช่วยแม่ขายของ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันมาก แต่หนูก็รักและทำตามที่แม่สอนทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของความกตัญญูต่อตาและยาย เพราะเขาเป็นคนดูแลหนูตั้งแต่เด็ก อนาคตหากเป็นไปได้ หนูอยากสานต่อธุรกิจของแม่ ทำเป็นร้านอาหารดีๆ มีที่ทำมาหากินที่เป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่ขายของ เพราะทุกวันนี้ร้านของแม่เป็นร้านรถเข็นที่อยู่ริมถนนค่ะ

จะเห็นได้ว่าฮีโร่ในที่นี้อาจไม่ได้มีพลังวิเศษ แต่เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นฮีโร่ในสายตาของลูกหลานพวกเขาเอง ที่พร้อมจะทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยเหลือให้คนในครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้ว่าความตั้งใจนี้จะไม่มีใครเห็น แต่สำหรับไทยเครดิตแล้ว ใครไม่เห็น เราเห็น ทุกคนคือคนสำคัญ Everyone Matters