สถานที่ต่างๆ มักจะมีความเชื่อที่ถูกเล่าต่อๆ กันมา ไม่เว้นแม้แต่ตามมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงบ้าง เรื่องเล่าบ้าง หรือเป็นเรื่องจริงปนโม้ แต่งให้โอเวอร์บ้างก็มี ซึ่งในแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเรื่องเล่า ความเชื่อที่แต่งต่างกัน หรือบางมหาวิทยาลัยก็อาจจะคล้ายๆ กัน อย่างเช่น ในครั้งนี้เราก็ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับความเชื่อ กิจกรรม ประเพณีต่างๆ ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมาฝากน้องๆ กันจ้า
เรื่องเล่าน่ารู้ ม.หอการค้าไทย
เรื่องน่ารู้ประจำมหาวิทยาลัย
ความรู้ทั่วไป : ม.หอการค้าไทย ตั้งอยู่ถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนถึงแยกดินแดงเล็กน้อย สังเกตได้ง่ายหน้าปากซอยจะมี วิทยาลัยฮิวโก้ (งงละสิ ลองไปหาชื่อนามสกุลฮิวโก้ดู) ขนาบอีกข้างด้วย ช่อง 11 และวิทยาลัยแผนการทหาร (National Defence College of Thailand, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร) จากป้ายรถเมล์เดินเข้าไปใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที ถ้านั่งมอเตอร์ไซด์เข้าไปก็ 10 บาท 1 นาที ภายในมหาวิทยาลัยค่อนข้างแคบ แต่ข้อดีก้คือ เวลาเดินไปเรียนจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งไม่ไกลกันเท่าไร นัดเพื่อนก็เจอกันง่าย หลงยาก แอบไปมีกิ๊กก็มักจะถูกจับได้เสมอ เพราะมหาวิทยาลัยมันแคบหลบหน้ากันไม่ได้
การทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย
1. นักศึกษาตั้งแต่รหัส 50 ลงมา (50,49,48..) จะต้องทำกิจกรรมระดับมหาลัย 4 อย่าง และระดับคณะอีก 4 อย่าง (รวมเป็น 8 กิจกรรม) ถึงจะสามารถขอจบได้ เคยพบมาแล้วสำหรับคนที่ไม่ยอมทำกิจกรรม เรียนจบไป แล้วยังต้องกลับมาตามกิจกรรม น่าอนาถจิตจริงๆ กิจกรรมระดับมหาลัย ได้แก่
- – ค่ายลูกแม่ไทรจิตใจงาม
- – เข้าเชียร์กีฬาภายนอกมหาลัย
- – เลือกตั้งสโมสรนักศึกษา (สำหรับรหัส 51 ขึ้นไป ต้องเลือกอย่างน้อย 3 ครั้งใน 4 ปี)
- – อบรมพัฒนาบุคลิกภาพ
2. กิจกรรมระดับคณะ คือ กิจกรรมทุกอย่างนอกเหนือ 4 อย่างด้านบน ในมหาลัยก็จะมีหน่วยงานต่างๆ ที่จัดกิจกรรม เช่น คณะต่างๆ, ชมรม, สโมสรนักศึกษา เป็นต้น กิจกรรม 4 อย่างที่ต้องทำ มันจะมีหมวดของกิจกรรมอยู่ อย่าทำหมวดซ้ำกันนะ เช่น งานวันพ่อกับงานวันแม่ มันอยู่ในหมวดคุณธรรมจริยธรรม ถ้าทำสองอันก็นับเป็นหนึ่ง พิเศษสำหรับน้องใหม่รหัส 51 ขึ้นไป จะมีการนับช่วงโมงกิจกรรม คือแต่ละกิจกรรมจะมีจำนวนชั่วโมงของมันอยู่ ซึ่งคาดว่าถ้าทำแค่ 4 อย่างคงไม่ครบแน่ อย่างน้อยก็ต้องทำซะ 6 อย่างถึงจะครบชั่วโมง ถือเป็นวิบากกรรมของรุ่นน้องจริงๆ
เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ : ถ้าคุณมีเพื่อนอยู่ในชมรม หรือสโมสรนักศึกษา แอบฝากชื่อไปเพิ่มในกิจกรรมได้สบายๆ แต่ยังไงก็หัดเกรงใจกันหน่อยนะ ถ้าไม่ลำบากก็ทำกิจกรรมไปเถอะ
การแต่งตัวของนักศึกษาในมหาลัย
3. นักศึกษามหาลัยนี้ในเดือนแรก ตอนเพิ่งเข้าปีหนึ่งหมาดๆ มักแต่งกายตรงระเบียบเป๊ะๆ เสื้อยัดในกางเกงอย่างเรียบร้อย การแต่งกายผิดระเบียบมีผลคือ หักคะแนน ซึ่งโดนหักแค่ 3-4 ครั้ง ก็เจอพักการเรียนเอานะคะ
4. ผู้ชาย มักแต่งกายเซอร์ๆ เนคไทคืออะไรไม่รู้จัก จะรู้จักก็แค่ตอนต้องเข้าห้องสอบ เสื้อ ไม่เคยอยู่ในกางเกง รองเท้า ลากแตะมาเรียนตลอด ส่วนกางเกงยีนส์ เป็นที่นิยมมาก และไม่ชอบซักซะด้วยถือคติเกรียนจริงเค้าถึงกล้าทำ
5. ผู้หญิง มักใส่เสื้อบางๆ รัดติ้วๆ กระดุมปริๆ ชนิดที่ว่าแค่เดินผ่านก็เห็นบราเห็นนมหมดแล้ว กระโปรงก็ต้องสั้นๆ ผ่าเยอะๆ รัดติ้วๆ ชนิดที่ว่าแค่เดินบนพื้นไม่ต้องขึ้นบันได คุณก็มองเห็นกกน. ของคุณเธอได้ ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ต่างจากเมื่อก่อน บางเหตุผลก็ว่าใส่เพื่อโชว์ขาที่อวบอิ่มของหล่อน ที่ใหญ่จนใส่กระโปรงคลุมไม่ได้นี่เอง
เคล็ดไม่ลับ : กองวินัย (โรโบคอป) จะมาตรวจการแต่งกายหนักๆ ก็แค่ช่วงเดือนแรกของการเปิดการศึกษาของปี จะมีจุดตรวจตรงประตูหน้ามอ หลังมอ และประตูรถตู้ โดยจะตรวจเฉพาะแค่ช่วงเช้าเท่านั้น (7.30-10.00 น.) โดยหากใครแต่งกายถูกระเบียบทุกอย่าง ยกเว้นเอาเสื้อใส่ในกางเกง ก็สามารถเอาเสื้อใส่ในกางเกงแล้วเดินผ่าน แล้วเอาออกได้เลยเพียงแค่สองก้าวหลังจากเดินผ่าน
และเดี๋ยวนี้มีการพัฒนาขั้นเทพต่อมาเป็นลำดับโดยการปิดประตูตึก 7 ฝั่งนึงเพื่อให้เดินเข้าประตูเดียว และจะโดนจับแบบงงๆ เพราะว่าบางคนจะงงว่าทำไมประตูถึงปิด เพราะไม่เคยปิดแบบนี้ ในระหว่างที่ไม่ทันตั้งตัวก็จะโดนจับทันที อีกจุดตรงทางเดินหลัง Food Fair มันจะมีทางเลี้ยวเป็นมุมหักซอก กองวินัยก็จะยืนดักอยู่อีกด้านโดยนักศึกษาจะมองไม่เห็น พอเลี้ยวก็จะเจอเลย เป็นมุขของอาจารย์ผู้มากประสบการณ์ที่เค้าสร้างสรรค์ อีกที่ก็ตามตึกที่ต้องทำการกู้เพื่อการศึกษา หรือสำนักงานโรโบคอบ และจุดจำหน่ายชีต (ขาเข้า)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย รอบรั้วมหาวิทยาลัย (ขำขำนะ)
6. ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ท้องจะผูก หนักแค่ไหน คุณสามารถเดินจากตึกหน้า มอไปหลังมอ ได้โดยไม่โดนฝนสักแหมะ เพราะแต่ละตึกติดกันหมดและมีทางเชื่อมตึกมากมาย หากศึกษาเส้นทางอย่างละเอียดแล้วละก็จะสามารถย่นระยะเวลาในการเข้าห้องเวลาไปสายได้ หรือจะยืดเวลาเพื่อที่จะเข้าไปเรียนวิชาห้องรวมสายๆได้ตามต้องการ อาจจะอ้างว่าติดทางเชื่อมระหว่างตึกอยู่ค่ะ เพราะไม่รู้จะเลือกทางไหนสับสน อิอิ
7. ร้านน้ำปั่นหน้ามอ จะมีน้ำปั่นทุกชนิด มีแม้กระทั่งยาคูลปั่น แถมใส่ท้อปปิ้งได้อีก แนะนำว่า ห้ามสั่ง!! ยาคูลโอริโอ้เด็ดขาด
8. เวลาเดินหน้ามอ ถนนจะแคบมาก พยายามอย่าเดินบนถนนถึงแม้ฟุตบาทคนจะเยอะก็ตาม เพราะลูกคนรวยในมอนี้มักขาดน้ำใจ มันจะบีบแตรไล่เอาง่ายๆ แต่ก็รอให้ชนอยู่ เพราะอาจได้กำไรหลายตังอยู่ 555+
9. อยากรู้ว่าตอนนนี้รถยี่ห้อไหนมาแรงให้สังเกตดูจากรถรอบๆ มอได้เลย ช่วงฮอนด้าแจสมาแรงจะพบฮอนด้าแจสจอดอยู่เต็มไปหมดครบทุกสีเลย ช่วงมาสด้าสามออกใหม่ๆ ก็เช่นกันไม่ต้องพูดถึง มีแต่มาสด้าสามสีดำเต็มไปหมด ดูเกร่อพอๆ กับซาเล้งไปเลยจะว่าไปช่วงปี 45 – 46 ที่ bmw มาแรง ที่นี่ไม่ยักกะมี
10. ร้านทำผมหาง่ายมาก คิดจะตัดผมก็ตัดๆไปเลย เหมือนๆ กันทุกร้าน
11. ร้านเน็ตก็เพียบ แต่ส่วนมากคนเลือกร้านใกล้มอ เพราะขี้เกียจเดิน
12. ร้านเช่าหนังสือ เข้าไปเช่าไม่ต้องจ่ายตังค์แอบยืนอ่านระหว่างเลือกเขาก็ไม่ว่าอะไรตราบใดที่ไม่นั่งอ่าน ^^
13. ร้านดวงกมล มีบุญคุณมากมายกับคนบางคน เพราะว่าเค้าจะคอยเตือนหรือถามเสมอถ้าซื้อชีทน้อยก็จะถามว่ายังขาดชีทตัวไหนอีกหรือป่าวคล้ายๆ กับรับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยคะ หรือ วิชาปี 4 ของคณะบริหารที่ต้องทำวิจัย ส่งหลายร้อยชุดพี่เค้าก็ใจดีคอยเตือนว่าอย่าลืมส่งตัวงานวิจัยนะ (นอกจากเล่มรายงาน) เพราะถ้าลืมคงจะไม่จบแน่นอน งี้วันรับปริญญาต้องมาถ่ายรูปกับผู้มีพระคุณนะเนี่ย (น่ารักจริงๆ เลย ^0^)
14. ถ้าบ้านรวยมีรถขับ ขอแนะนำว่าอย่าขับไปจะดีกว่า เพราะรถติดมากหาที่จอดก็ยาก ในกรณีฐานะปานกลางแต่มีรถ ก็ไม่แนะนำเพราะรถติดหาที่จอดยาก แถมแพงอีกต่างหาก อาจจะเป็นการลดฐานะตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนผู้มีฐานนะยากจนไม่ต้องอายที่จะขึ้นรถเมล์ เพราะเพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะมาก แต่ถ้าอยากได้ที่จอดรถในมหาลัยต้องมาตอนเช้าๆ เลยจิบอกให้ (ที่ไม่ใช่ในตึกจอดรถ)
เชื่อหรือไม่?
