มีการจัดอันดับกันมาทุกปี สำหรับการจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกในด้านการศึกษา เหมาะแก่การไปเรียนต่อเป็นที่สุดค่ะ และในปีนี้ 2016 ก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วค่ะ ว่าเมืองในประเทศไหนบ้างจากทั่วโลก ที่เข้ามาติดอันดับกันบ้าง ซึ่งก็เป็นไปตามคาดค่ะ เพราะแชมป์เก่าอย่างเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยังสามารถครองแชมป์ได้อีกหนึ่งสมัย และในอันดับอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงกันหลายเมืองเลยค่ะ
จัดอันดับ 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา
Quacquarelli Symonds หรือ QS จากประเทศอังกฤษ ได้ทำการจัดอับดับและประกาศผลการจัดอันดับเมืองน่าเรียนสำหรับนักศึกษาที่สุดในโลก ประจำปี 2016 หรือ QS Best Student Cities 2016 ออกมาแล้วค่ะ ผ่านทางเว็บไซต์ topuniversities.com จะมีเมืองไหน? ประเทศไหน? ติดเข้ามาใน 10 อันดับแรกบ้าง? มาอ่านรายละเอียดกันเลยค่ะ
โดยมีเกณฑ์ในการประเมินประจำปี 2016 : 5 ข้อดังนี้
1. University rankings 100 คะแนน
2. Student Mix 100 คะแนน
3. Desirability 100 คะแนน
4. Employer activity 100 คะแนน
5. Affordability 100 คะแนน
อันดับ 10 โซล (Seoul) ประเทศเกาหลีใต้
เป็นอีกหนึ่งปีที่ กรุงโซล จากประเทศเกาหลีใต้ ติดอยู่ในอันดับ Top10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ประจำปี 2106 และยังคงตำแหน่งเดิมจากปี 2015 โดยมีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับโลกทั้งหมด 18 แห่งด้วยกัน ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดคือ “Seoul National University” อยู่ในอันดับที่ 36 ของโลก แต่โซลก็ยังคงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงติดอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลกเลยทีเดียว
อันดับ 9 เบอร์ลิน (Berlin) ประเทศเยอรมนี
เยอรมนี หลังจากที่หลุดจากอันดับ Top10 ของโลกไปเมื่อปี 2014 ครั้งนี้เมืองเบอร์ลินกลับมาอีกครั้งในอันดับที่ 9 โดยมีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกด้วยกันทั้งหมด 3 แห่ง แล้วยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 20 และเป็นเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดติดอันดับ 12 ของโลกอีกด้วย สิ่งสำคัญที่ช่วยในการส่งเสริมให้เบอร์ลินกลายเป็นเมืองแห่งการศึกษาก็คือ มหาวิทยาลัยของรัฐบาลส่วนใหญ่จะไม่เก็บค่าเล่าเรียน ทั้งนักศึกษาในท้องถิ่น และนักศึกษาชาวต่างชาติ (ยกเว้นหลักสูตรปริญญาโทบางส่วนเท่านั้น)
อันดับ 8 ฮ่องกง (Hong Kong) ประเทศจีน
ฮ่องกง เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และมีคะแนนดัชนีค่าครองชีพของเมอร์เซอร์ (Mercer cost of living) แพงที่สุดในโลก อยู่ในอันดับที่ 2 นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย เพราะประชากรทุกคนเคารพกฎหมาย อยู่ในอันดับที่ 21 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และเป็นเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดอันดับที่ 15 ของโลก
อันดับ 7 มอนทรีออล (Montréal) ประเทศแคนาดา
เมืองมอนทรีออล จากประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่สวย บรรยากาศดี การศึกษาเยี่ยม และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่อันดับที่ 14 ของโลก มีคะแนนโดดเด่นในเรื่องของความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษาต่างชาติ ทำให้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง และมอนทรีออลยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่มีประชากรพูดภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดในโลก รองจากปารีส
อันดับ 6 สิงคโปร์ (Singapore)
