เว็บไซต์ Jobthai.com ได้ทำการรวบรวมฐานข้อมูลจากองค์กร ที่มาลงประกาศบน Jobthai ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา (ปี 2560) เพื่อนำมาวิเคราะห์และคาดการณ์เรื่องสถานการณ์ ความต้องการแรงงานไทยทั่วประเทศ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งจากการสรุปข้อมูลพบว่า จังหวัดที่มีอัตราความต้องการแรงงานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
5 อันดับ จังหวัดที่ต้องการแรงงานเพิ่มสูงสุด
1.กรุงเทพมหานคร
จำนวน 45,752 อัตรา คิดเป็น 52.70% จากจำนวนงานทั้งหมดทั่วประเทศ โดยอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ งานขาย 5,728 อัตรา งานธุรการทั่วไป 1,420 อัตรา และงานบัญชี-การเงิน 806 อัตรา
2.สมุทรปราการ
6,770 อัตรา คิดเป็น 7.80% จากจำนวนงานทั้งหมดทั่วประเทศ โดยอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ งานขาย 672 อัตรา งานเทคนิค 311 อัตรา และงานผลิต-โรงงาน 288 อัตรา
3.ชลบุรี
5,211 อัตรา คิดเป็น 6.05% จากจำนวนงานทั้งหมดทั่วประเทศ โดยอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ งานควบคุณคุณภาพ 280 อัตรา งานเทคนิค 226 อัตรา และงานวิศวกรรมไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิค/สื่อสาร 102 อัตรา
4.ปทุมธานี
3,860 อัตรา คิดเป็น 4.40% จากจำนวนงานทั้งหมดทั่วประเทศ โดยอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ งานขาย 262 อัตรา งานช่างไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิค/สื่อสาร 204 อัตรา และงานซ่อมบำรุง 143 อัตรา
5.สมุทรสาคร
2,769 อัตรา คิดเป็น 3.10% จากจำนวนงานทั้งหมดทั่วประเทศ โดยอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ งานขาย 277 อัตรา งานผลิต-โรงงาน 236 อัตรา และงานระดับหัวหน้า/ผู้จัดการ/ผู้บริหารด้านผลิต-ควบคุมคุณภาพ 182 อัตรา
อาชีพที่ตลาดต้องการ คือ..
งานขาย งานวิศวกรรม งานเทคนิค และงานผลิต-โรงงาน
งานขาย ยังคงเป็นอาชีพที่มีความต้องการแรงงานสูงถึงกว่า 8,000 อัตรา เนื่องจากเป็นสายงานที่มีความสำคัญและสามารถทำรายได้ให้กับองค์กร ดังนั้นตำแหน่งงานดังกล่าวจึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอยู่ตลอดเวลา
รวมถึง งานวิศวกรรม งานเทคนิค และงานผลิต-โรงงาน ก็ยังเป็นตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูงเช่นกัน โดยมีความต้องการแรงงานจำนวนรวมกว่า 1,900 อัตรา สืบเนื่องจากปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ของจังหวัดที่มีความต้องการแรงงานสูง อันได้แก่ สมุทรปราการ ชลบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก
เจาะลึกด้านงานขาย
งานขาย สายงานที่มีความต้องการแรงงานสูงที่สุด โดยได้สรุปทักษะหรือคุณสมบัติพื้นฐาน ที่สำคัญไว้ดังนี้
1. มีทักษะในการสื่อสารและเจรจาต่อรอง
2. สามารถทำงานเป็นทีมได้
3. สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
4. มีบุคลิกภาพที่ดี
5. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เช่น Microsoft Office ได้ ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรใช้พิจารณารับบุคลากรเข้าทำงานในสายงานดังกล่าว
ที่มา นสพ.ข่าวสด และ Jobthai.com