15. ตรงหน้าตึก 5 จะมีทางเดินเข้าไปด้านหลังไปสู่โรงอาหารเก่าตึก 5 ตรงหัวมุมนั้นจะมีป้ายเขียนว่า อาหารอิสลามอุสนา พร้อมกับกระดิ่งวัวหนึ่งอัน พอสั่นกระดิ่งจะมีเสียงลึกลับถามออเดอร์พอสั่งเสร็จแล้ว รอสักพักจะมีอาหารดังกล่าวว่าอยู่บนขอบกำแพงพร้อมเรียกเก็บเงิน เชื่อกันว่ามันคือกำแพงอาหารตามสั่ง ยกเว้นห้ามสั่งหมูนะ (หากจะอธิบายให้ง่ายเข้าไปอีกร้านอาหารนี้อยู่ตรงข้ามตึก 21 นั่นเอง)
16. ซุ้มคณะเศรษฐศาสตร์จะติดกับรั้วมหาลัย ตรงนั้นก้มีร้านอาหารตามสั่งเช่นกัน อยากรู้ว่าขายผ่านลูกกรงกันยังไงต้องไปลองเลยจ้า
17. เมื่อก่อนทุกคณะจะเรียน วิชาคอมพิวเตอร์ (Pascal,C+)ต้องไปเรียนที่ตึกวิศวะเท่านั้น (แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจนะว่าเปลี่ยนที่เรียนแล้วหรือยัง)
18. เมื่อก่อนที่ตึก 5 เคยมี Autocad Training Center(ATC) เป็นของตัวเองด้วย ปัจจุบันเป็นห้องพักผ่อนของเด็ก ป.โทไปแล้ว
19. เจ้าแม่ไทรทอง ไม่ได้ สถิตย์ ที่ต้นไทรข้างตึก 10 แล้ว มีการทำพิธีขุด “แก่น” ย้ายไปที่ศาลหน้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ
20. หอพักข้าง 7-11 หน้ามหาวิทยาลัย เมื่อก่อนเคยเป็นโรงอาหารขนาดใหญ่ ชื่อ “โรงเขียว” มีการแทงบอลกันโจ๋งครึม แม้แต่ตำรวจมันก็มาแทงด้วยแน่ะ
21. ร้านอาหาร JIN’S ที่อยู่หลังมหาวิทยาลัย อยู่คู่มหาวิทยาลัยมาเกือบ 10 ปีแล้ว (อาหารใช้ได้ แต่แพงไปหน่อย คนก็ไม่ค่อยมีแต่ไม่เจ๊งแฮะ)
22. เมื่อก่อนรอบๆ มหาวิทยาลัยมีร้าน “หมูกะทะ” เยอะมาก ไม่ว่าจะออกไปด้านหน้าหรือด้านหลังมหาวิทยาลัยมีหมดเลยจ้า รวมๆ แล้ว 5-6 ร้านได้
23. เมื่อก่อน food fair อยู่หลังตึก 5 แบ่งเป็น 3 ชั้น นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ชอบไปกินกัน
24. ปัจจุบันม. หอการค้าไทยเป็นมหาลัยที่มีอาจารย์เป็น “ผู้ช่วยศาสตราจารย์” มากที่สุดในมหาลัยเอกชน (100 กว่าท่าน)
ธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ในมหาวิทยาลัย
25. เด็กปี 1 หากไม่ต้องการรับน้องให้บอกพวกรุ่นพี่ไปว่าซิ่วจากที่อื่นมา แค่นี้ก้อไม่ต้องทำอะไรแล้ว
26. เวลาเข้าประจำซ้อมเชียร์ บางครั้งอาจจะเต็มแน่นบริเวณบันไดจุดใดจุดหนึ่ง ถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า
27. การขอลายเซ็นรุ่นพี่ คือ กิจกรรมที่ทุกคนชื่นชอบ เรียกได้ว่า Show แบบไม่ต้องอาย คนเยอะแยะ กลางfood fair กันเลยทีเดียว
ความเชื่อในมหาวิทยาลัย
28. นักศึกษาที่ “ม.หอการค้าไทย” เชื่อว่าห้ามสบตาเต่าในบ่อน้ำไม่งั้นจะเรียนไม่จบ (หากนับเต่าแล้วได้กี่ตัว ก็จะได้ F ตามจำนวนเต่านั้น)
อัพเดต : คุณเต่าพัฒนาแล้วนะ ใครเจอเต่าแล้วเรียกให้เพื่อนดู คนที่ชี้ จะ ติดF โดยเฉพาะก่อนสอบ เลิกมองบ่อญี่ปุ่นไปเลย ชัวร์สุด
29. ห้ามเดินข้าม “สะพานแดง” ในสวนญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัย ไม่งั้นจะเรียนไม่จบ
30. แต่ถ้านักศึกษาคนไหนเห็นปลาคาร์ฟในบ่อน้ำในสวนญี่ปุ่น จะพบแต่เรื่องดีๆ
31. ที่ม.หอการค้าไทย จะมี “แม่ไทรหรือต้นไทร” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัยที่อาจารย์ นักศึกษ าและบุคลากรเคารพสักการะ โดยเฉพาะเรื่องการสอบผ่าน แต่บอกก่อนนะว่า ขอพรได้อย่างเดียว ห้ามบน! เด็ดขาด
32. ถ้าใครคิดว่าเกรดดีเป็นคนเรียนเก่ง ให้กลับไปคิดใหม่ได้เลย เพราะเกรดดีของที่นี้ หมายถึงเกรด D+ และ D ตามออกเสียงภาษาอังกฤษ ไม่ได้หมายถึงเรียนเก่ง กวาด A เพียบ เหมือนที่คนทั่วไปเข้าใจนะ
ข้อมูลจาก : ไร้สาระนุกรม