ประเทศสิงคโปร์ กลับเข้ามาสู่ Top10 อีกครั้งในปี 2016 หลังจากที่หลุดตำแหน่งไปเมื่อปี 2015 มีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในการจัดอันดับโดย QS เพียง 3 แห่ง และ “National University of Singapore” ติดอยู่ในอันดับที่ 12 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 2016 นอกจากนี้ประเทศสิงคโปร์ยังมีความโดดเด่นในด้านเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลก (อยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก) นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงอันดับที่ 11 ของโลกด้วยนะ
อันดับ 5 ลอนดอน (London) ประเทศอังกฤษ
เมืองลอนดอน ในปี 2016 ตกลงมาจากอันดับที่ 3 จากปี 2015 มาอยู่ในอันดับที่ 5 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ได้คะแนนรวม 384 คะแนน มีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับโลกมากที่สุดถึง 19 แห่งด้วยกัน “UCL (University College London)” ติดอยู่ในอันดับที่ 7 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 2016 และเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดอยู่ในอันดับที่ 14 ของโลกค่ะ
อันดับ 4 ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์เมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ที่สามารถคงอันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาปี 2016 ไว้ได้ และยังเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 7 เมืองยอดฮิตที่เหล่านักเรียน นักศึกษานิยมไปเรียนต่อมากที่สุดในโลก อันดับที่ 3 รองจากอเมริกาและอังกฤษ ออสเตรเลียยังมีคะแนนจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International score) เมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอยู่ในอันดับที่ 9
อันดับ 3 โตเกียว (Tokyo) ประเทศญี่ปุ่น
ในปีนี้ตกเป็นของ เมืองโตเกียว จากประเทศญี่ปุ่น ที่ไต่อันดับขึ้นมาจากปีที่แล้วในอันดับที่ 7 ขึ้นมาสูงสุดในอันดับที่ 3 มีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกจากการจัดอันดับโดย QS ทั้งหมด 13 แห่งด้วยกัน “University of Tokyo” ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอันดับที่ 39 และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 15 แม้จะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกก็ตาม แต่ถ้ารวมกับหลายๆ องค์ประกอบแล้ว โตเกียวก็ยังเป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาค่ะ
อันดับ 2 เมลเบิร์น (Melbourne) ประเทศออสเตรเลีย
เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ ในปี 2016 ยังคงอยู่ในอันดับที่ 2 จากปี 2015 ด้วยคะแนน 398 คะแนน เมลเบิร์นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษาและเมืองแห่งศิลปะ บรรยากาศดี มีชายหาด แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย อันดับ 1 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (Global Liveability Ranking) ประจำปี 2015 และก็ยังเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอันดับที่ 185 อีกด้วยค่ะ
อันดับ 1 ปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส
อันดับหนึ่งเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษายังคงตกเป็นของ “นครปารีส” ดินแดนแห่งแฟชั่น น้ำหอม และหอไอเฟลอันสุดคลาสสิค แชมป์เก่าหลายสมัยที่ยังไม่มีเมืองไหนโค่นลงได้ โดยในปี 2016 ปารีสได้ไปทั้งหมด 404 คะแนน มีจำนวนมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับโดย QS ทั้งสิ้น 18 แห่ง และมหาวิทยาลัย “Ecole normale supérieure” ติดอันดับโลกสูงสุดในอันดับที่ 23 และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (Global Liveability Ranking) อันดับที่ 29 เมื่อปี 2015 อีกด้วย
10 อันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาในการไปเรียนต่อ ปี 2016
ที่มาจาก : www.topuniversities.com , http://www.wegointer.com
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
>> 15 ประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก
>> 9 ประเทศ ที่การศึกษาเป็นเลิศ แต่คุณอาจไม่เคยรู้
>> 13 มหาลัยไทย ติดอันดับมหาลัยชั้นนำของเอเชีย “QS University Rankings: Asia 2016”